10 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหารสวีเดน
วัฒนธรรมอาหารของสวีเดนนั้น มีมากกว่าเพียงแค่มีทบอลและลูกอมปลาเพียง เพราะยังมีเรื่องราวและอาหารที่น่าสนใจอีกมากให้คุณได้เรียนรู้ และนี่เป็น 10 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับอาหารสวีเดนว่าประเพณีและวัฒนธรรมทางอาหารของพวกเขาในชีวิตประจำวันนั้น เป็นอย่างไร
Lingonberry : ซอสสุดโปรดของชาวสวีเดน
ซอส Lingonberry ก็เป็นเหมือนกับซอสมะเขือเทศหรือมัสตาร์ด เพราะซอสชนิดนี้ถูกใช้ทั่วไปอยู่ในอาหารมากมายของสวีเดน ตั้งแต่มีทบอล, แพนเค้ก ไปจนถึงข้าวโอ๊ต แต่ทั้งๆที่ซอสชนิดนี้มีความหวาน แต่มันก็แทบจะไม่ถูกใช้ทานพร้อมอาหารประเภทขนมปังเลย
ปลาแฮร์ริ่งดอง : หัวใจของโต๊ะอาหาร
คุณอาจจะเคยเปลี่ยนจากการทำมีทบอลไปทำไส้กรอกหรือแซลมอนแทน แต่การจัดโต๊ะอาหารแบบสวีเดนนั้นจะไม่สมบูรณ์แบบเลย ถ้าขาดอาหารที่ชื่อปลาแฮร์ริ่งดอง เพราะนี่ถือว่าเป็นอาหารที่พวกเขารักและโปรดปรานมากที่สุดจนกลายเป็นอาหารมาตรฐานของมื้อที่ขาดไม่ได้
ตั้งแต่ช่วงสมัยยุคกลาง ชาวสวีเดนก็เริ่มนำปลาแฮร์ริ่งมาดองเพื่อถนอมอาหารและการขนส่ง เนื่องจากแถบทะเลบอลติกและชายฝั่งทางตอนเหนือนั้น มีปลาแฮร์ริ่งอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์
ปลาแฮร์ริ่งดองนั้น มีรสชาติมากมายหลากหลายให้คุณได้เลือก ตั้งแต่มัสตาร์ด, หัวหอมใหญ่, กระเทียมไปจนถึงผักชี โดยมากแล้วพวกเขามักจะทานกับมันฝรั่งต้ม, ซาวครีม, หัวหอม, ชีส, ไข่ต้มและ ขนมปังกรอบ
ขนมปังกรอบ : อาหารสุดแข็งแต่อร่อย
นอกเหนือจากขนมปังและเนยแล้ว บางครั้งคุณอาจจะได้พบกับอาหารที่ชื่อ knäckebröd หรือขนมปังกรอบ ที่ถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับอาหารจานหลักด้วยทุกครั้ง ขนมปังเป็นอาหารของชาวสวีเดนมามากกว่า 500 ปีแล้ว เนื่องจากช่วงสมัยแห่งความยากจน ทำให้ต้องมีการคิดค้นอาหารที่สามารถเก็บไว้ได้นานๆโดยไม่เสียและสามารถกินได้ตลอดฤดูกาล
โดยขนมปังกรอบของชาวสวีเดนนี้ มีหลายรูปทรง, ความหนา รวมถึงรสชาติ อีกทั้งยังสามารถโรยหน้าด้วยอะไรก็ตามที่คุณต้องการ เช่น หน้าไข่ต้มและปลาคาเวียร์สำหรับมื้อเช้า หน้าแฮม, ชีสและแตงกวาสำหรับมื้อเที่ยง และหน้าเนยสดสำหรับมื้อเย็น เป็นต้น
แซนวิชแผ่นเดียว
เมื่อคุณสั่งแซนวิชทานที่สวีเดน คุณไม่ต้องตกใจถ้าคุณจะได้พบกับขนมปังเพียงแค่ 1 แผ่นแทนที่จะเป็นขนมปังประกบเป็นคู่แบบที่เราเคยเจอทั่วไป โดยคอนเซปต์ของแซนวิชแผ่นเดียวหรือ Open sandwiches มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 คือ ขนมปังแผ่นหนาจะถูกใช้เป็นเหมือนกับจานรองอาหาร
