มหาวิทยาลัยWestern New England (WNE)ถือกำเนิดขึ้นในปีค.ศ. 1919 ในฐานะวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยNortheastern และนับตั้งแต่ได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในปีค.ศ. 1951 ก็ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเป็นสถาบันการศึกษาเอกชนที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและเป็นหนึ่งใน‘มหาวิทยาลัยที่คุ้มค่าเงินที่สุด’ระดับท็อป 50 ของสหรัฐอเมริกาจากการจัดอันดับโดยนิตยสาร The Economist ในปี 2015
วิทยาเขตของ WNE ตั้งอยู่ในเมือง Springfield รัฐ Massachusetts บนพื้นที่ 215 เอเคอร์และได้รับการโหวตให้เป็นวิทยาลัยที่สวยที่สุดอันดับที่ 11 ในรายชื่อ 30 วิทยาเขตที่น่าเยี่ยมชมในฤดูใบไม้ร่วง
นักศึกษาจะได้ใช้งานสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัยที่มีอยู่ทั่ววิทยาเขต โดยทางมหาวิทยาลัยได้มีการลงทุนเป็นเงิน 40 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯในศูนย์วิทยาศาสตร์และเภสัชกรรมซึ่งมีร้านขายยาจำลองและห้องทดลองวิทยาศาสตร์และห้องเรียนอันมีนวัตกรรม ขณะที่อีกฝั่งหนึ่งของวิทยาเขตคือที่ตั้งของวิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ซึ่งมีห้องแล็บมัลติมีเดียและห้องเรียนที่มีเทคโนโลยีอันล้ำสมัย
ด้วยจำนวนนักศึกษาในชั้นเรียนไม่มากและคณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญทำให้นักศึกษาจะได้รับการเอาใจใส่เป็นรายบุคคลเพื่อความสำเร็จในการเรียนที่มหาวิทยาลัย รวมถึงช่วยให้นักศึกษามีความมั่นใจในการปรับตัวเข้ากับชุมชนของ WNE - ซึ่งมีสโมสรและองค์กรนักศึกษามากกว่า 70 ประเภทให้เข้าร่วมกิจกรรม
เกือบ 98% ของนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนด้านการเงิน สำหรับนักศึกษาต่างชาติมักจะได้รับการสนับสนุนผ่านโปรแกรม WNE’s Merit Scholarship
WNE มีการดำเนินการทุกอย่างที่จะช่วยให้นักศึกษาบรรลุเป้าหมายด้านอาชีพของตนเอง และมีตำแหน่งฝึกงานมากกว่า 1,000 ตำแหน่งผ่านทางความสัมพันธ์ที่ดีกับภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 มหาวิทยาลัย Western New England ให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังและจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ผ่านมาตรการด้านความปลอดภัยในหลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น การติดตามอาการของนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัย ควบคู่ไปกับการให้คำแนะนำด้านสุขภาพและความปลอดภัย มาตรการเหล่านี้ยังครอบคลุมถึงการให้ข้อมูลแก่นักศึกษา ทั้งในด้านการเดินทางและการเปิดภาคเรียนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงด้วยเช่นกัน
รูปแบบการเรียนการสอนในเดือนกันยายน 2020 อาจมีได้รับการปรับเปลี่ยนไปตามข้อกำหนดของทางรัฐบาล นักศึกษาสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากทางหน้าเว็บไซต์ของทางมหาวิทยาลัย
US$43,380 ปริญญาตรี นี่เป็นตัวเลขโดยประมาณกรุณาตรวจสอบกับสถาบันเพื่อความถูกต้อง
US$27,820 ปริญญาโทและเอก นี่เป็นตัวเลขโดยประมาณกรุณาตรวจสอบกับสถาบันเพื่อความถูกต้อง
US$14,900 ค่าใช้จ่าย
US$9,660 สำหรับการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมี ทุนการศึกษาและเงินทุน มากมายสำหรับนักศึกษา โดยมีมูลค่าตั้งแต่ 10,000 ถึง 22,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นอยู่กับผลงานทางวิชาการ โดยไม่จำเป็นต้องยื่นคะแนน SAT เพื่อประกอบการพิจารณารับทุนการศึกษา เมื่อนักศึกษาสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยนักศึกษาจะได้รับการพิจารณาการรับเข้าเรียนโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกับการพิจารณาทุนการศึกษาที่เข้าเกณฑ์
