
ต้องยอมรับว่าเดี๋ยวนี้งานหายากพอๆ กับเพชรเลยค่ะ บัณฑิตจบใหม่ก็ฟาดฟันกับการหางานมาก การพัฒนาและฝึกฝนตัวเองอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก หนึ่งวิธีที่จะทำได้ก็คือ ‘การฝึกงาน’ หรือ Internship นั่นเอง เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มพูนทักษะแล้ว ยังทำให้นายจ้างเห็นว่าเรามีความตั้งใจและสนใจงานในวงการนั้นๆ อย่างแท้จริงด้วยนะ
Hotcourses Thailand เลยเอาเคล็ดลับในการหาที่ฝึกงานมาฝากสำหรับคนที่กำลังสนใจเรียนต่อและฝึกงานในต่างประเทศมาฝากกัน
1. เขียน CV ให้น่าสนใจและเหมาะกับสายงาน
CV (Curriculum vitae) เป็นปราการด่านแรกที่หน่วยงานต่างๆ ใช้ในการพิจารณาว่า ใครน่าสนใจพอที่จะเรียกตัวมาสัมภาษณ์หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการสมัครงานหรือสมัครฝึกงานก็ควรทุ่มเทกับการเขียน CV อย่างเต็มที่ เพื่อแสดงให้ผู้พิจารณาเห็นว่าเรามีศักยภาพอะไรบ้าง นอกจากข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้นแล้ว สิ่งที่ควรใส่ลงไปใน CV คืองานอดิเรกและความสนใจที่ดูเป็นประโยชน์ต่อสายงาน ไม่ว่าจะเป็น
- งานอาสาสมัคร กิจกรรมเด่นๆ ที่เคยทำ
- หากเคยทำงานพาร์ทไทม์มาก่อนก็อย่าลืมระบุลงไปด้วย
- ทักษะ ความสามารถพิเศษ โดยเฉพาะทักษะที่เกี่ยวข้องกับงาน
- ตัวอย่างผลงาน (ถ้ามี)
วิธีเขียน CV RESUME สำหรับคนที่จบใหม่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย
COVER LETTER คืออะไร? วิธีเขียนให้น่าสนใจ และตัวอย่าง COVER LETTER ภาษาอังกฤษ
2. ขอคำปรึกษาจากศูนย์บริการด้านชีพของมหาวิทยาลัย
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยในต่างประเทศหลายแห่ง มีศูนย์บริการด้านอาชีพ หรือ Careers service คอยดูแลให้คำแนะนำเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพหลังจบการศึกษา และส่วนใหญ่ก็รวมการฝึกงานด้วย ที่ศูนย์เหล่านี้มีเครือข่ายร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและธุรกิจขนาดใหญ่หลายแห่ง หากหน่วยงานใดมีตำแหน่งงานว่างหรือต้องการนักศึกษาฝึกงาน ฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็มักจะส่งข้อมูลมายัง Careers service ก่อนเป็นอันดับแรก
นอกจากนี้พวกเขายังมีฐานข้อมูลศิษย์เก่าที่กระจายตัวไปทำงานอยู่ตามหน่วยงานชั้นนำต่างๆ รวมถึงมีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาด้านอาชีพขึ้นเป็นประจำ เพราะฉะนั้นควรไป check in ที่ careers service นี้บ่อยๆ เพื่ออัพเดตข่าวสารนะจ๊ะ
3. ลองส่งใบสมัครไปไม่ใช่เรื่องเสียหาย
หากสนใจร่วมงานกับบริษัทไหนเป็นพิเศษ ลองส่ง CV ไปทางอีเมลเลย! และควรเขียนจดหมายแนะนำตัวอธิบายสั้นๆ อธิยายว่า ทำไมจึงสนใจฝึกงานที่บริษัทนี้ ขั้นตอนนี้ควรเตรียมตัวล่วงหน้าประมาณ 3-6 เดือน และไม่ต้องคาดหวังมากนักว่าจะได้รับการตอบกลับ เพราะทุกๆ อีเมลที่ส่งไปประมาณ 50 ฉบับ อาจมีเพียง 5 บริษัทที่ตอบกลับมาเท่านั้น
แต่! อย่าเพิ่งท้อไป ถ้าอยากฝึกงานกับบริษัทไหนจริงๆ ให้ส่งอีเมลไปอีกฉบับเป็นการถามถึงความคืบหน้าว่าไปถึงไหนแล้ว ใครจะไปรู้ อาจจะได้ฝึกงานขึ้นมาก็ได้นะ ความเพียรพยายามเป็นขั้นตอนสำคัญของความสำเร็จ!
4. ทำงานอาสาสมัครหรือเข้าร่วมกิจกรรมนอกห้องเรียนไว้บ้าง
บริษัทนั้นไม่ได้มองหาคนที่เก่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังมองหาทักษะอื่นๆ ที่สำคัญต่อการทำงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นทักษะการสื่อสาร หรือการเข้าสังคม ซึ่งสิ่งนี้สามารถสร้างและฝึกฝนได้จากการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานอาสาสมัคร หรือออกค่ายช่วงปิดเทอม กิจกรรมเหล่านี้ ถ้าหากเกี่ยวข้องกับสายงานก็จะทำให้ CV ของเราโดดเด่น สะดุดตานายจ้างมากขึ้นไปอีก
โครงการเหล่านี้จะเปิดโอกาสให้แต่ละคนได้ทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมากขึ้น
- Work and Travel ใครเรียนสายโรงแรม หรือการบริการ โครงการตอบโจทย์มาก
- Aeisec องค์กรนักศึกษานานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใครอยากทำกิจกรรมกับเด็ก คิดโครงการในต่างประเทศ ควรเข้าไปหาข้อมูล
- Work and Holiday โครงการที่รัฐบาลออสเตรเลียและนิวซีแลนด์สนับสนุนอย่างจริงจัง งานก็จะหลากหลายมาก ไม่วาจะเป็นงานบาริสต้า เด็กเสิร์ฟ งานออฟฟิศ งานขายของแบรนด์เนมในห้าง ฯลฯ ที่หลากหลายเพราะโครงการนี้เปิดโอกาสให้หางานอะไรก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าแต่ละงานห้ามทำเกิน 6 เดือนสำหรับออสเตรเลีย
โครงการ WORK AND HOLIDAY ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
รวม 11 โอกาส สานฝันคนที่อยากไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ!
5. สมัครโครงการฝึกงานผ่านเอเจนซี่
วิธีนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการดำเนินการไปได้มากโข และเหมาะกับคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในต่างประเทศ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้คำแนะนำตั้งแต่สเต็ปแรก และหากเกิดปัญหาในระหว่างฝึกงานก็สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากเอเจนซี่ได้ นอกจากนี้ บางแห่งยังมีการนำเสนอคอร์สเรียนภาษาอังกฤษหรือหลักสูตรประกาศนียบัตรควบคู่ไปกับการฝึกงานด้วย เอเจนซี่ส่วนใหญ่มักมีการเรียกเก็บค่าโครงการตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน หากต้องการใช้บริการควรตัดสินใจอย่างรอบคอบและหาข้อมูลเปรียบเทียบจากหลายๆ แหล่งก่อนตัดสินใจ
ทำความรู้จักเอเจนซี่ผี! ตามหลอก (เอาเงิน) คนที่อยากไปเรียนต่อนอก!
RECHECK ความพร้อมก่อนสมัครเรียนต่อกับ AGENCY
Edited and Updated content by Pattama K