ในสวีเดน แซนวิชกุ้ง หรือ räksmörgås ยังคงเป็นอาหารหลักที่เสิร์ฟ โดยหน้าของแซนวิชจะประกอบไปด้วยไข่ต้ม, ผักกาดหอม, มะเขือเทศและแตงกวากองโต ราดด้วยซอส creamy romsås
ซุปถั่วและแพนเค้ก
ชาวสวีเดนมากมายโตมากับการกินซุปถั่วและแพนเค้ก หรือ ärtsoppa och pannkakor ในทุกวันพฤหัส โดยประเพณีนี้ได้ถูกตั้งขึ้นมาจากกองทัพสวีเดนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากวัฒนธรรมของคาทอลิกได้แพร่กระจายไปทั่ว โดยมีการกำหนดว่าห้ามกินเนื้อในวันศุกร์ และต้องทานซุปถั่วในวันพฤหัส เนื่องจากเป็นอาหารที่คนรับใช้ก็สามารถทำได้ง่ายและลาหยุดครึ่งวันในทุกๆวันนี้ได้
โดยในปัจจุบัน อาหารกลางวันในร้านอาหารสวีเดนทั่วไปจะเสิร์ฟซุปถั่วและแพนเค้กราดซอส lingonberry ในทุกวันพฤหัส
Prinsesstårta : ความสวยงามตามแบบราชวงศ์
เค้กที่สร้างสีสันให้กับร้านเบเกอรี่ทั่วสวีเดนยังคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Prinsesstårta หรือเค้กสีเขียวนีออน ที่ตกแต่งหน้าด้วยน้ำตาลรูปกุหลาบสีชมพูแสนสดใส และยังประกอบกด้วยชั้นเค้กสีเหลืองสดที่ทำมาจากมะนาวและคัสตาร์ดวนิลา พร้อมด้วยวิปครีมหนักๆที่ทับด้วยน้ำตาลสีเขียวโดยรอบอีกชั้นหนึ่ง
โดย Prinsesstårta ได้ถูกคิดค้นขึ้นในประมาณปี 1920 โดย Jenny Åkerström อาจารย์ของ King Gustav ที่ห้า ลูกสาวของของเจ้าชาย Carl Bernadotte ซึ่งเจ้าหญิง Margaretha, Märtha และ Astrid ได้ชื่นชอบเค้กนี้เป็นอย่างมาก และจนกลายเป็นที่มาของชื่อเค้กนี้
ในปัจจุบันเค้ก Prinsesstårta ได้ถูกใช้เป็นเค้กที่รับประทานกันในช่วงโอกาสพิเศษหรือวันของเหตุการณ์สำคัญๆในชีวิต อีกทั้งยังสีสันของเค้กก็ยังถูกปรับแต่งให้มีหลายหลายมากขึ้น เช่น สีเขียวคลาสสิคและเหลืองสำหรับวันอีสเตอร์, สีแดงสำหรับวันคริสต์มาส, สีส้มสำหรับวันฮัลโลวีน, สีชมพูและฟ้าสำหรับงานปาร์ตี้ และสีขาวสำหรับวันแต่งงาน เป็นต้น
วันพิเศษสำหรับการทานของหวาน
ในสวีเดน ผู้คนมักจะหาข้ออ้างสำหรับการทำของหวานๆเสมอ ดังนั้นจึงมีวันพิเศษมากมายในปฏิทินที่พวกเขาคิดค้นขึ้นมาสำหรับการเฉลิมฉลอง เช่น Cinnamon Roll Day (Kanelbullens dag) ในทุกวันที่ 4 ตุลาคม, Fat Tuesday (fettisdagen) หรือวันอังคารแรกของฤดูใบไม้ร่วง สำหรับการทานขนมปังกลมพร้อมครีมและอัลมอนต์, ทุกวันที่ 25 มีนาคม เป็นวันสำหรับการทานวาฟเฟิล, ทุกวันที่ 6 พฤศจิกายน เป็นวันระลึกถึง King Gustav Adolf จะมีการทานเค้กช็อกโกแลต เป็นต้น
