ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นหรือ Monbukagakusho (MEXT) ที่นักเรียนไทยนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า ‘ทุนมง’ เป็นทุนการศึกษาประเภทให้เปล่าไม่มีข้อผูกมัด ทุนที่นักเรียน/นักศึกษาไทยนิยมสมัครกันมากคือทุนนักศึกษาระดับปริญญาตรี (Undergraduate Students) และทุนนักศึกษาวิจัย (Research Students) ซึ่งการไปเรียนต่อปริญญาโทหรือปริญญาเอกก็ถือว่าเป็นทุนประเภทนี้เช่นกัน
ทำไมต้องเรียนที่ญี่ปุ่น?
- การศึกษาระดับโลก ในญี่ปุ่นมีมหาลัยมากกว่า 700 แห่ง โดยมี 10 ติดอันดับท็อป 200 ในการจัดอันดับโลก
- รุ่มรวยไปด้วยวัฒนธรรม ในแง่ประวัติศาสตร์มีวิวัฒนาการยาวนานกว่าพันปีจนสั่งสมมาเป็นสิ่งที่สืบทอดมานานมากกก เต็มไปด้วยรายละเอียดและประณีต ในแง่การทำงาน มีลำดับขั้นอวุโสชัดเจน มีระบบให้ทำตาม
- ประเทศปลอดภัย ของหายได้คืนแน่นอน!
- ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติม เป็นภาษาที่ 2
- ใกล้ประเทศไทย
- ค่าเทอมไม่แพงเท่าประเทศพัฒนาอื่นๆ และมีทุน!
ประเภทของทุน
- ทุนนักศึกษาระดับปริญญาตรี (Undergraduate Students)
- ทุนนักศึกษาวิจัย (Research Students)
- ทุนนักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยี (College of Technology Students)
- ทุนนักศึกษาฝึกอบรมวิชาชีพพิเศษ (Specialized Training College Students)
- ทุนญี่ปุ่นศึกษา
- ทุนนักศึกษาอบรมวิชาชีพครู
- ทุนนักศึกษาประเภท Young Leaders Program (YLP)
รายละเอียดของสองทุนยอดนิยม
ทุนนักศึกษาระดับปริญญาตรี
- ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย
- อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 21 ปี
- สำเร็จหรือกำลังจะสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และจบการศึกษาในเดือนมีนาคม ของปีที่เริ่มรับทุนการศึกษา
- ระยะเวลารับทุนการศึกษา 5 ปี และ 7 ปี สำหรับสาขาแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่น 1 ปี)
- ทุนให้ในสาขา Social Sciences and humanities และ Natural Sciences โดย
- Social Sciences and humanities หมวด A ได้แก่ Law, Politics, Pedagogy, Sociology, Literature, History, Japanese Language, Others (ยกเว้นสาขาในหมวด 2)
- Social Sciences and humanities หมวด B ได้แก่ Economics, Business Administration
Natural Science หมวด A ได้แก่
- Science (1. Mathematics 2. Physics 3. Chemistry)
- Electric and Electronic Studies (4. Electronics 5. Electrical Engineering 6. Information Engineering)
- Mechanical Studies (7. Mechanical Engineering 8. Naval Architecture)
- Civil Engineering and Architecture (9. Civil Engineering 10. Architecture 11. Environmental Engineering)
- Chemical Studies (12. Applied Chemistry 13. Chemical Engineering 14. Industrial Chemistry 15. Textile Engineering)
- Other Fields (16. Metallurgical Engineering 17. Mining Engineering 18. Maritime Engineering 19. Biotechnology)
Natural Science หมวด B ได้แก่
- Agricultural Studies (1. Agriculture 2. Agricultural Chemistry 3. Agricultural Engineering 4. Animal Science 5. Veterinary Medicine 6. Forestry 7. Food Science 8. Fisheries)
