การเกษตรเป็นอาชีพเก่าแก่ของมนุษย์มานานนับ 10,000 ปีก่อนสมัยคริสตกาล ระยะหลังมานี้อุตสาหกรรมการเกษตรเติบโตอย่างรวดเร็ว ประเด็นเรื่องการตัดต่อพันธุกรรมพืช การพัฒนาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการทำเกษตรอินทรีย์เพื่อค้นหาวิธีทำการเกษตรอย่างยั่งยืน ถูกนำมาพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง
ทุกวันนี้คนทั่วไปให้ความสำคัญกับเรื่องการเกษตรน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งที่มันจำเป็นต่อความอยู่รอดของมวลมนุษยชาติ ในยุคที่อัตราการเติบโตของประชาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ทรัพยากรมีจำนวนจำกัด การศึกษาและพัฒนานวัตกรรมการเกษตรใหม่ๆ เพื่อผลิตอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของประชากรโลก ซึ่งนับเป็นประเด็นใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง
นอกจากการผลิตและจัดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรแล้ว ขอบเขตงานของผู้ศึกษาด้านการเกษตรยังครอบคลุมไปถึงการดูแลพื้นที่ในชนบททั่วโลก ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาสังคมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเน้นการถ่ายทอดความรู้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตระหนักว่า การบุกเบิกพื้นที่ทำการเกษตรในยุคโลกาภิวัฒน์ ต้องคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติเป็นสำคัญ
บัณฑิตสาขาการเกษตรสามารถเลือกทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำงานด้านเกษตรโดยตรง เป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือนักวิจัย จึงนับเป็นสาขาวิชาหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย
รายได้ของบัณฑิตสาขาวิชาการเกษตรแตกต่างกันไปในแต่ละสายงานและอัตราเงินเดือนของประเทศนั้นๆ สำหรับประเทศอังกฤษ รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 18,933 ปอนด์ต่อปี (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 900,000 บาท) และนอกจากทางเลือกในการทำงานด้านเกษตรโดยตรง หรือการวิจัยแล้ว บัณฑิตยังสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับงานสาขาวิชาอื่นอย่างเช่น การทำธุรกิจหรืองานด้านกฎหมายได้อีกด้วย
สาขาการเกษตรมีเนื้อหารายวิชาที่กว้างขวางและหลากหลาย ดังนั้นการเลือกสถานศึกษาจึงต้องศึกษาให้ดีว่า มหาวิทยาลัยไหนมีหลักสูตรที่ตรงกับความสนใจของเรามากที่สุด และยังต้องพิจารณาทักษะทางวิชาการของเราประกอบด้วยว่า ความสามารถและผลการเรียนที่ผ่านมาของเราผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานการที่มหาวิทยาตั้งไว้หรือไม่
นอกจากนี้อย่าลืมพิจารณาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีผลต่อการสมัครงานในอนาคตของคุณ โดยอาจจะดูจากข้อมูลในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย รายชื่อศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ มีสายสัมพันธ์ด้วย
การเลือกว่าจะเรียนมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลัก หรือมหาวิทยาลัยในเมืองเล็กๆ ที่อบอุ่นใกล้ชิด ก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้เรียนต้องพิจารณาตัวเองว่าเราเหมาะกับสภาพแวดล้อมแบบไหน ในระยะยาวเราน่าจะมีความสุขกับสิ่งแวดล้อมแบบไหนมากกว่ากัน และหากต้องการความช่วยเหลือทางการเงิน เงื่อนไขการให้ทุนค่าเล่าเรียนและทุนอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพของแต่ละมหาวิทยาลัย ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องนำมาประกอบการตัดสินใจ