พวกเขาคลั่งไคล้กุ้ง
ปาร์ตี้กุ้ง หรือ kräftskivor เป็นหนึ่งเทศกาลที่โด่งดังในช่วงเดือนสิงหาคม ที่เมื่ออากาศอุ่นๆในยามเย็นเหมาะแก่การฉลองด้วยกุ้งสดๆในสวนหลังบ้าน โดยเทศกาลนี้ได้เริ่มต้นขึ้นจากงานเลี้ยงของชนชั้นสูงของสวีเดนในช่วงศตวรรษที่ 16 ที่กุ้งเป็นประหนึ่งอาหารรสเลิศ และหลังจากนั้นกุ้งก็กลายเป็นอาหารยอดนิยมและแพร่หลายทั่วสวีเดน จนราคาถูกลงและสามารถนำมาฉลองได้กันโดยทั่วไป
Surströmming : ช่วงแห่งปลาสุดเหม็น
ในทุกวัฒนธรรมมักจะมีอาหารอย่างน้อยหนึ่งอย่างที่พิเศษและทำให้ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวรู้สึกรังเกียจที่จะทาน โดยในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นกันยายนเป็นช่วงของเทศกาลที่จัดขึ้นทั่วไปทางตอนเหนือของประเทศ นั่นก็คือ การเปิดกระป๋องที่ดองปลาแฮร์ริ่งไว้นั่นเอง โดยเทศกาลนี้มีขึ้นมาตั้งแต่สมัยช่วงศตวรรษที่ 1800 แล้ว
ชาวบ้านที่ทำปลาดองเหล่านี้ จะทำกิจกรรมนี้ในกลางแจ้งเพื่อขับไล่ให้กลิ่นที่น่ารังเกียจนี้ลอยออกไป ซึ่งกลิ่นนี้เทียบได้กับไข่เน่ารวมกับน้ำเน่าดีๆนี่เอง
Lördagsgodis : วันเสาร์แห่งลูกอม
วันเสาร์เป็นเหมือนวันแห่งลูกอมของชาวสวีเดน และเป็นหนึ่งวันต่อสัปดาห์เท่านั้น ที่เด็กๆส่วนใหญ่ได้กินลูกอมตามใจชอบ โดยในปัจจุบันประเพณีนี้มีขึ้นก็เพื่อป้องกันการเกิดฟันผุของประชาชน แต่ในอดีตนั้นมีขึ้นจากการฝึกฝนทางการแพทย์ โดยในช่วงปี 1940-1950 นั้น โรงพยาบาล Vipeholm Mental ได้ทำการทดลองกับคนไข้เพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของลูกอมและอาการฟันผุ โดยพวกเขาได้มีการแจกลูกอมมากมายในการทดสอบนี้ และหลังจากผลการทดลองออกมา พวกเขากจึงได้ทำการแนะนำประชาชนว่าให้มีการทานลูกอมเพียงแค่สัปดาห์ละหนึ่งครั้งเท่านั้น เพื่อป้องกันการเกิดฟันผุ
-----------------------------------------------------------------------
ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติม
ความเป็นสวีเดน
เรียนต่อสวีเดน
หลักสูตรการเรียนในสวีเดน
TIPS :
นอกจากวัฒนธรรมอาหารชวนยั่วน้ำลายแล้ว ยุโรปก็ยังมีอีกหลายประเทศที่น่าสนใจสำหรับการเรียนต่อ ลองเช็กมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในยุโรป เพื่อวางแผนการสมัครคอร์สเรียนและสมัครทุน มีหลายสถาบันที่กำลังเปิดคอร์สเรียนใหม่ ลองดาวน์โหลดโบรชัวร์เพื่ออ่านรายละเอียดล่าสุด