7 เคล็ดลับสำหรับการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่เพิ่มทุกวัน
เคยเป็นไหมคะ เวลาจะพูด จะเขียน ภาษาอังกฤษแต่ละที เรื่องแกรมม่าน่ะพอไหวอยู่ แต่มักจะชอบนึกคำศัพท์ไม่ออก โดยเฉพาะเวลาเขียนถึงหัวข้อที่เฉพาะทางมากๆ หรือต้องตอบคำถามแบบกระทันหัน ก็ตื่นเต้นจนลืมหมดไม่รู้จะใช้คำศัพท์อะไรมาอธิบายดี ฉะนั้น การสะสมคลังคำศัพท์จึงเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การฝึกทักษะภาษาอังกฤษด้านอื่นๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะคนที่กำลังเตรียมสอบข้อเขียนหรือสอบสัมภาษณ์ ควรจะเตรียมตัวเก็งคำศัพท์ที่มักพบบ่อย หรือต้องใช้แน่ๆ ในการสอบเอาไว้บ้างนะคะ ในบทความนี้ Hotcourses มีเคล็ดลับง่ายๆ สำหรับการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่เพิ่มทุกวันมาฝากกันค่ะ
1. ฝึกใช้คำศัพท์ใหม่ๆ ในประโยค
เวลาฝึกอ่านบทความภาษาอังกฤษหัวข้อที่เราชอบและสนใจ ลองจดคำศัพท์ที่น่าสนใจออกมา แล้วค้นหาดูว่าเราจะสามารถใช้คำศัพท์ไหนแทนคำนี้ได้อีกบ้าง เท่านี้เราก็จะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ เพิ่มแล้วค่ะ หรือจะใช้บริการเว็บไซต์อย่าง พจนานุกรมอ็อกซ์ฟอร์ด ที่มี Word of the day น่าสนใจมาแนะนำวันละหนึ่งคำ แล้วลองแต่งประโยคจากคำศัพท์นั้นดู ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเรียนรู้และฝึกใช้คำศัพท์ที่ดีค่ะ
2. ฝึกเปลี่ยนไวยากรณ์ให้คำศัพท์
คำศัพท์หลายๆ คำ เมื่อเป็นกริยา (Verb) ก็เขียนแบบหนึ่ง แต่พอเป็นคำนาม (Noun) หรือคำคุณศัพท์ (ADJ) ก็มักเขียนแตกต่างกันออกไป รวมถึงตำแหน่งและหน้าที่เมื่ออยู่ในประโยคก็ต่างกันออกไปด้วยค่ะ ซึ่งบางคนก็มาตรงม้าตายถูกหักคะแนน Writing เพราะเลือกใช้ประเภทของคำศัพท์ไม่ถูกต้องอยู่บ่อยๆ ฉะนั้น เมื่อรู้จักคำศัพท์หนึ่งคำแล้ว ก็ควรจะรู้ด้วยค่ะว่าเมื่อเปลี่ยนไวยากรณ์แล้ว หน้าตาของมันเปลี่ยนไปยังไงบ้าง
3. ฝึกคิดแบบเชื่อมโยง
การจดจำคำศัพท์แบบเป็นกลุ่ม จะทำให้เราจำได้เยอะและแม่นยำกว่าท่องจำทีละคำค่ะ อย่างเช่น เมื่อนึกถึงคำว่า car ซึ่งเป็น noun แปลว่ารถ เราก็ควรจะเชื่อมโยงไปว่า
- มี adjective อะไรบ้างที่ขยาย car ได้บ้าง เช่น fast, slow, rusty
- มี verb อะไรที่ใช้กับ car ได้บ้าง เช่น to Brake, to accelerate, to crash
- มี car ประเภทอะไรบ้าง เช่น Limousine, Jeep
หรือเมื่อนึกถึงคำว่า Big ซึ่งเป็น adjective แปลว่าใหญ่ ก็ลองคิดเชื่อมโยงดูว่ามีคำศัพท์ไหนที่แปลว่าใหญ่ได้อีกบ้าง
- เช่น vast, large, enormous, huge
