ขั้นตอนเรียนต่อ
เรียนในต่างประเทศ : การเตรียมตัวและการสมัครเรียน

3Es : เกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกสถาบันการศึกษา

share image

3Es : เกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกสถาบันการศึกษา

      การเรียนต่อต่างประเทศนั้นถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม และคุณจะได้รับสิ่งต่างๆมากมายจากการไปในครั้งนี้  แต่ก่อนที่คุณจะไปนั้น คุณจำเป็นที่ต้องเลือกก่อนว่าจุดหมายปลายทางของคุณนั้นคือที่ใด โดยแต่ละคนก็อาจจะมีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป  แต่ถึงอย่างนั้น ในบรรดาเหตุผลเหล่านั้น ก็มีหลักเกณฑ์หลักๆอยู่ สามหลักเกณฑ์ด้วยกัน ที่เราสามารถนำมาเป็นหลักในการพิจารณาได้ง่ายๆ  คือ Education, Experience และ Enhancement  ลองมาดูกันว่าแต่ละ E นั้น มีอะไรในนั้นกันบ้าง

1.EDUCATION (การศึกษา)

      ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หนึ่งในเหตุผลหลักในการไปเรียนต่อต่างประเทศของคุณคือการศึกษา ทั้งในเรื่องของหลักสูตร, เนื้อหาและระบบการสอนของต่างประเทศที่ได้รับการยอมรับ  มาดูว่าหลักเกณฑ์ที่นำมาพิจารณาในหัวข้อแรกนี้มีอะไรบ้าง

ภาษา

      หนึ่งในปัจจัยหลักของการเรียนต่อต่างประเทศของนักเรียนต่างชาติ ก็คือ ภาษาของประเทศที่พวกเขาเลือกที่จะเป็นจุดหมายปลายทางในการเรียนต่อ โดยพวกเขามองหาประเทศที่เขาสามารถเรียนรู้ภาษาที่สองได้อย่างที่พวกเขาต้องการ พร้อมๆกับการเรียนรู้วัฒนธรรมไปด้วย  แต่ถ้าทักษะทางภาษาของพวกเขาอยู่ในระดับสูง พวกเขาก็จะเลือกจุดหมายปลายทางจากในเรื่องของหลักสูตรและลักษณะการสอนประกอบด้วย

      ถึงแม้ว่าคุณจะยังมีไม่ได้มีความสามารถทางภาษาอังกฤษในระดับสูง แต่การไปเรียนต่อยังต่างประเทศนั้น เป็นวิธีที่เร็วมากในการพัฒนาทักษะของคุณ เพราะการเรียนภาษาไปพร้อมๆกับการใช้ชีวิตกับเจ้าของภาษาจริงๆนั้น มีประสิทธิภาพอย่างไม่น่าเชื่อ คุณจะเห็นผลได้ทันทีว่าคุณพูดและฟังได้อย่างดีขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว

      แต่ที่ห้ามลืมเป็นอันขาดก็คือ เมื่อคุณไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว คุณอย่ามัวแต่คลุกอยู่กับเหล่าเพื่อนๆที่มาจากประเทศเดียวกับคุณ เพราะถ้าทำอย่างนั้น ทั้งหมดที่คุณมาเรียนต่อที่ต่างประเทศก็เป็นอันไร้ความหมาย เพราะคุณจะไม่ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ รวมถึงไม่ได้พัฒนาทักษะทางภาษาของคุณเลย ดังนั้น คุณควรออกมาจากจุดสบายของคุณเสีย แล้วเริ่มต้นใหม่กับเพื่อนใหม่ๆ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เก่งในการพูดภาษาต่างประเทศ  แต่สิ่งสำคัญคือความพยายาม ถ้าคุณตั้งใจแล้ว อย่าน้อยคุณก็จะได้ฝึกฝน และพวกเขาก็จะพยายามช่วยและสนับสนุนคุณเอง

ระบบการศึกษา

      สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ เรื่องของระบบการศึกษา เพราะโดยมากแล้ว  ระบบการศึกษาในแต่ละประเทศนั้นจะมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้น คุณควรพิจารณาดูว่า ระบบการศึกษาของประเทศที่คุณเลือกนั้นเป็นอย่างไร และมีประสิทธิภาพตามที่คุณต้องการหรือไม่

      นักเรียนต่างชาติบางคน อาจจะมีปัญหากับการเรียนในรูปแบบของการแชร์ความคิดเห็นกันหรือถกเถียงกันในห้องเรียน  เพราะเคยเจอแต่ระบบที่เป็นการเรียนโดยการจดแต่เพียงอย่างเดียว หรือบางคนอาจจะมีปัญหากับการที่ต้องทำงานหรือการบ้านในปริมาณมากอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน เป็นต้น ขึ้นอยู่กับในเรื่องของความตั้งใจ, ความแข็งแกร่ง และความเตรียมพร้อมของคุณ ดังนั้นแล้ว คุณควรศึกษาในเรื่องระบบการศึกษาให้ดีก่อนการตัดสินใจ เพื่อจะได้หาหนทางรับมือได้อย่างเหมาะสม

