ขั้นตอนเรียนต่อ
เรียนในต่างประเทศ : การเตรียมตัวและการสมัครเรียน

How to เลือกหลักสูตรที่ใช่ก่อนไปเรียนต่อ!

เรียนคณะอะไรดี สาขา แนะนำ

 

How to decide |อะไรคือหลักสูตรที่ใช่กันนะ?

การไปเรียนต่อไม่ได้ตัดสินใจง่ายๆ แล้วจะไปก็ได้ เพราะฉะนั้นเราจะต้องมั่นใจว่าที่ๆ ไปนั้นจะเวิร์คกับเรา ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะมีวิธีตัดสินใจแบบไหน คำถามอะไรที่ควรถามตัวเองบ้าง เอาล่ะ ไปดูกัน!

 

 

 

 

1. รู้ว่าตัวเองชอบอะไร

อย่าตัดสินใจทันที ใช่ อ่านถูกแล้ว! อย่าเพิ่งตัดสินใจทันทีตามความรู้สึก คำแนะนำที่ได้จากเพื่อน และ อันดับของมหาวิทยาลัยเป็นแค่ตัวอ้างอิง (reference) เท่านั้น คำถามคือ เราชอบอะไรและอยากจะเก่งด้านไหนต่างหาก แน่ล่ะ ไม่มีใครอยากจะเรียนๆ ไปแล้วก็มารู้ตัวทีหลังว่า “มันไม่ใช่ฉัน” วิธีการรู้ตัวเองอาจดูจาก

 

“รายวิชา”  เขียนรายชื่อหลักสูตรที่คุณสนใจ แล้วโหลด E-Prospectus หรือ Courses Syllabus (รายวิชา) ของหลักสูตรที่เราสนใจมาดูว่า พื้นฐานที่เรามีสามารถเรียนได้ไหม, เนื้อหาต่อยอดจากสิ่งที่เราสนใจไหม ลักษณะการเรียนการสอนเหมาะกับเราไหม เช่น ถ้าคอร์สให้คะแนนจากรายงานหน้าห้องทั้งหมด แต่เราเป็นคนที่พรีเซนท์ไม่ได้เลย ก็ไม่น่าเลือก หาอะไรที่เราทำได้ 50% และ ท้าทาย50% น่าจะดีกว่า

 

 

2 เกณฑ์การเลือกมหาวิทยาลัย

คุณควรทำลิสต์ของสิ่งที่คุณให้ความสำคัญสูงสุดในการเลือกมหาวิทยาลัยเช่น ชื่อเสียงของสถาบัน และ คุณภาพของหลักสูตร  สองเกณฑ์นี้สำคัญมาก ลอง พิจารณาว่าคุณมีความคาดหวังและต้องการประสบการณ์ด้านใดเคล็ดลับ : ถ้าเป็นในระดับโรงเรียนคณควรจะดู school ranking วิทยาลัยคุณควรจะเรื่องอันดับโดยสาขา (ranking by subject)  นอกจากนั้นลองดูเรื่อง

 

  • ความรู้จากประสบการณ์การเรียน: อ่านข้อมูลที่มีคนมารีวิวในบล็อกหรือ Facebook ของสถาบันที่ การอ่านหรือถามมากๆจะช่วยให้คุณประเมินสถาบันนั้นๆได้ถูกต้องกกว่าจากไซท์ของมหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียว  ฮอทคอร์สรวบรวมความคิดเห็นของนักเรียนจากทั่วทุกมุมโลกและเพื่อช่วยให้คุณในการตัดสินใจง่ายขึ้น ถ้าคุณเคยเรียนหรือมีเพื่อนกำลังจะไปเรียน คุณสามารถรีวิวสถาบันได้ที่นี่เพื่อช่วยให้ "รุ่นน้อง" ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
  • ความรู้จากประสบการณ์ชีวิต: ถ้าคุณต้องการสัมผัสกับชีวิตและวัฒนธรรมของประเทศที่จะศึกษา คุณควรมองไปที่มหาวิทยาลัยในเมืองใหญ่ที่มีกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอแต่ ถ้าคุณต้องการสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เงียบสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติคุณอาจเลือกเมืองอื่นที่ไม่ใช่เมืองหลวง

 

ที่สำคัญถ้าต้องการตัวช่วยแนะนำให้ปรึกษาผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญที่เพื่อนๆ สามารถเริ่มต้นปรึกษาได้ตั้งแต่วันนี้  ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายเพียงเริ่มต้น กรอกข้อมูลการติดต่อแล้วจะมีเจ้าหน้าที่โทรกลับให้คำปรึกษาเพื่อนๆ ทันที

 

ติดต่อ ปรึกษา เรียนต่อ

(ลงทะเบียนขอคำปรึกษาเจ้าหน้าที่ฟรี 👉 https://goo.gl/Wf9KFS )

 

 

3. Location : เรียนที่ไหน? ประเทศอะไร? และมีหอพักหรือไม่?

ถ้ามีโอกาสลองไปเยี่ยมชมหรือไปสำรวจมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาที่คุณ สนใจดูก่อน จะช่วยได้มาก เพราะมันจะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศและการเรียนการสอนจริง  อย่าลืมที่จะหาโอกาสในการถามรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรมาด้วย

 

พยายามอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดและคุณสมบัติ และข้อมูลหลายๆด้านเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยที่คุณสนใจ ไม่ว่าตะอ่านผ่านเว็บไซต์หรือจะอีเมลสอบถามโดยตรงกับมหาวิทยาลัยก็ ได้  ยิ่งเฉพาะถ้าคุณไม่มั่นใจว่าคุณจะได้รับการตอบรับหรือไม่ หาตัวสำรองเอาไว้ด้วย 

 

 

 

 

4. หลักสูตรมีระยะเวลาในการเรียนเท่าใด?

