จากผลงานอันโดดเด่นทั้งในด้านวิชาการและผลงานวิจัยในระดับโลก เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้มหาวิทยาลัย Northumbria ได้รับการยกย่องจาก THE Awards ให้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งปีของสหราชอาณาจักรในปี 2022 ด้วยเหตุนี้นักศึกษาจึงมีโอกาสอย่างเปิดกว้างในการซึมซับความรู้ผ่านหลักสูตรที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ต่อการเรียนรู้ในทุกรูปแบบ ไม่เพียงแต่ความยอดเยี่ยมของมหาวิทยาลัย แต่บรรยากาศและความน่าสนใจภายในเมือง Newcastle upon Tyne ยังส่งเสริมให้เมืองแห่งนี้ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการเรียนต่อมากที่สุดในสหราชอาณาจักร
มหาวิทยาลัย Northumbria ก่อตั้งในปี 1880 และเป็นที่รู้จักในฐานะของวิทยาลัย Rutherford จากวันนั้นจนถึงวันนี้, มหาวิทยาลัย Northumbria ยังคงให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดความรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง นักศึกษาทุกคนจึงมีโอกาสเข้าถึงประสบการณ์การเรียนรู้ที่มาพร้อมกับรูปแบบการสอนในระดับชั้นนำของโลก นอกเหนือจากความโดดเด่นตามที่ได้กล่าวมา มหาวิทยาลัย Northumbria ยังมีหลักสูตร Pathway ที่ช่วยปูพื้นฐานความรู้ให้แก่นักศึกษาได้เป็นอย่างดี
หลักสูตร Pathway มุ่งเน้นให้นักศึกษาได้เตรียมความพร้อมผ่านการพัฒนาทักษะทั้งในด้านวิชาการและภาษาอังกฤษ สาขาวิชาที่เปิดสอนครอบคลุมทั้งในด้านศิลปศาสตร์, ธุรกิจและกฎหมาย, เทคโนโลยีสารสนเทศ, วิศวกรรมศาสตร์, มนุษยศาสตร์, และวิทยาศาสตร์ คุณสมบัติในการรับเข้าจะขึ้นอยู่กับระดับความรู้ทั้งในด้านวิชาการและภาษาอังกฤษของนักศึกษา
หลักสูตร Pathway มีให้เลือกมากกว่า 105 สาขาวิชาครอบคลุมทั้งในระดับ International Foundation Programme, International Year One, andและ Pre-Masters
นักศึกษาสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตร Pathway ได้จากหน้าเว็บไซท์ของมหาวิทยาลัย
ด้วยความเป็นเลิศทั้งในด้านการสอนและคุณภาพของหลักสูตรที่สะท้อนผ่านระดับความพึงพอใจของนักศึกษา ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้มหาวิทยาลัย Northumbria ได้รับรางวัลในสาขามหาวิทยาลัยแห่งปี 2022 จากการประกาศผลของ Times Higher Education (THE) Awards
รางวัลนี้จะมอบให้แก่มหาวิทยาลัยที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นทั้งในด้านนวัตกรรม, และความคิดสร้างสรรค์ตลอดปีการศึกษา 2020/21 มหาวิทยาลัย Northumbria ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาหลักสูตรไปพร้อมๆกับการยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของนักศึกษา ควบคู่ไปกับการสร้างบัณฑิตที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการทำงานในทุกภาคส่วน
ความสำเร็จในรอบปีที่ผ่านมาประกอบไปด้วย:
หลักสูตรด้านกีฬาเป็น 1 ใน 30 หลักสูตรที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร (British Universities & Colleges Sport, 2021-22)
เป็น 1 ใน 50 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร (Time Good University Guide, Guardian University Guide and Complete University League Tables 2023)
£16,580 ปริญญาตรี นี่เป็นตัวเลขโดยประมาณกรุณาตรวจสอบกับสถาบันเพื่อความถูกต้อง
£8,380 ปริญญาโทและเอก นี่เป็นตัวเลขโดยประมาณกรุณาตรวจสอบกับสถาบันเพื่อความถูกต้อง
£3,636 ค่าใช้จ่าย
£4,156 สำหรับการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย
หลักสูตรปูพื้นนานาชาติ
คุณสมบัติผู้สมัคร
คะแนนสอบ GCSE/iGCSE อยู่ในระดับ A-C หรือเทียบเท่า
อายุขั้นต่ำที่จะสมัครได้: 16 ปีบริบูรณ์
นักศึกษาที่ทำคะแนน IELTS ได้อย่างน้อย 4.5 โดยไม่มีส่วนใดเลยได้น้อยกว่า 4.0 จะได้เข้าเรียนในหลักสูตรนี้เป็นระยะเวลา 12 เดือน
นักศึกษาที่ทำคะแนน IELTS ได้อย่างน้อย 5.0 โดยไม่มีส่วนใดเลยได้น้อยกว่า 4.0 จะได้เข้าเรียนในหลักสูตรนี้เป็นระยะเวลา 9 เดือน
