การออกแบบอุตสาหกรรม เป็นการผสมผสานศิลปะและวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อนำไปใช้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ ให้ดูดีทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน จนได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้ใช้ การออกแบบอุตสาหกรรม ได้รับการประยุกต์ให้เป็นสาขาเฉพาะทางในการศึกษา ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1919 โดย Joseph Claude Sinel นักออกแบบชาวนิวซีแลนด์
การออกแบบ คือ การเปลี่ยนแนวคิดนามธรรม (abstract) และไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้กลายเป็นสิ่งของที่จับต้องได้ สามารถนำไปใช้งานได้จริง ในระยะหลังมานี้ ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีส่งอิทธิพลอย่างมากต่อการออกแบบ โดยเฉพาะการค้นพบวัสดุใหม่ๆ หรือเทคนิคการผลิตที่ล้ำสมัย สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความตื่นเต้นให้กับคนในแวดวงการออกแบบอยู่เสมอ
ผู้เรียนการออกแบบอุตสาหกรรม มีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากกมาย บัณฑิตส่วนใหญ่มักเริ่มทำงานเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ ทำหน้าที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมให้ดียิ่งขึ้น เงินเดือนเริ่มต้นของเด็กจบใหม่ในประเทศอังกฤษอยู่ที่ 14,000-20,000 ปอนด์ (665,000-950,000 บาท) ต่อปี ขึ้นอยู่กับอัตราค่าแรงของแต่ละพื้นที่
หากสนใจงานด้านการสอน คุณสามารถเรียนต่อคอร์ส Postgraduate Certificate in Education (PGCE) เพื่อจบมาเป็นอาจารย์ในโรงเรียนมัธยม หรือเป็นวิทยากรให้กับสถาบันต่างๆได้
หรือถ้าอยากผันตัวไปทำงานสายอื่น ก็มีอีกหลายอาชีพที่น่าสนใจ อย่างเช่น งานด้านการตลาด งานด้านโฆษณา หรืองานด้านขายและการบริการลูกค้า เพราะผู้เรียนออกแบบอุตสาหกรรม จะมีพื้นฐานความรู้ความเข้าใจเรื่องความต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างดี
ในระดับปริญญาตรี ส่วนใหญ่จะใช้เวลาเรียน 3 ปี แต่ก็มีบางคอร์สที่ให้เวลาเพิ่มขึ้น เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกงานในอุตสาหกรรมที่สนใจ ส่วนระดับปริญญาโท จะใช้เวลาเรียนประมาณ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับหัวข้อเฉพาะทางที่เลือกศึกษา
หากสนใจสมัครในระดับปริญญาตรี ผู้เรียนจะต้องสอบผ่าน 3 A-levels หรือเทียบเท่าในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ ถ้าเกรดของคุณประกาศอย่างเป็นทางการไม่ทันวันรับสมัคร คุณอาจลองศึกษาเงื่อนไขของมหาวิทยาลัยดูว่า จะสามารถยื่นใบสมัครไปก่อน โดยประเมินจากเกรดที่คาดการณ์ไว้ได้หรือไม่
สำหรับผู้สมัครระดับปริญญาโทจะต้องสอบผ่าน 2:1 ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องมาก่อน และผู้มาจากประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก จะต้องสอบ IELTS ได้อย่างน้อย 6.0 คะแนนขึ้นไป ก่อนเริ่มคอร์ส
เนื้อหาของหลักสูตรส่วนใหญ่ จะเรียนโดยเน้นการปฏิบัติในเชิงวิชาชีพ ผู้เรียนจะต้องเข้าใจทั้งทฤษฎีพื้นฐานที่สอนผ่านการบรรยายในชั้น และเข้าร่วมเวิร์คชอปส์ เพื่อเรียนรู้ทักษะการผลิตชิ้นงานขึ้นมาด้วยตัวเอง ผู้เรียนจะต้องทำโปรเจ็คท์อิสระ ที่แสดงให้เห็นถึงแนวคิดและความรู้ความสามารถที่ได้เรียนรู้มา ซึ่งเป็นงานชิ้นสำคัญในการประเมินผลผู้เรียนก่อนจบการศึกษา
สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนยื่นใบสมัครคือ ค่าธรรมเนียมการศึกษาและเกรดของคุณ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบหลายแห่ง กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำในระดับปริญญาตรีไว้ว่าจะต้องสอบผ่าน 3 A-levels และปริญญาโทจะต้องสอบผ่านด้วยระดับคะแนน 2:1 รวมทั้งยังต้องมีพอร์ตฟอลิโอด้านการออกแบบที่น่าสนใจ ถ้าคิดว่าพอร์ตฟอลิโอที่มี ยังไม่สะท้อนความสามารถของคุณออกมาอย่างเต็มที่ คุณควรลองหาเวลาว่างในการพัฒนาปรับปรุงพอร์ตฟอลิโอ และหาประสบการณ์ในการทำงานเพิ่มขึ้น
หากมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย อย่าลืมมองหามหาวิทยาลัยที่มีทุนสนับสนุนแก่นักศึกษาขาดแคลนเอาไว้เป็นทางเลือกหนึ่งด้วย
หลักสูตรการเรียนและกิจกรรมนอกชั้นเรียน ของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อการทำงานในอนาคต การเรียนสาขาวิชานี้ คุณควรเลือกมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ หรือเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านอุตสาหกรรมการออกแบบ อย่างเช่น London University หรือ Leeds University เพราะคุณจะได้ทำความรู้จักกับผู้คนที่มีความสนใจใกล้เคียงกัน และสร้างความสัมพันธ์ไว้ เผื่อใช้ประโยชน์จากคอนเนคชั่นเหล่านี้ในอนาคต
อีกเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนคือ มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจจะมีหลักสูตรที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแตกต่างจากที่อื่น ในรายละเอียดของการพัฒนาทางเทคโนโลยี จนไปถึงการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีรูปลักษณ์ดูดีสวยงาม ซึ่งเมื่อเลือกมหาวิทยาลัยแล้ว คุณจะต้องใช้เวลาหลายปีในการศึกษา ดังนั้น คุณจึงควรเลือกคอร์สที่ตรงกับความสนใจของตัวเองมากที่สุด