จากประสบการณ์ที่เรียนปริญญาโทและใช้ชีวิตอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษมาหลายปี เราขอฟันธงเลยค่ะว่าไม่มีช่วงเวลาไหนในอังกฤษที่เหมาะแก่การช้อปกระจายคลายหนาวเท่า ‘คริสต์มาส’ อีกแล้ว เนื่องจากร้านรวงต่างๆ จะพร้อมใจกันลดราคาแบบไม่ยั้ง ทั้งของโนเนม แบรนด์เนม โดยเฉพาะหลังจากเทศกาลคริตส์มาสเป็นต้นไป ขอบอกว่าลดกันโหดมากป้าย Sale 50-80% มีให้เห็นเกลื่อนเมือง และเพื่อให้การช้อปของนักเรียนนอกทั้งหลายเป็นไปอย่างราบรื่น ในบทความนี้ฮอทคอร์สเลยมีเทคนิคในการช้อปมาฝากกันค่ะ
รู้จัก Boxing Day
ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จักกับ Boxing Day วันแห่งการให้และการรับ ซึ่งตรงกับ 26 ธันวาคมของทุกปี ร้านรวงหลายแห่งมักถือเอาวันนี้เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลลดราคายิ่งใหญ่ส่งท้ายปี บางคนที่เล็งสินค้าในดวงใจเอาไว้แล้วยอมไปต่อคิวรอหน้าห้างตั้งแต่เช้ามืดเลยทีเดียว เพราะต้องรีบชิงให้ทันก่อนขาช้อปคนอื่นจะแย่งไป หรือบางทีคุณอาจจะติดแหง่กอยู่ในรถบัสนานถึง 3 ชั่วโมง ฉะนั้น ถ้าไม่ได้มีใจฝักใฝ่ในของชิ้นไหนเป็นพิเศษ เก็บแรงไว้ช้อปหลัง Boxing Day ก็ได้ค่ะ ร้านค้าส่วนใหญ่ยังลดราคาไปอีกจนถึงกลางเดือนมกราคม
เตรียมพร้อมก่อนช้อป
อย่างที่บอกไปค่ะว่าร้านค้าต่างๆ #ลดราคาหนักมาก ขนาดเรายังตาลุกวาว แน่นอนว่าคนอื่นเขาก็แห่ออกมาจับจ่ายใช้สอยเช่นกัน บรรยากาศในการช้อปจึงวุ่นวายมาก เราจึงควรทำลิสต์รายการของที่ต้องซื้อไว้ก่อนล่วงหน้า ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้จดโค้ดของสินค้านั้นๆ ไปเลยค่ะ พอไปถึงร้านจะได้หาเจอง่าย และกำหนดเส้นทางไว้คร่าวๆ ก่อนเลยว่าวันนี้จะไปช้อปที่ไหนบ้าง
หากจะหาของขวัญของฝากถูกและดีสำหรับญาติพี่น้องในเมืองไทย แนะนำให้ซื้อเก็บไว้ตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสนี่แหละค่ะคุ้มสุดๆ ขอแอบกระซิบเคล็ดลับว่าถ้าอยากได้ของขวัญเก๋ๆ แบบไม่ซ้ำซากจำเจ ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากห้างใหญ่ไปเลือกหาตามร้านค้าท้องถิ่นหรือร้านแนวบูทีคดูบ้างก็เข้าที
ประหยัดได้อีก
นอกจากสินค้าแฟชั่นที่พากันตบเท้าลดราคาแล้ว บรรดาซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ก็มักจะมีส่วนลดพิเศษในช่วงคริสต์มาสด้วย เว็บช้อปออนไลน์ เช่น Amazon, eBay และบัตรเครดิตต่างๆ ก็มักมีโปรโมชั่นลดราคาในช่วงนี้เช่นกัน บางร้านค้ามีส่วนลดเพิ่มเมื่อแสดงบัตรนักเรียน/นักศึกษาด้วยค่ะ เรียกว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ลองเช็กดีๆ ประหยัดไปได้อีกเยอะค่ะ อ้อ! แล้วก็อย่าลืมใช้ Gift vouchers และบัตรสะสมแต้มที่มักจะหมดอายุสิ้นปีด้วยนะคะ พลาดไปเสียดายแย่
ชี้เป้า 5 แหล่งชอปปิ้งหลากสไตล์ในลอนดอน
1. Oxford street
เส้นเลือดใหญ่สำหรับการช้อปปิ้งในลอนดอน ห้างร้านส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่ 9.00-22.00 น. มีตั้งแต่แบรนด์ราคาไม่แรงมากอย่าง Nike, Topshop, H&M, SuperDry, Marks & Spencer ไปจนถึงแบรนด์เนมหรูหรา ย่านนี้มีของให้เลือกหลายระดับราคาเดินได้เป็นวันๆ เลยค่ะ
2. Knightsbridge
ห้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในย่านไนต์สบริดจ์คือ Harrods ซึ่งใหญ่โตมโหฬารและมีถึง 7 ชั้น ขาช้อปตัวจริงต้องลองมาเช็กอินสักครั้ง เวลามาย่านนี้เราจะได้เห็นศิลปะแบบดั้งเดิมผสมผสานอยู่กับความทันสมัยอย่างกลมกลืน เป็นอีกย่านที่เดินช้อปสนุกมากทีเดียว
3. Covent garden
ถ้าชอบแบรนด์วัยรุ่นกุ๊กกิ๊กแนวๆ สยามสแควร์บ้านเราย่านนี้ถือว่าตอบโจทย์ค่ะ นอกจากจะโด่งดังเรื่องการเป็นแหล่งช้อปแล้ว ที่นี่ยังมักมีนักแสดงเปิดหมวกทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นมาโชว์ตามท้องถนนอยู่บ่อยๆ อีกทั้งยังเป็น Theatre Land ของลอนดอนด้วยค่ะ เพราะมีโรงละครเวทีเล็กใหญ่ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก และอยู่ไม่ไกลจากไชน่าทาวน์ ซึ่งมีวัตถุปรุงอาหารจากเอเชียราคาย่อมเยาขายเพียบ นักเรียนไทยแวะไปเติมเสบียงกันได้นะคะ
4. Shoreditch
ย่านฮิปสเตอร์สุดเก๋และครบเครื่อง คนเลิฟของวินเทจมาย่านนี้ต้องถูกใจแน่นอน ที่นี่มีทั้งข้าวของมือหนึ่ง มือสอง แบรนด์สินค้าบูทีค และจะคึกคักเป็นพิเศษในวันอาทิตย์ค่ะ ตลาดที่เราไปบ่อยๆ ก็ได้แก่ Brick Lane Market และ Spitalfields Market ซึ่งมีของสวยๆ แปลกๆ เยอะมาก ถ้าเดินช้อปจนเหนื่อยแถวนี้ก็มีร้านอาหารและคาเฟ่ดูดีมีสไตล์ให้แวะนั่งพักเพียบ
5. Westfield London
ห้างใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป เป็นแหล่งรวมสินค้าไฮสตรีทแฟชั่นหลากหลายแบรนด์ เช่น ZARA, H&M, Gap, Aldo, Timberland, A/X ฯลฯ มีร้านอาหาร คาเฟ่ ครบจบในที่เดียว ในลอนดอนมีอยู่สองสาขาค่ะ คือ Shepherd’s Bush และ Stratford City
ขาช้อปคนไหนยังอยากอ่านต่อ ติดตาม เทคนิคการช้อปปิ้งออนไลน์ในยุโรปเมื่อมาเรียนต่อ กันได้ในเว็บไซต์ iPrice นะคะ