
สอบ SAT เปลี่ยนกฎการให้คะแนน
คณะกรรมการมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกา กำลังวางแผนเปลี่ยนแปลงกฎการให้คะแนนสำหรับ SAT ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไป
SAT คืออะไร?
ก่อนที่จะไปพูดถึงรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงกฎการให้คะแนน SAT เรามาทำความรู้จักข้อสอบนี้กันคร่าวๆ ก่อนนะคะ SAT คือการทดสอบมาตรฐาน สำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในสหรัฐอเมริกา โดยเดิมที SAT เป็นตัวย่อมาจากคำว่า Scholastic Aptitude Test ต่อมาได้เปลี่ยนแปลงเป็นคำว่า Scholastic Assessment Test แต่ในปัจจุบันการสอบ SAT ถูกจัดขึ้นโดย The College Board องค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรในสหรัฐอเมริกา และถูกจัดให้เป็น Educational Testing Service จึงทำให้ SAT กลายเป็นคำเรียกตามชื่อที่นักเรียนส่วนใหญ่คุ้นเคย ไม่ได้เป็นคำย่อจากความหมายเดิมอีกต่อไป
ซึ่งข้อสอบมาตรฐานสำหรับการรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบการศึกษาของสหรัฐอเมริกา หรือ SAT กำลังมีการพัฒนาแนวข้อสอบครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวัดผลด้านทักษะการใช้ชีวิตและความสามารถในการประกอบอาชีพ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยข้อสอบในส่วนของ Reading และ Writing จะมีการเพิ่มเติมคำศัพท์ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวันมากขึ้น และเกณฑ์การให้คะแนนก็จะพิจารณาจากหลักฐานสนับสนุนคำตอบที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
“การปรับปรุงครั้งนี้จะทำให้ข้อสอบ SAT ของเราเปิดกว้างและชัดเจนมากขึ้นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา” Cynthia Schmeiser ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษาของสหรัฐอเมริกา กล่าวโดยสรุป “ข้อสอบชุดใหม่นี้จะสามารถวัดผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อคัดกรองคุณภาพของนักเรียนที่จะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
การเปลี่ยนแนวข้อสอบ
โครงสร้างเดิมของข้อสอบ SAT ประกอบด้วย
1. Critical Reading
2. Writing
3. Mathematics
4. Essay
โครงสร้างใหม่เปลี่ยนแปลงเป็น
1. Evidence-Based Reading and Writing
- Reading Test
- Writing and Language Test
2. Math
3. Essay (optional)
ส่วนหลักเกณฑ์ในการให้คะแนนก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน จากเดิมที่มีช่วงคะแนนอยู่ที่ 600-2,400 โดยแบ่งออกเป็น 200-800 คะแนนสำหรับ Critical Reading, 200-800 คะแนนสำหรับ Mathematics, 200-800 คะแนนสำหรับ Writing ก็ได้เปลี่ยนแปลงเป็นมีช่วงคะแนนอยู่ที่ 400-1,600 โดยแบ่งเป็น 200-800 คะแนนสำหรับ Evidence-Based Reading and Writing, 200-800 คะแนนสำหรับ Math ส่วนคะแนนในส่วนของ Essay จะคิดแยกออกมาต่างหาก (ต่างจากของเดิมที่คะแนน Essay รวมอยู่ในส่วน Writing)
ซึ่งเกณฑ์คะแนนใหม่นี้จะใช้ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไป ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงข้อสอบ SAT ครั้งนี้มีแนวโน้มในการประเมินประสิทธิภาพของผู้สอบที่ดีขึ้น แต่เสียงตอบรับต่อการเปลี่ยนแปลงก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
Carl Jago รองผู้อำนวยการของ UCLA California Reading and Literature Project ค่อนข้างพอใจกับการเปลี่ยนแปลง โดยให้ความเห็นเกี่ยวกับส่วนของการมุ่งเน้นในด้านวิเคราะห์เชิงสำนวนโวหารว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับนักศึกษา ในขณะที่คณบดีของ UC Santa Barbara ตั้งคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อสอบว่า “ ผมไม่แน่ใจว่าเป้าหมายหลักของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คืออะไร และอะไรคือสิ่งที่ผลของข้อสอบนี้ต้องการจะบอกต่อประเทศ หรือแท้จริงแล้วสิ่งใดคือสิ่งที่ควรถูกแก้ไขกันแน่ระหว่างข้อสอบกับตัวผู้ออกข้อสอบเอง”
เปรียบเทียบความยาวและเวลาของข้อสอบ
SAT 2014 |
SAT 2016 |
||||
---|---|---|---|---|---|
โครงสร้าง |
เวลา/ |
จำนวนคำถาม |
โครงสร้าง |
เวลา/ |
จำนวนคำถาม |
Critical Reading |
70 |
67 |
Reading |
65 |
52 |
Writing |
60 |
49 |
Writing and Language |
35 |
44 |
Essay |
25 |
1 |
Essay |
50 |
1 |
Mathematics |
70 |
54 |
Math |
80 |
57 |
Total |
225 |
171 |
Total |
180 |
153 |