
การเปิดมหาวิทยาลัยต้อนรับนักศึกษาใหม่ในปีนี้นี่ต้องถือเป็นวินาทีประวัติศาสตร์ เพราะไวรัสโควิด-19 ก็ยังอยู่ ในหลายๆ ประเทศก็โดนคลื่นลูกที่สองของไวรัสตัวนี้เล่นงานเข้าแล้ว ดังนั้นอะไรๆ มันก็เลยต้องปรับเปลี่ยนกันไปหมด นี่ล่าสุดบรรดานักศึกษาก็พากันออกมาเล่าประสบการณ์การเข้าเรียนวันแรกให้หลายๆ สื่อฟังกัน มาฟังกันค่ะว่าแต่ละคนเค้าจะว่ายังไงกันบ้าง
ประสบการณ์ใหม่ที่ไม่มีใครเคยเจอ
ผู้ให้สัมภาษณ์: Katie Thorburn
มหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษา: University of Sydney
สาขาที่กำลังศึกษา: Bachelor of arts and bachelor of advanced studies.
“ฉันเริ่มเรียนที่ University of Sydney มาตั้งแต่ปี 2014 จนถึง 2018 ค่ะ ตอนนี้ก็กำลังทำงานอยู่และกำลังจะกลับไปเรียนต่อ ซึ่งตอนนี้หลายอย่างเปลี่ยนไปมากจริงๆ”
“ที่เห็นได้ชัดๆก็คือรูปแบบการเรียนค่ะ ตอนนี้คลาสทุกอย่างเป็นออนไลน์ทั้งหมดยกเว้นแค่คลาสเดียวเท่านั้นเอง การเข้าเรียนเพื่อจดเลคเชอร์ก็มาฟังกันออนไลน์แทน ซึ่งมันก็แปลกไปจากสมัยที่เราเคยเรียนกันในคลาสใหญ่ๆมากๆเลย สมัยที่เรียนในคลาสใหญ่ๆ ตอนนั้นเวลามีนักเรียนตั้งคำถามขึ้นมา ส่วนใหญ่เราฟังไม่ทันค่ะ ก็จะหลุดๆไป แต่ตอนนี้เราสามารถดูย้อนหลังได้ ทำให้จดได้ครบมากขึ้น อีกอย่างที่เห็นชัดๆคือ อาจารย์จะพูดช้าๆชัดๆ เผื่อสำหรับใครที่มาใหม่หรือยังไม่เข้าใจ ซึ่งถ้าเป็นหัวข้อที่เราถนัดหรือรู้อยู่แล้ว เราก็กดข้ามส่วนนั้นๆไปได้เลย มันทำให้ย่นระยะเวลาได้มากๆค่ะ อย่างเช่น จากคลาส 50 นาที ข้ามไปข้ามมาก็เหลือแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง”
“สำหรับคลาสที่ยังต้องเจอกันตัวต่อตัว อันนี้น่าสนใจมากๆค่ะ เพราะตอนที่ฉันเข้าไปเรียน มีคนเข้าคลาสกันแค่ 3 คน แต่ทุกคนใส่หน้ากากกันหมด และก็พูดกันไม่หยุดเลยค่ะ ดูแล้วทุกคนตื่นเต้นมากๆที่ได้กลับมาเจอกันแบบตัวต่อตัวอีกครั้ง
“งานปฐมนิเทศก็แอบแปลกนิดนึง เพราะทำกันผ่าน Zoom ซึ่งตัวฉันเองก็นั่งแปะอยู่บนเตียง และก็เปิดแล็ปทอปเอาค่ะ แล้วในงานคือมีกว่า 200 คนที่เข้ามาใน Zoom วันนั้น และมีกันตั้งแต่อยู่ในโรงแรมที่กักตัว หรือแม้แต่อีกซีกโลกในสิงคโปร์ คือมันหลากหลายมากๆและมันทำให้เห็นว่าทุกคนเข้าถึงได้กันหมดค่ะ
ผู้ให้สัมภาษณ์: Shajara Khan
มหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษา: University of NSW
สาขาที่กำลังศึกษา: Masters in international relations
“ตัวฉันเองเริ่มเรียนที่นี่มาตั้งแต่ปี 2015 ค่ะ และตอนนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างช่วงพักระหว่างเทอมค่ะ”