- Hygienic Studies (9. Pharmacy 10. Hygienics 11. Nursing)
- Science (12. Biology)
Natural Science หมวด C ได้แก่
- แพทยศาสตร์
- ทันตแพทยศาสตร์
ทุนนักศึกษาวิจัย
- ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย
- อายุไม่เกิน 35 ปี
- สำเร็จหรือกำลังจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ในปีที่เริ่มรับทุนการศึกษา
- ระยะเวลารับทุนการศึกษา 2 ปี หรือ 1 ปี 6 เดือน (รวมเรียนภาษาญี่ปุ่น 6 เดือน)
- กรณีที่ผู้รับทุนได้เข้าศึกษาในญี่ปุ่นในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก หรือผู้เชี่ยวชาญในระดับบัณฑิตวิทยาลัยนั้น ทุนการศึกษาจะมอบให้ผู้รับทุนเฉพาะช่วงที่ศึกษาตามหลักสูตรปกติจนจบเท่านั้น (ตามหลักสูตรมาตฐานกำหนดไว้ และรวมทั้งเรียนเป็นภาษาญี่ปุ่น 6 เดือนซึ่งแล้วแต่กรณี)
ขั้นตอนการสมัคร
- ส่งใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครให้ครบถ้วน หากเกรดเฉลี่ยไม่ถึงเกณฑ์ ต้องมีคะแนนสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (Japanese-Language Proficiency Test : JLPT) ผ่านตามที่กำหนด สำหรับการสมัครทุนระดับปริญญาโทสาขาวิชาที่จะไปเรียนต่อต้องเป็นสาขาเดียวกับที่เรียนจบมา นอกจากนี้ก็ยังมีเอกสารอีกอันหนึ่งที่สำคัญมากนั่นคือ Study Plan หรือแผนการวิจัย ซึ่งควรเขียนให้เห็นภาพเป็นรูปธรรมชัดเจน
- สอบข้อเขียน
- สอบสัมภาษณ์
- หลังจากผ่านสัมภาษณ์เราต้องติดต่อและส่งเอกสารไปยังกระทรวงการศึกษาของญี่ปุ่นและมหาวิทยาลัยเพื่อให้อาจารย์ที่ปรึกษาที่ญี่ปุ่นตอบรับและเซ็นเอกสารให้
- เมื่อได้รับทุนแล้วจะต้องไปเรียนปรับพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นที่ประเทศญี่ปุ่น สำหรับคนที่เลือกเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ ก็จะมีคอร์สเรียนภาษาจากมหาวิทยาลัยให้เช่นกัน ซึ่งนักเรียนทุนส่วนใหญ่ก็จะเรียนกันหมด เพราะมีประโยชน์อย่างมากต่อการใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นและได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่จากนานาประเทศด้วย แต่ถ้าใครสอบวัดระดับผ่านถึงขั้นสูงสุดแล้วอาจจะไม่ต้องเรียนก็ได้
- หลังจากผ่านพ้นขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวมาในข้างต้นแล้วเรายังต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกนะคะ ช่วงเวลาที่สอบอยู่ประมาณกลางเดือนสิงหาคมของทุกปี ถ้าสอบเข้าได้ก็เป็นอันว่าได้เรียนเรียบร้อยค่ะ
ใครที่กำลังเตรียมตัวลองไปทำข้อสอบเก่าได้ที่:
Qualifying Examinations for Applicants for Japanese Government Scholarships
มูลค่าทุนการศึกษาที่ได้รับ
- ได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียน
- มีเงินค่าครองชีพให้มากน้อยต่างกันไปตามประเภทของทุน อยู่ที่ประมาณเดือนละ 143,000 - 145,000 เยน
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ
มหาวิทยาลัยน่าสนใจสำหรับเรียนต่อญี่ปุ่น
- University of Tokyo
- Keio University
- Waseda University
- Kyushu University
- Osaka University
- Kyoto University
- Hokkaido University
- Kobe University
- Chiba University
- Nagoya University