การได้รับความเชื่อถือ

      ความเชื่อถือและชื่อเสียงของสถาบันการศึกษา เป็นสิ่งที่คุณควรพิจารณาด้วย เพราะมันจะเป็นสิ่งที่รับประกันว่าสถาบันการศึกษาที่คุณกำลังจะเลือกนั้น เป็นสถาบันที่มีคุณภาพจริงๆ และมีมาตรฐานในระดับสากล โดยคุณสามารถพิจารณาได้จากการจัดอันดับต่างๆที่มีประกาศออกมาในแต่ละปี รวมถึงสอบถามจากที่ปรึกษาหรือจากนักเรียนคนอื่นๆที่เคยไปศึกษา ณ สถาบันเหล่านั้น ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจของคุณ

2.EXPERIENCE (ประสบการณ์)

      คุณอาจจะเคยได้ยินมามากเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้รับจากการไปเรียนต่อต่างประเทศ จึงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่นำมาพิจารณาด้วย  โดยมีส่วนสำคัญๆในหัวข้อนี้ดังนี้

สิ่งที่ได้รับระหว่างเรียน

      ในการไปเรียนต่างประเทศ คุณจะไม่ได้รับแต่เพียงความรู้ในห้องเรียนเท่านั้น แต่คุณยังจะได้รับความรู้และประสบการณ์ในระหว่างที่คุณทำกิจกรรมต่างๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัย. ชมรม หรือแม้แต่การออกค่ายท่องเที่ยวต่างๆ  ดังนั้น คุณควรพิจารณาดูว่าสถาบันไหนบ้าง ที่ให้คุณในเรื่องนี้ได้อย่างที่คุณต้องการ แต่ทั้งนี้ คุณก็ต้องสนใจเรื่องเหล่านี้ด้วย ไม่ใช่เอาแต่นั่งเรียนเพียงอย่างเดียว

วัฒนธรรมที่แตกต่าง

      สามารถพูดได้ว่าการใช้ชีวิตในต่างประเทศนั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเปิดโลกของคุณให้กว้างขึ้น พร้อมทั้งเรียนรู้วัฒนธรรมและผู้คนในประเทศอื่น เพราะคุณจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาด้วยวิธีแบบ inside out คือ เรียนรู้จากเจ้าของประเทศเอง โดยเฉพาะถ้าคุณยิ่งไปพักอยู่กับ host family หรือ นักเรียนจากประเทศอื่น ก็ยิ่งทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าการอ่านจากหนังสือเป็นไหนๆ

การใช้ชีวิตที่แตกต่าง

      หนึ่งในอีกเหตุผลหนึ่งที่นักเรียนมักนำมาใช้ในการเลือกสถาบันการศึกษาก็คือ มีความแตกต่างจากโรงเรียนเดิมในบ้านเกิดของเขา เช่น ถ้าเดิมคุณเคยอยู่ในสถาบันขนาดเล็ก ก็ขอให้เลือกสถาบันที่มีขนาดใหญ่แทน หรือถ้าคุณเคยเรียนในสถาบันที่ตั้งอยู่ในแถบชนบท ก็ขอให้เลือกสถาบันที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง เพราะมันจะเป็นวิธีที่ทำให้คุณได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และโอกาสใหม่ๆที่คุณไม่เคยมีมาก่อน

มุมมองในแบบสากล

      ไม่ใช่แค่เพียงในเรื่องของวัฒนธรรมเท่านั้น แต่คุณยังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับมุมมองการมองโลกที่เปิดกว้างมากขึ้น  อีกทั้ง คุณยังได้เรียนรู้อีกว่าแบบไหนที่เป็นมุมมองที่แต่ละประเทศยอมรับ เช่น ถ้าคุณไปเรียนต่อในอเมริกา คุณก็จะได้เรียนรู้ว่าคุณควรจะมีมุมมองแบบไหนถึงจะสามารถทำงานและสื่อสารกับคนอเมริกาได้อย่างถูกต้อง เป็นต้น เพื่อให้ในอนาคตคุณสามารถทำงานในประเทศเหล่านี้ได้ต่อไปอย่างไม่มีปัญหา

3.ENHANCEMENT(การพัฒนา)

      ถึงแม้ว่า E นี้จะเป็นสิ่งที่อาจจะวัดค่าไม่ได้หรือมองไม่เห็นเป็นรูปธรรมในการนำมาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจเลือกสถาบันการศึกษา แต่ก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ เพราะหลังจากที่คุณผ่านการเรียนรู้และได้รับประสบการณ์มาแล้ว ปลายทางของสิ่งเหล่านั้น ก็คือ พัฒนาการที่คุณจะได้รับ ว่าจะเกิดขึ้นมาน้อยเพียงใด  และนี่ก็คือพัฒนาการสำคัญที่คุณจะได้รับจากการเรียนในต่างประเทศ