“จริงๆสำหรับตัวฉันเอง ไม่ได้คิดว่าการเรียนออนไลน์เป็นปัญหาเท่าไหร่ค่ะ เพราะใจจริงคือชอบมากที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่มหาวิทยาลัย เพราะปกติใช้เวลา 1 ชม.เลยค่ะกว่าจะถึง”
“แต่ข้อเสียที่เห็นชัดๆก็คือ บางทีเวลาคุยงานกันผ่าน Zoom มันก็กระอักกระอ่วนนิดนึง เพราะหลายๆคนไม่อยากเปิดกล้อง อย่างตอนที่ฉันประชุมงานกัน จริงๆมีกัน 40 กว่าคน แต่เปิดกล้องกันแค่ 3 คน คือมันทำให้เรารู้สึกขาดการเห็นสีหน้า การปฎิสัมพันธ์ มันไม่เหมือนเวลาเห็นหน้ากันจริงๆ ตรงนี้เองที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แล้วบางทีมันก็มีเรื่องสัญญาณเน็ตที่ช้าบ้าง ดีเลย์บ้าง ทำให้บางทีคนก็ไม่ค่อยกล้าที่จะถาม หรือบางทีก็ถามชนกัน มันก็ทำให้การถามคำถามยากขึ้น”
“คือส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับการเรียนแบบออนไลน์นะ และก็อยากให้คลาสทั้งหมดไปเป็นแบบออนไลน์ แต่ที่พูดได้เพราะสาขาที่ฉันเรียนไม่ได้ต้องมีคลาสที่ต้องเจอกันหรือมีภาคปฎิบัติมากนัก อย่างพวกบางสาขาก็อาจจะลำบากที่จะมาเรียนออนไลน์ทั้งหมด เพราะเค้าต้องเข้าแล็ปกันด้วย ก็เลยมองว่ามันแล้วแต่คลาสจริงๆค่ะ”
เข้าหอนักศึกษาแบบใหม่ ใส่หน้ากาก(ของจริง)เข้าหากัน!
มากันที่เรื่องราวของนักศึกษาจากฝั่งอเมริกากันบ้างค่ะ นักศึกษารายนี้มีชื่อว่า Caroline Rose ซึ่งเพิ่งย้ายเข้ามาในหอพักของมหาวิทยาลัย James Madison University ณ Harrisonburg, Virginia เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเค้าบอกเลยค่ะว่า ลืมประสบการณ์แบบเดิมๆที่ได้เจอเพื่อนร่วมหอ จิ๊จ๊ะ เม้าท์มอยกันหน้าตึกเหมือนเมื่อก่อน เพราะที่นี่มีกฎว่า รูมเมทจะต้องย้ายหอเข้ามาคนละวัน และคนละเวลากัน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรค และทุกคนต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาเวลาอยู่ในที่สาธารณะ รวมไปถึงเวลาเข้าใช้ห้องน้ำรวมด้วยค่ะ
นอกจากในหอพักแล้ว เวลาเข้าไปเรียนที่แคมปัสของมหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยก็ขอความร่วมมือให้นักศึกษาเซ็นต์ข้อตกลงที่เรียกว่า “stop the spread” หรือหยุดการแพร่กระจายเชื่อโรค เพื่อเป็นการเซ็นเพื่อรับรู้ว่าเมื่อเข้ามาในโซนมหาวิทยาลัยแล้ว นักศึกษาจะทำตามกฎอย่างเคร่งครัด เช่น ไม่รวมกลุ่มกันเกิน 10 คน ไม่อย่างนั้นอาจโดนลงโทษได้ค่ะ
จ่ายเงินค่าเช่าบ้านไปแล้ว แต่ต้องเงิบเมื่อคลาสย้ายไปเรียนออนไลน์!
