พ่อแม่ และ การเรียนต่อต่างประเทศของลูก
:สิ่งที่ผู้ปกครองควรทราบเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศ
เป็นเรื่องสำคัญมากในการเข้าใจว่าพ่อแม่หรือผู้ปกครองจะต้องการเหตุผลเพิ่มเติมหรือมากมายเพียงพอ ก่อนที่พวกเขาจะยอมปล่อยให้ลูกไปเรียนต่อในต่างประเทศเป็นปีๆ เพราะพวกเขาจะรู้สึกกังวลตลอดเวลา ถึงแม้จะรู้ดีว่ามันเป็นกระบวนการที่ทำให้ลูกๆของพวกเขาเติบโตและมีโอกาสในอนาคตก็ตาม
วิธีที่ดีที่สุดทั้งกับนักเรียนและผู้ปกครอง ก็คือ การพูดคุยกันอย่างเปิดอกหรือตรงไปตรงมาเกี่ยวกับการตัดสินใจและเหตุผลว่าการเรียนต่อต่างประเทศนั้นมีความสำคัญมากเพียงใด เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้รับทราบข้อมูลที่ตรงกัน และนี่เป็นหัวข้อการสนทนาที่ทั้งสองฝ่ายควรนำมาพูดคุยกัน :
สำหรับนักเรียน : ประเด็นที่ควรอธิบายและพูดคุยกับพ่อแม่
- ประสบการณ์ในต่างประเทศสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าสนใจให้กับใบประวัติการทำงาน เพราะนายจ้างมากมายคิดว่าผู้ที่เรียนในต่างประเทศนั้นมีความคิดริเริ่มและความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่แค่ในตลาดงานในประเทศเท่านั้นแต่ในระดับนานาชาติ
- การเรียนต่อต่างประเทศเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฝึกฝนภาษาซึ่งเป็นอีกหนึ่งทักษะที่จำเป็นในการทำงานในระดับสากล อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ดีเรียนรู้ความต่างทางวัฒนธรรมด้วย
- การใช้ชีวิตในต่างประเทศเป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาทัศนคติและการพึ่งพาตัวเอง โดยสามารถเรียนรู้ได้จากสิ่งรอบตัวและจากตัวเอง
- การเรียนต่อต่างประเทศเป็นประสบการณ์เพียงครั้งเดียวในชีวิต ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถไปเที่ยวในประเทศนั้นๆเองได้ในภายหลัง แต่การใช้ชีวิตอยู่กับการไปเที่ยวนั้นไม่เหมือนกัน เพราะสิ่งที่คุณได้คือประสบการณ์และโอกาสที่มีแต่นักเรียนเท่านั้นที่จะได้รับ
สำหรับผู้ปกครอง : คำถามที่ควรถามลูกของคุณ
- ถามเกี่ยวกับหลักสูตรหรือสาขา เช่น จะไปเรียนหลักสูตรอะไร? ได้ปรึกษากับผู้รู้หรือหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆแล้วหรือยัง? แล้วนักเรียนที่เคยไปเรียนหลักสูตรนี้มาก่อน เขามีประสบการณ์ที่ดีกลับมาหรือไม่?
- ถามเกี่ยวกับเรื่องสถานที่เรียน เช่น ตั้งใจว่าจะเรียนที่ประเทศอะไร? ประเทศนั้นมีนักเรียนต่างชาตินิยมไปเรียนมากน้อยแค่ไหน? แล้วนักเรียนที่เคยไปเรียนมา พูดถึงประเทศนั้นๆว่าอย่างไรบ้าง?
- ถามเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย เช่น ประเทศหรือเมืองที่ตัดสินใจจะไปนั้น เป็นเมืองที่ปลอดภัยหรือไม่? เมืองอันตรายของประเทศนั้นคือที่ไหน? แล้วระบบสาธารณสุขของที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง?
- ถามเกี่ยวกับที่พัก เช่น บ้านพักแบบไหนที่จะไปอาศัยอยู่? สามารถหาที่พักได้เองหรือไม่ หรือมีหน่วยงานหรือบริษัทอะไรที่มาคอยดูแลเรื่องพวกนี้? สนใจที่จะไปอยู่แบบโฮมสเตย์หรืออยู่แบบหอพักของมหาวิทยาลัย? แล้วทางเลือกไหนที่ดีกว่าและแต่ละที่มีค่าใช้จ่ายต่างกันอย่างไรบ้าง?
- ถามเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่าย เช่น อัตราแลกเปลี่ยนเท่าไหร่ และค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยเป็นอย่างไร? วางแผนค่าใช้จ่ายที่จะใช้ในการท่องเที่ยวหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆไว้อย่างไร? ที่มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาหรือไม่?
สำหรับทั้งพ่อแม่และลูก : ร่วมมือกันในการเตรียมพร้อม
- สมัครการแชตหรือพูดคุยทางอินเตอร์เนต อย่างเช่น Skype เพื่อให้ทั้งพ่อแม่และลูกสามารถพูดคุยและวิดีโอหากันได้ฟรี และไม่รู้สึกห่างไกลกัน
- หาข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือในต่างประเทศ เพราะโดยมากแล้วเป็นการง่ายกว่าที่จะหาซื้อมือถือจากประเทศไทยไปเลย แต่ก็มีบางบริษัทที่เสนอทางเลือกที่คุณสามารถซื้อมือถือได้ที่โน่นในราคาถูก เช่น อเมริกา นอกจากนี้ ตรวจสอบเรื่องปลั๊กไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่พกไปด้วย ว่าสามารถใช้กับกระแสไฟฟ้าในประเทศนั้นหรือไม่
- ตรวจสอบเรื่องการจัดการทางการเงิน ทั้งในเรื่องบัตรเครดิตและบัญชีเงินฝาก โดยไม่ว่าคุณจะเลือกธนาคารอะไร ต้องแน่ใจว่าธนาคารนั้นสามารถใช้งานได้ข้ามประเทศ
- ให้ทุกคนเตรียมพร้อมกับอาการ homesickness และมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาและมันจะผ่านไปได้ในที่สุด
- ถ้าเป็นไปได้ ลองให้พ่อแม่ไปเยี่ยมคุณในต่างประเทศด้วย เพื่อให้เขารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตใหม่ของคุณ และ ได้รับรู้ว่าคุณอาศัยอยู่อย่างไรและคุณไปเรียนอะไรที่นั่นบ้าง นอกจากนี้มันก็อาจจะเป็นการฮันนีมูนครั้งที่สองสำหรับพวกเขาอีกครั้งก็ได้!
สุดท้าย มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณต้องจำไว้เสมอว่า การเรียนต่อต่างประเทศนั้นเป็นประสบการณ์ที่จะทำให้คุณได้เติบโต ดังนั้น ทำไมไม่เริ่มต้นที่จะพูดคุยแบบผู้ใหญ่และตรงไปตรงมากับพ่อแม่ของคุณละ? ส่วนสำหรับพ่อแม่นั้น จำไว้เสมอว่า มหาวิทยาลัยและการเรียนต่อต่างประเทศนั้น เป็นการสร้างความเป็นตัวของตัวเองให้กับลูกของคุณ ดังนั้น ทำไมไม่ลองสนับสนุนลูกของคุณดูละ?
---------------------------------------
บทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม
เรียนต่อต่างประเทศ
10 เมืองยอดเยี่ยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ
สุขภาพดีแม้อยู่ต่างแดน
7 เคล็ดลับการหาที่พัก