
ทำความรู้จัก TOEFL ข้อสอบตัวร้ายที่คนอยากเรียนต่อเมกาต้องสอบ
เมื่อคุณต้องการที่จะสมัครเข้าเรียนต่อในหลักสูตรที่เรียนเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งในระดับปริญญาตรีหรือในระดับที่สูงกว่า คุณจำเป็นต้องใช้ผลทดสอบวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษเสมอ เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าคุณมีความสามารถทางภาษาอังกฤษเพียงพอตามคุณสมบัติที่ต้องการของหลักสูตรนั้นๆ โดยหนึ่งในการสอบที่เป็นมาตรฐานในการทดสอบความรู้ทางภาษาอังกฤษ ก็คือ TOEFL (Test of English as a Foreign Language)
TOEFL คือ การทดสอบที่จัดทำขึ้นโดย ETS (Educational Testing Service) ซึ่งคุณสามารถเลือกการสอบได้ทั้งแบบ Paper-based Test (PBT) และ แบบ Internet-based Test (iBT) ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่ศูนย์ทดสอบจัดให้ โดยจุดประสงค์หลักของการสอบ TOEFL ก็เพื่อวัดความสามารถในการสื่อสารทั้งการพูดและการเขียน อีกทั้งยังเป็นการวัดความสามารถทางการเขียนภาษาอังกฤษในระดับมหาวิทยาลัยด้วย
TOEFL ได้รับการยอมรับจากกว่า 7,500 วิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่างๆ ใน 130 กว่าประเทศทั่วโลก โดยผลคะแนนจะถูกใช้ทั้งในการสมัครเข้าเรียนหลักสูตรที่เรียนเป็นภาษาอังกฤษ การขอทุนการศึกษา หรือแม้แต่การย้ายถิ่นฐานไปยังต่างประเทศ
โดยทีแรกนั้น การสอบ TOEFL เป็นการวัดผลเบื้องต้นสำหรับนักเรียนจากต่างประเทศที่ต้องการเข้าศึกษาในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยของประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ดังนั้นจึงทำให้รูปแบบการทดสอบเน้นหนักไปที่ข้อสอบแบบตัวเลือกเช่นเดียวกับการทำข้อสอบในมหาวิทยาลัยของอเมริกา แต่ในปัจจุบันก็สามารถใช้ผลคะแนน TOEFL สมัครเข้ามหาวิทยาลัยในอังกฤษได้เช่นกัน
วิธีการทดสอบ
วิธีการทดสอบจะไม่แตกต่างจากกันมากนักระหว่างแบบ PBT และ iBT โดยการสอบจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน คือ
การอ่าน
คุณจะต้องอ่านบทความที่ใช้ภาษาอังกฤษระดับมหาวิทยาลัย ประมาณ 2-3 บทความ แล้วตอบคำถามจากบทความเหล่านั้น โดยคำถามจะทดสอบความเข้าใจ การจับใจความสำคัญ คำศัพท์ และประเภทของบทความ
การฟัง
คุณจะได้ฟังบทสนทนาหรือการประชุมประมาณ 2-3 เรื่อง ซึ่งทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับชีวิตในมหาวิทยาลัย เช่น บทสนทนาระหว่างนักเรียนและอาจารย์ หรือ ฟังการสอนในห้องเรียน โดยคำถามจะทดสอบคุณเกี่ยวกับการจับรายละเอียด ข้อเสนอแนะ และคำศัพท์ โดยบทสนทนาจะเป็นการพูดที่ไม่เป็นทางการและเป็นธรรมชาติมาก คุณจึงมักจะได้ยินคำอย่างเช่น อืม หรือ เอ่อ... ระหว่างบทสนทนาเสมอ
การพูด
การทดสอบนี้ จะให้คุณพูดผ่านไมโครโฟนซึ่งจะอัดเสียงของคุณเอาไว้ หลังจากนั้นผู้ตรวจข้อสอบจะนำมาฟังและให้คะแนนคำตอบของคุณ โดย 2 คำถามแรก จะถามเกี่ยวกับความเป็นคุณ เช่น เมืองของคุณ หรือ คุณครูคนโปรดของคุณ ส่วนอีก 2 คำถาม จะตอบคำถามโดยการย่อประเด็นสำคัญจากบทความหรือบทสนทนาพร้อมๆกับเสนอความคิดเห็น ส่วนคำถามอื่นๆก็อาจจะให้คุณสรุปประเด็นจากบทสนทนาสั้นๆ
การเขียน
และสุดท้าย คุณจะต้องเขียนเรียงความสั้นๆ 2 เรื่อง โดยเรื่องแรก คุณจะได้หัวข้อกว้างๆ เช่น อินเตอร์เนตเปลี่ยนแปลงชีวิตเราอย่างไร หรือ ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนอะไรก็ได้ในประเทศของคุณได้หนึ่งอย่าง คุณจะเปลี่ยนอะไร เป็นต้น ส่วนข้อที่สอง คุณจะต้องวิเคราะห์และแสดงทัศนะ จากบทความหรือบทบรรยายที่ได้รับ
อะไรคือสิ่งที่แตกต่าง ระหว่าง IELTS กับ TOEFL
สิ่งแรก ก็คือ โครงสร้างการให้คะแนน โดยสำหรับ IELTS จะแสดงคะแนนในรูปแบบการวัดผล ที่คุณจะได้คะแนนจาก 1 – 9 ขณะที่ TOEFL จะวัดผลที่ใช้การประมวลผลแบบ SAT ที่จะรวมผลคะแนนของคุณจากการสอบทั้งหมด นอกจากนี้ในการสอบ IELTS คุณจะต้องเข้ารับการทดสอบการพูดกับผู้คุมสอบแบบตัวต่อตัว แต่สำหรับ TOEFL คุณจะตอบคำถามเพียง 6 คำถามผ่านการตอบด้วยไมโครโฟน
IELTS ได้รับความนิยมมากในสหราชอาณาจักรและประเทศแถบยุโรป ในขณะที่ TOEFL ได้รับการยอมรับในอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็ต่างยอมรับการวัดผลทั้งสองแบบแล้ว เนื่องจากจุดประสงค์ของการทดสอบทั้งสองแบบเหมือนกัน ส่วนการเลือกว่าจะสอบแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับว่าผู้สอบต้องการไปสมัครเรียนที่ใดมากกว่า แต่เพราะ TOEFL มีตัวเลือกให้ผู้สอบสามารถทำข้อสอบผ่านอินเตอร์เนตได้ ทำให้การทดสอบนี้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักเรียนที่อาศัยอยู่ต่างประเทศมากกว่า IELTS
คุณกำลังเตรียมตัวเพื่อสอบ TOEFL อยู่หรือไม่?
ถ้าใช่ ลองเข้าไปที่เว็บไซต์ของ TOEFL สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงวันเวลาในการสอบในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม มีหลายมหาวิทยาลัยและหลายสถาบันการศึกษา ที่มีหลักสูตรหลากหลายสำหรับนักเรียนต่างชาติ ซึ่งสามารถช่วยในการเตรียมตัวการสอบได้
อ่านประสบการณ์สอบ TOEFL ได้เลย
-----------------------------------------------------------
ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
14 มหาวิทยาลัยและวิทยาลัย เปิดสอนหลักสูตร TOEFL หลักสูตร
การเตรียมตัวเพื่อสอบ IELTS
การสอบเพื่อเข้าเรียนต่อในอเมริกา