
อันดับมหาวิทยาลัยโลก 2014 โดย TIMES HIGHER EDUCATION
Times Higher Education นิตยสารการศึกษาชื่อดังจากลอนดอน ได้รายงานผลการจัดอันดับชื่อเสียงของสถาบันอุดมศึกษาทั่วโลกประจำปี 2013-2014 โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
>> อินโฟกราฟฟิค อันดับมหาวิทยาลัยโลกปี 2014-2015 ล่าสุด <<
- ประเทศสหรัฐอเมริกายังคงโดดเด่นด้านการเป็นผู้นำด้านการศึกษาด้วยสถิติมีมหาวิทยาลัยติด 10 อันดับแรกของโลกถึง 8 แห่ง และเมื่อพิจารณา 100 อันดับแรก ก็พบว่ามีมหาวิทยาลัยจากสหรัฐอเมริกามากถึง 46 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มี 43 แห่ง โดยมีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอย่าง Harvard University, Massachusetts Institute of Technology (MIT) และ Stanford Universit เป็น 3 อันดับแรกของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก
- มหาวิทยาลัยในฝรั่งเศสและสวีเดนมีอันดับลดลง ซึ่งถือเป็นข่าวดีของมหาวิทยาลัยในเยอรมนี
- สถาบันการศึกษาในเอเชียมีความแข็งแกร่งและติดเข้ามาใน 100 อันดับแรกมากขึ้น
- ในภาพรวมมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักรมีอันดับที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดจนน่าเป็นกังวล
- ลอนดอนมีมหาวิทยาลัยติด 100 อันดับแรก 6 แห่ง ถือว่าเป็นเมืองที่มีมหาวิทยาลัยติดอันดับมากที่สุดในโลก
- Seoul National University ในเกาหลี และ the Hong Kong University of Science and Technology ในฮ่องกง เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในการจัดอันดับด้านวิชาการประจำปีนี้
- ญี่ปุ่นยังคงครองแชมป์ผู้นำด้านการศึกษาในแถบเอเชีย แต่ University of Tokyo กลับร่วงจากอันดับท็อป 10 เป็นครั้งแรก ตั้งแต่มีการจัดอันดับสถาบันการศึกษามา
สถาบันการศึกษาระดับโลกในปี 2014 ที่น่าจับตามองคือมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ใน 6 อันดับแรก หรือที่เรียกว่า ‘Super-brands’ ได้แก่
1. Harvard University สหรัฐอเมริกา
2. The Massachusetts Institute of Technology สหรัฐอเมริกา
3. Stanford University สหรัฐอเมริกา (เลื่อนขึ้นจากอันดับที่ 6 ในปีที่ผ่านมา)
4. University of Cambridge สหราชอาณาจักร
5. University of Oxford สหราชอาณาจักร
6. University of California, Berkeley สหรัฐอเมริกา (เลื่อนขึ้นจากอันดับที่ 9 ในปีที่ผ่านมา)
ในขณะที่ภาพรวมอันดับมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกายังคงมาตรฐานอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม แต่สหราชอาณาจักรกลับมีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะ 8 ใน 10 มหาวิทยาลัยจากสหราชอาณาจักรที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุด เป็นมหาวิทยาลัยในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของสามเหลี่ยมทองคำ
(The golden triangle ได้แก่ มหาวิทยาลัยในเขต London, Oxford และ Cambridge) แต่มหาวิทยาลัยที่อยู่นอกเขตกลับมีอันดับที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างเช่น University of Bristol ก็หลุดจาก 100 อันดับแรกในปีนี้ ตาม University of Leeds ที่หลุดจาก 100 อันดับแรกเมื่อปีที่แล้วไปติดๆ รวมถึง University of Sheffield ที่หลุดอันดับไปตั้งแต่ปี 2012 ด้วย ส่วนในสก็อตแลนด์ก็มี University of Edinburgh เพียงแห่งเดียวที่อยู่ใน 100 อันดับแรก โดยรักษาอันดับที่ 46 ไว้ได้คงเดิม