พัฒนาทักษะทางอาชีพ

      นี่คือประโยชน์สำคัญที่คุณจะได้รับจากการเรียนในต่างประเทศ แต่นักเรียนส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยคำนึงถึงในจุดนี้  โดยการไปเรียนต่างประเทศจะทำให้คุณได้รู้จักและได้เข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจในระดับนานาชาติ  อีกทั้งทักษะที่คุณได้รับมา (ทั้งในเรื่องของภาษา, การเข้าใจความต่างทางวัฒนธรรม, ความยืดหยุ่นและปรับตัว, มุมมองสากล เป็นต้น) ล้วนเป็นประโยชน์ในโลกของธุรกิจระดับโลกทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่เรื่องภาษาเท่านั้นที่ทำให้คุณโดดเด่น แต่ยังเป็นเรื่องของความสามารถในการสื่อสารและความเข้าใจ กับผู้คนที่มีพื้นฐานและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน  และคุณนั่นแหละจะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัตินั้น

      อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ทั้งหลายที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ไม่ได้จะเกิดกับทุกคนในทุกหัวข้อเสมอไป บางคนอาจจะได้มาก บางคนอาจจะได้น้อย ขึ้นอยู่กับความพยายามและความกระตือรือร้นของแต่ละคน ดังนั้น แล้ว ขอให้คุณมีความตั้งใจให้มาก เพราะยิ่งคุณมีมาก ประสบการณ์และทุกอย่างที่คุณได้ ก็จะมากตามไปด้วย ขอรับรอง :)
---------------------------------------------------------

ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติม

การจัดอันดับมหาวิทยาลัย 
ผลสำรวจเรื่องประสบการณ์ของนักเรียน 
 

MUST READ

article Img

ไขข้อสงสัย IELTS กับ TOEFL ต่างกันยังไง

ระบบคะแนน ทำความรู้จักระดับคะแนน IELTS กันก่อนล่ะกัน คือเขาจะแบ่งออกเป็นตั้งแต่ระดับ 1-9 สำหรับแต่ละทักษะ สอบเป็นฟัง พูด อ่าน เขียน พอได้คะแนนในแต่ละพาร์ทมาแล้ว เขาก็จะเอามาหารแล้วได้ออกมาเป็น Overall Score เช่นว่าบางที่อาจจะรับเฉพาะคนที่ได้คะแนนรวม 6 ขึ้นไปเท่านั้น ห้ามมีส่วนไหนได้ต่ำกว่า 5 ไรแบบนี้ (แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะบางมหาวิทยาลัยก็มี Presessional Courses ปรับพื้นฐานภาษาสำหรับคนที่คะแนนไม่ถึง)   แนะนำทางลัด

458.3K
article Img

วิธีเตรียมตัวไปเรียนต่อนอกภายใน 1 ปี

วิธีเตรียมตัวไปเรียนต่อนอกภายใน 1 ปี เอ๊…ถ้าอยากไปเรียนต่อต่างประเทศปีหน้า เราควรต้องเตรียมตัวช่วงไหนนะ? ตอนนี้มันจะสายไปมั้ยหรือยังไง? แล้วเดือนไหนควรต้องเตรียมอะไรบ้าง? หลาย ๆ คำถามเหล่านี้อาจเป็นคำถามในใจของใครหลาย ๆ คน ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนเราก็อาจจะหาคำตอบได้ยากหน่อย เพราะข้อมูลมันเยอะมากกกก จนต้องเอามาสรุปกันเองแบบงง ๆ (แอดมินเป็นมาก่อนค่า) แต่ไม่ต้องเครียดค่ะ วันนี้ Hotcourses Thailand ขอเสนอตัว

101.3K
article Img

รวมกลวิธีเตรียมสอบทุกทักษะ IELTS แบบไม่ง้อติวเตอร์

  ฝึกทักษะการฟัง - ดูรายการภาษาอังกฤษ ทักษะการฟังเป็นส่วนแรกที่เราจะต้องเจอในการสอบ IELTS ซึ่งโดยมากแล้วจะมาประมาณ 4 สถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป อาจจะเป็นการกรอกแบบสอบถาม การคุยกันกับเพื่อน เติมแผนที่ลงไปในโปรแกรมทัวร์อะไรเทือกๆ นี้     สิ่งหนึ่งที่เราต้องเตรียมตัวคือการฝึกหูของเราให้รับและคุ้นชินกับสำเนียงบริติช หลายครั้งคนไทยเราส่วนมากจะเจอแต่สำเนียงอเมริกัน จนเราชินกับสำเนียงเขาไปแล้ว

78.5K
article Img

IELTS Writing task 2 มีคำถามแนวไหน และต้องตอบอย่างไร

IELTS Writing task 2 มีคำถามแนวไหน และต้องตอบอย่างไร >>เตรียมตัวสอบ IELTS Speaking หัวข้อคำถาม >>หลักสูตรด้านภาษาอังกฤษ >>หลักสูตรภาษาอังกฤษแบบ EFL   (เรียนเป็นภาษาต่างประเทศ)   หลายๆ คนคงทราบว่าการสอบ IELTS นั้นแบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่การฟัง อ่าน เขียน และพูด ตามลำดับ โดยมีคะแนนเต็ม 9.0 ซึ่งจะนำคะแนนที่เราได้ในแต่ละ part มาเฉลี่ยกัน บทความนี้จะเจาะลึกที่การเขียน task 2

69.1K