นอกเหนือจากทุนการศึกษาแล้ว ยังมีเงินทุน Leadership Grant ที่มีมูลค่าถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับนักศึกษา รวมไปถึงทุนการศึกษา You Are Welcome Here Scholarship ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 3,000 ถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ใบสมัครสำหรับสองทุนการศึกษานี้จะแยกกัน โดยทั่วไปจะมีกำหนดการสมัครอยู่ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ สำหรับนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในฤดูใบไม้ร่วง
ทางมหาวิทยาลัยจะเก็บค่าเล่าเรียนนักศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรีตามอัตราค่าหน่วยกิต นักศึกษาจะชำระค่าเล่าเรียนตามวิชาที่เรียนและไม่ได้คิดแบบอัตราค่าเล่าเรียนรายปี
นักศึกษานานาชาติทุกคนต้องกรอกข้อมูลในใบสมัครเข้าเรียนและส่งมายังมหาวิทยาลัยพร้อมค่าธรรมเนียมการสมัคร นอกเหนือจากใบสมัครแล้ว ทางมหาวิทยาลัยกำหนดให้ผู้สมัครนานาชาติทุกคนต้องส่งหลักฐานความรู้ภาษาอังกฤษด้วยผลคะแนนสอบมาตรฐานอย่างเช่น TOEFL หรือ IELTS หรือผ่านทางสถาบันสอนภาษาอังกฤษที่เป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัย เกณฑ์คะแนนขั้นต่ำที่กำหนดสำหรับ TOEFL คือ 79 คะแนนจากข้อสอบ IBT สำหรับคะแนน IELTS ทางมหาวิทยาลัยกำหนดให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีต้องได้คะแนนอย่างน้อย 6.0 และ 6.5 สำหรับนักศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรี
นักศึกษาระดับปริญญาตรี ต้องยื่นเอกสารแสดงผลการเรียนอย่างเป็นทางการในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และต้องมี GPA 2.5 ขึ้นไป สามารถยื่นคะแนน SAT ได้ (ถ้ามี) ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเข้ารับการทดสอบ
นักศึกษาระดับปริญญาโท จะต้องยื่นเอกสารแสดงผลการเรียนอย่างเป็นทางการและต้องมี GPA ไม่ต่ำกว่า 3.0 สำหรับนักศึกษาที่มี GPA ต่ำกว่า 3.0 จะได้รับการพิจารณาเป็นกรณีไป ในแต่ละหลักสูตรจะมีข้อกำหนดการรับเข้าศึกษาเพิ่มเติม เช่นจดหมายรับรอง, เรียงความ, คะแนน GRE หรือ GMAT และอื่นๆ
คุณภาพของการสอนที่ WNE อยู่ในระดับสูง ด้วยส่งเสริมจากชั้นเรียนที่มีขนาดเล็ก ขนาดเฉลี่ยของชั้นเรียนในระดับปริญญาตรีคือมีนักศึกษาเพียง 20 คนต่อหนึ่งคลาส ด้วยจำนวนคลาสที่เล็กลงนี้ช่วยให้นักศึกษาได้ใกล้ชิดกับอาจารย์มากขึ้น และได้รับประสบการณ์ในการเรียนรู้เป็นรายบุคคล คณาจารย์ของ WNE พยายามที่จะเรียนรู้ถึงปณิธานและเป้าหมายของนักศึกษา การดูแลเป็นรายบุคลแบบนี้ไม่เพียงช่วยให้อาจารย์ “คอยดูแลความก้าวหน้า” ของนักศึกษาได้เท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องการส่งเสริมให้นักศึกษาบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ผ่านโอกาสทางการศึกษาที่หลากหลายอีกด้วย
มหาวิทยาลัยส่งเสริมให้อาจารย์ของมีมาตรฐานในการสอนที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยพิจารณารางวัล Teaching Excellence Award เป็นรายบุคคล สำหรับคณาจารย์ที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพและนวัตกรรมในการสอน รวมถึงความเป็นผู้นำ จะได้รับการเสนอชื่อและประเมินโดยคณะกรรมการการ Teaching Excellence Committee
มหาวิทยาลัยเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรีในวิทยาลัยต่างๆดังนี้:
วิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มอบโอกาสให้นักศึกษาได้ท่องไปในโลกของชีววิทยาของมนุษย์และวัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์และศิลปะการแสดง สาขาวิชาของวิทยาลัยนี้ประกอบด้วย การสื่อสาร, เศรษฐศาสตร์, ประวัติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ รวมไปถึงฟิสิกส์ และวิทยาศาสตร์ชีวภาพด้วย
วิทยาลัยธุรกิจ ได้รับการรับรองโดย AACSB International ซึ่งเป็นการรับรองที่สูงที่สุดสำหรับโรงเรียนบริหารธุรกิจจากทั่วโลก มีเพียง 5% ของโรงเรียนธุรกิจเท่านั้นที่ได้รับการรับรองระดับนี้ สาขาวิชาต่างๆภายของวิทยาลัยนี้ประกอบด้วย การบัญชีและการเงิน, ระบบสารสนเทศธุรกิจ, การตลาด และการจัดการ และการจัดการกีฬา
วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ ภูมิใจในวิธีการ "สอนด้วยประสบการณ์จริง" ที่นำนักศึกษาเข้าสู่สถานการณ์โลกแห่งความเป็นจริง สอนให้นักศึกษารู้จักการคิดแบบวิศวกร สาขาวิชาต่างๆในวิทยาลัยนี้ประกอบด้วย ชีวการแพทย์, วิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม, วิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์, วิศวกรรมอุตสาหการและ วิศวกรรมเครื่องกล
วิทยาลัยเภสัชศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ รวมการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเพื่อแสดงให้เห็นถึงการดูแลผู้ป่วยที่ดีที่สุดสำหรับประชากรที่หลากหลายเพื่อเตรียมให้นักศึกษามีความพร้อมในการเข้ารับการฝึกฝนด้านเภสัชศาสตร์และอาชีพทางด้านสุขภาพ ทีมงานสอนประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่ด้านการเรียนการสอน, ทีมแพทย์ผู้มีความเอาใจใส่และเห็นอกเห็นใจ และพี่เลี้ยง (Mentor) ที่ช่วยสนับสนุนนักศึกษาในเส้นทางสายวิชาการ
คณะนิติศาสตร์ ได้รับการรับรองอย่างเต็มระดับจาก American Bar Association และเป็นสมาชิกของสมาคมโรงเรียนกฎหมายอเมริกัน (Association of American Law Schools) นักศึกษาต่างชาติสามารถเลือกเรียน Juris Doctorate (JD) (นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต) ของ WNE ได้
มหาวิทยาลัย Western New England มีความมุ่งมั่นในการสร้างชุมชนในวิทยาเขตที่มีความปลอดภัยและอบอุ่นใจสำหรับนักศึกษาทุกคน ในฐานะชุมชนวิทยาเขตขนาดเล็ก ทางมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการเคารพให้เกียรติและเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันของสมาชิกทุกคนในชุมชน
มหาวิทยาลัยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสาธารณะที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ รวมทั้งยังมีกล้องวงจรปิด 57 ตัว โทรศัพท์ฉุกเฉิน 33 เครื่อง, เจ้าหน้าที่กู้ชีพ และเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินทางการแพทย์ 6 คน อยู่ภายในวิทยาเขตเพื่อให้มั่นใจว่า ความปลอดภัยของนักศึกษา ได้มาตรฐานตลอดเวลาอย่างแน่นอน
เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำมหาวิทยาลัยเป็นเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมและได้รับการรับรองคุณสมบัติโดยสำนักงานตำรวจแห่งรัฐ Massachusetts โดยประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บัญชาการ, ผู้หมวด 2 นาย, จ่า 4 นาย, เจ้าหน้าที่ตำรวจ 11 นายและเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 5 นาย เจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับการรับรองภายใต้กฎหมายทั่วไปแห่งรัฐ Massachusetts และมีอำนาจตำรวจเต็มขั้น นอกจากนี้ทางแผนกวิชายังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, นักศึกษาตรวจตราความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือฝ่ายบริหารงานที่ทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในมหาวิทยาลัย Western New England