เคมี คือ วิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่ศึกษาเรื่องคุณสมบัติและการเปลี่ยนแปลงของสสาร เพื่อทำความเข้าใจว่าสสารที่อยู่รอบตัวเรา เกิดขึ้นมาได้อย่างไร และจะเปลี่ยนรูปไปเป็นอะไรได้บ้าง ในศตวรรษที่ 9 วิชาเคมีได้ถือกำเนิดขึ้นในดินแดนอาหรับ เมื่อมนุษย์ค้นพบการใช้ความร้อนจากไฟ ซึ่งสามารถทำให้สสารเดิมเปลี่ยนรูปไปเป็นอีกสสารหนึ่งได้
หัวข้อหนึ่งที่รู้จักกันดีในการศึกษาวิชาเคมีคือ การผสมธาตุ วิชาเคมีเชื่อมโยงกับหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตปประจำวันของเรา ตั้งแต่การผลิตยารักษาโรค ไปจนถึงการผลิตเสื้อผ้า และเครื่องสำอาง วิชาเคมีจึงมีขอบเขตการศึกษาค่อนข้างกว้าง และครอบคลุมหลายหัวข้อ
เนื่องจากวิชาเคมีแบ่งแยกย่อยออกไปได้หลายแขนง และสามารถนำไปบูรณาการกับสาขาวิชาอื่นได้หลากหลาย บัณฑิตจึงมีทางเลือกมากมายในการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะบัณฑิตที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ จะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานมาก รายได้เฉลี่ยเริ่มต้นของเด็กจบใหม่ในประเทศอังกฤษอยู่ที่ 18,917 ปอนด์ (900,000 บาท) ต่อปี
ส่วนใหญ่งานของนักเคมี จะเป็นการทำวิจัยในห้องปฏิบัติการ ตามหัวข้อที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ ส่วนคนที่ต้องการผันตัวไปทำงานด้านอื่น ก็สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพเป็นนักสื่อสารมวลชน ทำงานสายธุรกิจ และงานด้านกฎหมาย หรือเป็นนักอนุรักษ์ ซึ่งจะได้เดินทางไปทำงานตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ
วิชาเคมี มีมหาวิทยาลัยให้เลือกเรียนมากมาย ซึ่งแต่ละหลักสูตรก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกัน ผู้สนใจเข้าศึกษาต้องเลือกให้เหมาะกับความต้องการของตัวเอง และอาชีพที่ต้องการทำในอนาคต
ในระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น St Andrews และ Cambridge กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครไว้ว่าต้องมีผลการศึกษาระดับ 3 A*s – A grades at A-level หรือเทียบเท่าสำหรับนักเรียนจากประเทศที่ใช้ระบบการศึกษาต่างจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูง มหาวิทยาลัยอื่นทั่วไปส่วนใหญ่จะตั้งเกณฑ์การรับสมัครไว้ต่ำกว่านี้ ส่วนระดับปริญญาโท ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านอย่างน้อยระดับ 2:1 มาก่อน
นอกจากชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาคือ คอนเนคชั่นที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ มีต่อบริษัทในอุตสาหกรรมเคมี ซึ่งจะเอื้ออำนวยต่อการฝึกงาน และมีผลต่อการทำงานในอนาคต
ที่สำคัญคืออย่าลืมเลือกสภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัย ให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพของคุณ หากเป็นคนชอบเข้าสังคม ชอบอยู่ในเมืองที่คึกคัก เต็มไปด้วยบรรยากาศของความกระตือรือร้น มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองสำคัญ ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าชอบอยู่อย่างเรียบง่าย ในชุมชนเล็กๆ ที่ค่อนข้างสงบ ก็ควรเลือกมหาวิทยาลัยเล็กๆ ที่มีคุณภาพในทางวิชาการ และหากมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการศึกษา ควรมองหามหาวิทยาลัยที่มีการสนับสนุนด้านทุนเอาไว้ด้วย ซึ่งมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศอังกฤษ ยินดีให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความมุ่งมั่นในการศึกษาอย่างจริงจัง