นักศึกษาที่ทำคะแนน IELTS ได้อย่างน้อย 5.5 โดยไม่มีส่วนใดเลยได้น้อยกว่า 5.0 จะได้เข้าเรียนในหลักสูตรนี้เป็นระยะเวลา 6 เดือน
นักศึกษาที่สนใจสมัครเรียนในสาขานิติศาสตร์ จำเป็นต้องได้คะแนน IELTS อย่างน้อย 5.5 โดยไม่มีส่วนใดเลยได้น้อยกว่า 5.0 และคะแนนสอบต้องผ่านการรับรองจาก UKVI Approved centre
ศิลปศาสตร์, การออกแบบและสื่อสารมวลชน
ธุรกิจและกฎหมาย
คอมพิวเตอร์
วิศวกรรม
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
วิทยาศาสตร์
ผลการเรียนดีเยี่ยมในระดับมัธยมศึกษา(หรือเทียบเท่า)
อายุขั้นต่ำที่จะสมัครได้: 17 ปีบริบูรณ์
นักศึกษาต้องได้คะแนน IELTS อย่างน้อย 5.5 โดยไม่มีส่วนใดเลยได้น้อยกว่า 5.5 และคะแนนสอบต้องผ่านการรับรองจาก UKVI Approved centre
ธุรกิจ
สำเร็จการศึกษาในระดับ Third class หรือระดับปริญญาจากมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร
นักศึกษาที่ทำคะแนน IELTS ได้อย่างน้อย 5.5 โดยไม่มีส่วนใดเลยได้น้อยกว่า 5.5 จะได้เข้าเรียนในหลักสูตรอนุปริญญาโทระยะเวลา 2 เทอม
นักศึกษาที่ทำคะแนน IELTS ได้อย่างน้อย 6.0 โดยไม่มีส่วนใดเลยได้น้อยกว่า 5.5 จะได้เข้าเรียนในหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตระยะเวลา 1 เทอม
เงื่อนไขข้างต้นบังคับใช้สำหรับสมัครเรียนในหลักสูตร:
ธุรกิจ
คอมพิวเตอร์
วิศวกรรม
นักศึกษาสามารถศึกษาข้อมูลหลักสูตร และเงื่อนไขการรับสมัครได้จากหน้าเว็บไซท์ของทางมหาวิทยาลัย
หลักสูตร Pathway ได้รับการถ่ายทอดโดยคณาจารย์ที่เพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์และความชำนาญในการสอน ด้วยเหตุนี้นักศึกษาจึงมีโอกาสอย่างเปิดกว้างในการเข้าถึงเทคนิคการพัฒนาทักษะทั้งในด้านวิชาการและภาษาอังกฤษ
หลักสูตร Pathway จะช่วยให้นักศึกษา:
พัฒนาความรู้หลักด้านภาษาอังกฤษ (การอ่าน, การเขียน, การฟังและการพูด) และความสามารถเชิงวิชาการต่างๆ
ได้เกิดความคุ้นเคยกับเนื้อหาของหลักสูตรที่ตนเองสนใจ
ได้เรียนต่อหลักสูตรระดับปริญญาตรีหลังจากสำเร็จการเรียนหลักสูตรเพื่อการเรียนต่อ
ได้เป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมการเรียนที่เปิดกว้างต้อนรับและมีการทำงานร่วมกับนักศึกษานานาชาติคนอื่นๆ
ได้เข้าถึงความช่วยเหลือทั้งในด้านอาชีพและการจ้างงาน
ภายหลังสำเร็จหลักสูตร Pathway นักศึกษาสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีได้ทันที สาขาวิชาในหลักสูตรปริญญาตรีประกอบไปด้วย:
ศิลปศาสตร์, การออกแบบและสื่อสารมวลชน
ธุรกิจและกฎหมาย
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
วิศวกรรม
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
วิทยาศาสตร์
จากการเป็นหุ้นส่วนทางด้านวิชาการกับ QA Higher Education, หลักสูตร Pathway ที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัย Northumbria Pathway จึงมุ่งเน้นให้นักศึกษาได้เกิดความคุ้นเคยกับรูปแบบการเรียนการสอนในสหราชอาณาจักรเป็นสำคัญ นักศึกษาจะได้รับการถ่ายทอดความรู้โดยคณาจารย์จาก QA ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์และความชำนาญในการสอน
ตลอดระยะเวลาของหลักสูตร นักศึกษาจะมีโอกาสเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกไปพร้อมๆกับบริการด้านวิชาการที่มีส่วนช่วยในการเติมเต็มทักษะความรู้ทั้งในด้านวิชาการและภาษาอังกฤษ นักศึกษาที่สามารถทำคะแนนได้ตั้งแต่ 40% ขึ้นไป จะได้รับการพิจารณาเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในลำดับต่อไป
รูปแบบการเรียนการสอนจะใช้เวลาในห้องเรียนประมาณ 16-18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ควบคู่ไปกับเซสชั่นสำหรับเข้ารับคำจากครูผู้สอนในแบบส่วนตัว จำนวนนักศึกษาในแต่ละห้องเรียนจะอยู่ที่ 12-20 คน
นอกเหนือจากนี้นักศึกษาจะได้รับการจัดสรรเวลาประมาณ 15-22 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อใช้สำหรับการเรียนรู้ด้วยตัวเองในรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น
การอ่าน
การค้นคว้าวิจัย