มาดูด้านมหาวิทยาลัยในอังกฤษกันบ้างค่ะ เรื่องเล่าจาก Sara นักศึกษาที่ย้ายมาจาก Leeds และกำลังเรียนที่ King’s College London ในสาขา Internatioal Development ซึ่งเธอได้จ่ายค่าเทอมเรียนไปแล้วเป็นเงินจำนวน 9,250 ปอนด์ต่อปี แต่แล้วก็มีเรื่องต้องให้เงิบ เพราะในวันที่เธอเริ่มจ่ายค่าหอไปแล้วราวๆเกือบ 3,000 ปอนด์ เธอดันได้รับแจ้งว่าคอร์สของเธอจะสอนแบบออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนเป็นต้นไป!
เมื่อได้รู้ข่าว Sara ก็รีบย้ายกลับไป Leeds ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงแรกๆที่อังกฤษเริ่มล็อคดาวน์กันเลยค่ะ และทางมหาวิทยาลัยเองก็แจ้งว่า คลาสทั้งหมดของนักศึกษาปีสุดท้ายจะสอนแบบออนไลน์ในเทอมแรก ซึ่งรวมไปถึงการสัมมนา และการทำวิทยานิพนธฺต่างๆด้วย ในส่วนของเทอมที่สอง อาจจะมีการเปิดสอนแบบตัวต่อตัว แต่ทั้งที้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงนั้นค่ะ
Sara เองก็โดนพิษโควิด-19 เล่นงานไปเต็มๆและบอกว่า ถ้ารู้ว่าทางมหาวิทยาลัยจะสอนแบบออนไลน์แบบนี้ จะไม่เสียเงินและเสียเวลาจ่ายค่าหอไปเลยแม้แต่นิดเดียว เฮ้อ..
เพื่อน = คนในครอบครัว
ปิดท้ายกันเรื่องความเห็นจากเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัยกันบ้างค่ะ อย่าง Ceri Jones ที่ดูแลหอพักนักศึกษาให้กับนักเรียนกว่า 4,000 คนในเวลส์ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “เราเริ่มหันมาใช้หลักการอย่างที่รัฐบาลแนะนำ ซึ่งก็คือการจัดสรรการพบปะกันแบบครอบครัว นั่นก็คือ เวลาที่นักเรียนใหม่มาถึง เราก็จะแบ่งจัดให้นักเรียนคนนั้นๆกับรูมเมทเป็น “ครอบครัวเดียวกัน” หรือที่เรียกว่า Student bubbles ซึ่งก็ทำให้นักเรียนสามารถพบปะ สังสรรค์กับคนในครอบครัวเดียวกันได้ แต่ยังไงก็ตาม นักเรียนทุกคนก็ยังต้องปฎิบัติตามกฎ Social distancing หรือรักษาระยะห่างกันเมื่อเจอกันอยู่ดีค่ะ
และจากที่รัฐบาลประกาศไปเมื่อเร็วๆนี้ ตอนนี้ทางนักเรียนก็เลยไม่ได้รับอนุญาตให้เจอคนนอกเหนือจากคนในครอบครัวของตัวเองได้ และยังให้คนนอกครอบครัวมาค้างหรือจัดปาร์ตี้กันไม่ได้ค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับประสบการณ์ต่างๆที่ Hotcourses Thailand เอามาฝากกัน ยังไงก็ฟังไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจนะคะ ทาง Hotcourses Thailand เชื่อมากๆว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นในไม่ช้า และถึงวันนั้น เราคงได้ยินประสบการณ์อีกแบบแน่นอนค่ะ
Credit:
https://www.theguardian.com/australia-news/2020/aug/30/you-just-feel-disconnected-how-covid-has-upturned-uni-students-lives
https://www.bbc.co.uk/news/uk-wales-53767892
https://www.bbc.co.uk/news/education-54025181
https://www.theguardian.com/us-news/2020/sep/12/us-universities-colleges-coronavirus-cases-surges