- มีคำศัพท์ไหนที่ตรงข้ามกับคำนี้บ้าง เช่น small, tiny
- แล้วมี noun คำไหนที่ใช้ big ในการขยายได้บ้าง เช่น Elephant, a continent, Jupiter
4. จดคำศัพท์ใส่สมุดโน้ตเล็กๆ หรือสมาร์ทโฟน
ขณะรอคิวหรือนั่งรถเมล์นานๆ แทนที่จะเปิดดูเฟซบุคคนนู้นคนนี้ไปเรื่อยเปื่อย ลองเปลี่ยนมาเป็นการจดจำคำศัพท์ใหม่ๆ ดูสิคะ แล้วจะพบว่าในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนคุณได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ เยอะมาก ถ้ารู้สึกว่าการจำคำศัพท์เฉยๆ น่าเบื่อเกินไป ลองเชื่อมโยงคำศัพท์เข้ากับสถานที่ที่เรากำลังจะไปก็ได้ค่ะ เช่น กำลังจะนั่งรถไปกินข้าวกับเพื่อน ก็ท่องคำศัพท์เกี่ยวกับร้านอาหาร แบบนี้เป็นต้น
5. ใช้ประโยชน์จาก Flash cards
Flash cards คือกระดาษแผ่นเล็กๆ เจาะรูร้อยห่วงเข้าด้วยจนหนาเป็นปึก แล้วจดคำศัพท์ที่อยากจำ หรือสูตรเคมี สูตรคณิตศาสตร์ ไว้บนนั้น วิธีนี้เป็นที่นิยมของนักเรียนอเมริกันทั้งในระดับมัธยมและมหาวิทยาลัยเลยค่ะ เพราะนอกจากจะพกพาสะดวกแล้ว ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ Flash cards เราสามารถแกะปึกกระดาษออกมาสลับคำศัพท์ได้ค่ะ ถ้าเราจดคำศัพท์ใส่สมุดไว้เป็นแถวยาวๆ บางทีพอเจอคำแรกปุ๊บ เราจะนึกคำแปลของคำที่สองได้โดยอัตโนมัติ เพราะมันอยู่ต่อกัน กลายเป็นว่าเราจำได้ด้วยความเคยชินจากตำแหน่งที่คำนั้นๆ อยู่ต่อกัน แต่เราไม่ได้จดจำคำศัพท์นั้นได้อย่างแท้จริง และเมื่อจำคำศัพท์ไหนได้แม่นแล้ว เรายังสามารถดึงคำนั้นออก แล้วใส่คำใหม่ๆ เข้าไปแทนได้อีกด้วยค่ะ
6. อ่านให้เยอะและหลากหลาย
ถ้าได้อ่านสิ่งที่สนใจและรู้จักคำศัพท์ใหม่ๆ จากในนั้น จะทำให้เราสนุกและโฟกัสกับการฝึกได้นานกว่าการนั่งท่องศัพท์เฉยๆ ค่ะ ซึ่งสมัยนี้ก็ไม่ยากเลยกับการใช้อินเทอร์เน็ตหาบทความภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ อาจจะเป็นข่าวเมาท์ดาราหรือเรื่องกินเที่ยวอะไรทำนองนี้ก็ได้
7. หมั่นนำคำศัพท์ไปใช้บ่อยๆ
ตอนเรายังเป็นเด็กอายุขวบสองขวบที่เพิ่งเริ่มหัดพูดภาษาไทย คำที่เราจดจำได้ก่อน เช่น กินข้าว นอน ฉี่ มันไม่ใช่คำที่เรานั่งท่องอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่คำเหล่านี้ก็คือคำที่เราใช้บ่อยๆ ถูกไหมคะ ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษก็เช่นกันค่ะ การท่องจำจะทำให้เราจำได้เพียงระยะสั้นเท่านั้น สอบเสร็จก็ลืมหมด หรือบางทีลืมตั้งแต่ยังไม่ได้ไปสอบเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น ถ้าอยากจะจดจำให้ได้ในระยะยาว ก็ต้องหมั่นใช้คำศัพท์บ่อยๆ ค่ะ ถ้าไม่อยากลืมก็ต้องหมั่นฝึกฝนนะคะ