การเตรียมพร้อมเพื่อนำเสนอผลงาน
การเขียน
รูปแบบการเรียนรู้เหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละหลักสูตร
นับตั้งแต่ปี 2005, มหาวิทยาลัย Northumbria ได้ลงทุนสำหรับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกรวมเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านปอนด์ โดยสิ่งอำนวยความสะดวกในรูปแบบต่างๆประกอบไปด้วยศูนย์การเรียนรู้สำหรับนักศึกษา (Student Central), ห้องสมุดกลาง (City Campus Library), ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้อมูล, ศูนย์คอมพิวเตอร์ที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน, University Gallery, รวมไปถึงสตูดิโอสำหรับการเรียนรู้ด้านสถาปัตยกรรมภายในอาคาร Sutherland Building นักศึกษาสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในรูปแบบต่างๆได้จากที่นี่
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในวิทยาเขตประกอบไปด้วยห้องเรียน, คลินิก, ห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง, สตูดิโอ, รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการเรียนรู้อีกมากมาย:
ห้องสมุดอันทันสมัยของมหาวิทยาลัยประกอบไปด้วยหนังสือกว่า 500,000 เล่ม, e-books มากกว่า 900,000 เล่ม, และ e-journals อีกกว่า 85,000 ฉบับ
พื้นที่สำหรับการเรียนรู้และการพักผ่อนครอบคลุมอยู่โดยรอบวิทยาเขต เช่นเดียวกับศูนย์ Digital Commons
ศูนย์อาหารของมหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เพลิดเพลินไปกับอาหารทั้งในแบบปรุงสดและแบบสำเร็จรูป เช่นเดียวกับบริการสั่งอาหารล่วงหน้าผ่านทางแอพพลิเคชั่น
ศูนย์กีฬา (Sport Central) ของมหาวิทยาลัยประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาในหลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น โรงยิม, สระว่ายน้ำ, และโปรแกรมออกกำลังกายที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถเข้าร่วมผ่านระบบออนไลน์
สมาพันธ์นักศึกษาตั้งอยู่ภายในวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย ประกอบไปด้วยบาร์, ร้านกาแฟ, พื้นที่สำหรับการพักผ่อน, พื้นที่ทำงาน, และห้องประชุม
นักศึกษาสามารถศึกษาข้อมูลหอพัก พร้อมทำการจองผ่านระบบออนไลน์ เช่นเดียวกับการตรวจสอบสถานะหอพักก็สามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอดเวลา รูปแบบหอพักมีให้เลือกตั้งแต่ห้องพักทั่วไป ไปจนถึงห้องพักแบบมีห้องอาบน้ำในตัว และสามารถเลือกมื้ออาหารได้
หอพักทั้งหมดตั้งอยู่ไม่ไกลจากวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย นักศึกษาสามารถเลือกเดินเท้าหรือเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกสบาย
มหาวิทยาลัย Northumbria ตระหนักดีว่าการใช้ชีวิตในการเล่าเรียนด้วยสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับนักศึกษา ด้วยเหตุนี้ทางมหาวิทยาลัยจึงได้จัดเตรียมทีม ‘Student life and wellbeing’ ให้เข้ามามีบทบาทในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนและการใช้ชีวิต นักศึกษาสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหน้าเว็บไซท์ของทางมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัย Northumbria ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของทั้งเจ้าหน้าที่และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมาเป็นอันดับแรก ด้วยเหตุนี้นักศึกษาจึงมั่นใจได้ว่าพวกเค้าจะได้รับการดูแลด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยได้อย่างดีที่สุด และแม้ว่า Newcastle จะเป็นเมืองที่ปลอดภัยสำหรับการใช้ชีวิตในการเรียนและการพักอาศัย แต่นักศึกษาจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อมูลด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด นักศึกษาสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยได้จากหน้าเว็บไซท์ของทางมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชม. ตลอด 7 วัน