อีกหนึ่งประเทศผู้นำด้านการศึกษาที่น่าจับตามมองคือ ‘เยอรมนี’ ที่มีจำนวนสถาบันการศึกษาติด 100 อันดับแรก 6 แห่ง ถือว่ามากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร โดยมี RWTH Aachen University เพิ่มเข้ามาอยู่ในอันดับที่ 91 ในปี 2014 นี้ และนอกจาก Ludwig-Maximilians-Universität München ที่ตกลงเล็กน้อยจากอันดับที่ 44 ไปอยู่อันดับที่ 46 แล้ว ทุกสถาบันการศึกษาในเยอรมนีก็ถือว่ามีอันดับที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าพึงพอใจ ซึ่งเป็นพวงมาจากการที่อันดับมหาวิทยาลัยในฝรั่งเศสลดลง มี 2 สถาบันคือ Université Paris-Sud และ École Polytechnique หลุดโผจาก 100 อันดับแรกในปีนี้ เหลือเพียง Université Paris-Sorbonne ที่เข้าโผอยู่ในช่วงอันดับ 71-80 และ Université Pierre et Marie Curie ที่อยู่ในช่วงอันดับ 91-100
ทางด้านมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในยุโรปอย่างเนเธอร์แลนด์ก็ยังคงทำคะแนนได้ดี มีมหาวิทยาลัยติด 100 อันดับแรก 4 แห่ง โดย Delft University of Technology ซึ่งปีที่แล้วอยู่อันดับ 51-60 เลื่อนขึ้นเป็นอันดับ 42 และ University of Amsterdam ที่เข้าโผมาอยู่ในช่วงอันดับ 71-80 ส่วนสวิซเซอร์แลนด์ก็มีอันดับขยับขึ้นโดย Swiss Federal Institute of Technology, Zürich ขึ้นจากอันดับ 20 มาอยู่ที่อันดับ 16 และ École Polytechnique Fédérale de Lausanne ติดเข้ามาอยู่ใน 50 อันดับแรกของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก แต่ปี 2014 นี้กลับเป็นปีที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักสำหรับสวีเดน เพราะมีเพียง Karolinska Institute แห่งเดียวเท่านั้นที่ได้เข้ามาอยู่ใน 100 อันดับแรก โดยมีคะแนนเลื่อนขึ้นจากช่วงอันดับ 61-70 มาอยู่ในช่วงอันดับ 51-60 แต่มหาวิทยาอื่นๆ อย่าง Uppsala และ Lund กลับหลุดโผไปอย่างน่าเสียดาย
สำหรับภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ผู้นำด้านการศึกษาอย่างออสเตรเลียก็มีมหาวิทยาลัยติด 100 อันดับแรก 5 แห่ง ลดลงจากปีที่ผ่านมา 1 แห่ง จากการตกอันดับของ Monash University
มามองที่แถบเอเชียกันบ้าง ญี่ปุ่นยังคงเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุด โดยมีมหาวิทยาลัยติด 100 อันดับแรก 5 แห่ง ส่วนมหาอำนาจอย่างจีนก็มาแรงด้วย Tsinghua University ที่อยู่ในอันดับ 36 (ลดลง 1 อันดับ) และ Peking University อันดับ 41 (เพิ่มขึ้น 4 อันดับ) ตามมาติดๆ ด้วย Hong Kong University ในอันดับที่ 43 เกาหลีใต้เองก็ไม่น้อยหน้า มี Yonsei University ติดเข้ามาในช่วงอันดับ 81-90 และ Seoul National University ที่มาแรงแซงทางโค้งด้วยการขยับขึ้นจากอันดับ 41 มาเป็นอันดับที่ 26 ในปีนี้ และปิดท้ายด้วย National University of Singapore ตัวแทนของอาเซียนที่ขยับเข้าไปอยู่ในอันดับที่ 21
ข้อสังเกตที่น่าสนใจ
- มหาวิทยาลัยใน 100 อันดับแรกมาจาก 20 ประเทศ
- 20 อันดับแรก ประกอบด้วยมหาวิทยาลัยจาก สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น แคนาดา และสวิซเซอร์แลนด์
- 10 อันดับแรก มีเพียงมหาวิทยาจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเท่านั้น
- อันดับมหาวิทยาลัยสูงสุดนอกเหนือจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร คือ University of Tokyo ประเทศญี่ปุ่น (คะแนนลดลงจากปีที่แล้ว 2 อันดับ)
- Seoul National University ประเทศเกาหลีใต้ เป็นมหาวิทยาลัยที่คะแนนขยับขึ้นสูงสุดในเอเชีย โดยเพิ่มขึ้นถึง 15 อันดับ จนมาอยู่ในอันดับ 26 และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคะแนนสูงเป็นอันดับ 4 ของภูมิภาคเอเชีย
- King’s College London เป็นมหาวิทยาลัยที่คะแนนขยับขึ้นสูงสุดในยุโรป โดยขยับขึ้นจากช่วงอันดับ 61-70 มาเป็นอันดับ 43
อันดับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร
THE WRR 2014 |
THE WRR 2013 |
Institution name |
4 |
3 |
University of Cambridge |
5 |
4 |
University of Oxford |
13 |
14 |
Imperial College London |
24 |
25 |
London School of Economics and Political Science |
25 |
20 |
University College London |
43 |
61-70 |
King's College London |
46 |
46 |
University of Edinburgh |
51-60 |
47 |
University of Manchester |
91-100 |
not ranked |
London Business School |
91-100 |
not ranked |
London School of Hygiene & Tropical Medicine |
50 อันดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
THE WRR 2014 |
THE WRR 2013 |
Institution name |
Country / Region |
1 |
1 |
Harvard University |
US |
2 |
2 |
Massachusetts Institute of Technology |
US |
3 |
6 |
Stanford University |
US |
4 |
3 |
University of Cambridge |
UK |
5 |
4 |
University of Oxford |
UK |
6 |
5 |
University of California, Berkeley |
US |
7 |
7 |
Princeton University |
US |
8 |
10 |
Yale University |
US |
9 |
11 |
California Institute of Technology |
US |
10 |
8 |
University of California, Los Angeles |
US |
11 |
9 |
University of Tokyo |
Japan |
12 |
13 |
Columbia University |
US |
13 |
=14 |
Imperial College London |
UK |
14 |
=14 |
University of Chicago |
US |
15 |
12 |
University of Michigan |
US |
16 |
=20 |
ETH Zürich – Swiss Federal Institute of Technology, Zürich |
Switzerland |
17 |
17 |
Cornell University |
US |
18 |
19 |
Johns Hopkins University |
US |
19 |
23 |
Kyoto University |
Japan |
20 |
16 |
University of Toronto |
Canada |
21 |
22 |
National University of Singapore |
Singapore |
22 |
18 |
University of Pennsylvania |
US |
23 |
24 |
University of Illinois at Urbana-Champaign |
US |
24 |
25 |
London School of Economics and Political Science |
UK |
25 |
20 |
University College London |
UK |
26 |
41 |
Seoul National University |
South Korea |
27 |
29 |
New York University |
US |
28 |
30 |
University of Wisconsin-Madison |
US |
29 |
26 |
Carnegie Mellon University |
US |
30 |
=31 |
Duke University |
US |
31 |
=27 |
University of Washington |
US |
32 |
40 |
University of California, San Francisco |
US |
33 |
=31 |
University of British Columbia |
Canada |
33 |
=31 |
McGill University |
Canada |
33 |
=27 |
University of Texas at Austin |
US |
36 |
35 |
Tsinghua University |
China |
37 |
37 |
Northwestern University |
US |
38 |
38 |
Georgia Institute of Technology |
US |
39 |
51-60 |
Pennsylvania State University |
US |
40 |
34 |
University of California, San Diego |
US |
41 |
45 |
Peking University |
China |
42 |
51-60 |
Delft University of Technology |
Netherlands |
43 |
36 |
University of Hong Kong |
Hong Kong |
43 |
61-70 |
King's College London |
UK |
43 |
39 |
University of Melbourne |
Australia |
46 |
46 |
University of Edinburgh |
UK |
46 |
44 |
Ludwig-Maximilians-Universität München |
Germany |
48 |
=50 |
Purdue University |
US |
49 |
51-60 |
École Polytechnique Fédérale de Lausanne |
Switzerland |
50 |
51-60 |
Osaka University |
Japan |
ดูอันดับมหาวิทยาลัยทั้งหมดได้ที่ TIMES HIGHER EDUCATION