    ระยะเวลาในการ เรียนในแต่ละหลักสูตร  การรู้ระยะเวลาจะเป็นการทำให้คุณสามารถทราบว่าคุณจะสามารถเรียนในหลักสูตร นี้ได้หรือไม่ และเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายอีกด้วย

 

 

5. หลักสูตรมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?

อ่านจำนวนตัวเลขให้ถูกต้อง และก็อย่าล้มเลิกความตั้งใจจากมหาวิทยาลัยที่คุณต้องการ ลองหาทุนการศึกษาหรือเงินสนับสนุนก็สามารถได้

 

 

 

 

6. โอกาสในการทำงานในอนาคตมีอะไรบ้าง?

      เมื่อคุณจะหาข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสทางการทำงานที่ได้จากหลักสูตรที่คุณชอบ คุณจำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆประกอบกันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นความต้องการของตลาดโลก, ความมั่นคงทางการงาน, รายได้และความรับผิดชอบ

 

 

ทั้งนี้เพื่อช่วยให้การตัดสินใจ เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยง่ายขึ้น เราได้นำ 6  คู่มือมหาลัยอังกฤษยอดนิยม ที่คนดาวน์โหลดมากที่ในปี 2018 มาให้ดาวน์โหลดกัน  ในโบรชัวร์จะมีข้อมูลค่าเล่าเรียน การคัดเลือกเข้าเรียน และ ทุนการศึกษา ตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะรู้จักมหาวิทยาลัย และ หลักสูตร  กดดูได้เล้ย :)

 

-------------------------------------------------------

ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติม

 

 

 

 

MUST READ

article Img

ไขข้อสงสัย IELTS กับ TOEFL ต่างกันยังไง

ระบบคะแนน ทำความรู้จักระดับคะแนน IELTS กันก่อนล่ะกัน คือเขาจะแบ่งออกเป็นตั้งแต่ระดับ 1-9 สำหรับแต่ละทักษะ สอบเป็นฟัง พูด อ่าน เขียน พอได้คะแนนในแต่ละพาร์ทมาแล้ว เขาก็จะเอามาหารแล้วได้ออกมาเป็น Overall Score เช่นว่าบางที่อาจจะรับเฉพาะคนที่ได้คะแนนรวม 6 ขึ้นไปเท่านั้น ห้ามมีส่วนไหนได้ต่ำกว่า 5 ไรแบบนี้ (แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะบางมหาวิทยาลัยก็มี Presessional Courses ปรับพื้นฐานภาษาสำหรับคนที่คะแนนไม่ถึง)   แนะนำทางลัด

458.3K
article Img

วิธีเตรียมตัวไปเรียนต่อนอกภายใน 1 ปี

วิธีเตรียมตัวไปเรียนต่อนอกภายใน 1 ปี เอ๊…ถ้าอยากไปเรียนต่อต่างประเทศปีหน้า เราควรต้องเตรียมตัวช่วงไหนนะ? ตอนนี้มันจะสายไปมั้ยหรือยังไง? แล้วเดือนไหนควรต้องเตรียมอะไรบ้าง? หลาย ๆ คำถามเหล่านี้อาจเป็นคำถามในใจของใครหลาย ๆ คน ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนเราก็อาจจะหาคำตอบได้ยากหน่อย เพราะข้อมูลมันเยอะมากกกก จนต้องเอามาสรุปกันเองแบบงง ๆ (แอดมินเป็นมาก่อนค่า) แต่ไม่ต้องเครียดค่ะ วันนี้ Hotcourses Thailand ขอเสนอตัว

101.3K
article Img

รวมกลวิธีเตรียมสอบทุกทักษะ IELTS แบบไม่ง้อติวเตอร์

  ฝึกทักษะการฟัง - ดูรายการภาษาอังกฤษ ทักษะการฟังเป็นส่วนแรกที่เราจะต้องเจอในการสอบ IELTS ซึ่งโดยมากแล้วจะมาประมาณ 4 สถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป อาจจะเป็นการกรอกแบบสอบถาม การคุยกันกับเพื่อน เติมแผนที่ลงไปในโปรแกรมทัวร์อะไรเทือกๆ นี้     สิ่งหนึ่งที่เราต้องเตรียมตัวคือการฝึกหูของเราให้รับและคุ้นชินกับสำเนียงบริติช หลายครั้งคนไทยเราส่วนมากจะเจอแต่สำเนียงอเมริกัน จนเราชินกับสำเนียงเขาไปแล้ว

78.5K
article Img

IELTS Writing task 2 มีคำถามแนวไหน และต้องตอบอย่างไร

IELTS Writing task 2 มีคำถามแนวไหน และต้องตอบอย่างไร >>เตรียมตัวสอบ IELTS Speaking หัวข้อคำถาม >>หลักสูตรด้านภาษาอังกฤษ >>หลักสูตรภาษาอังกฤษแบบ EFL   (เรียนเป็นภาษาต่างประเทศ)   หลายๆ คนคงทราบว่าการสอบ IELTS นั้นแบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่การฟัง อ่าน เขียน และพูด ตามลำดับ โดยมีคะแนนเต็ม 9.0 ซึ่งจะนำคะแนนที่เราได้ในแต่ละ part มาเฉลี่ยกัน บทความนี้จะเจาะลึกที่การเขียน task 2

69.1K