ปรัชญา คือ ศาสตร์เกี่ยวกับการหาความรู้ ความจริง เพื่ออธิบายเหตุการณ์และสิ่งต่างๆ ตามหลักเหตุและผลอย่างกว้างๆ โดยใช้หลักการของวิชาตรรกวิทยาเป็นเครื่องมือ นักปรัชญาได้ใช้เวลาหลายพัน
ปีในการพยายามค้นหาคำตอบเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ ศีลธรรม และจิตสำนึกของมนุษย์ ชาวกรีกโบราณมีชื่อเสียงมากที่สุดในการศึกษาด้านปรัชญา ซึ่งพวกเขาน่าจะรับอิทธิพลมาจากความรู้ด้านปรัชญาร่วมสมัยของชาวอียิปต์โบราณ
คำว่าปรัชญาในภาษาอังกฤษคือ Philosophy มาจากคำว่า Philosophia ในภาษากรีก ซึ่งมีความหมายว่า การรักในความรู้หรือรักในภูมิปัญญา และถูกนำมาใช้ครั้งแรกโดยนักคิด นักคณิตศาสตร์ ชาวกรีกโบราณที่ชื่อว่า ปีธาโกรัส (Pythagoras) ทุกวันนี้การศึกษาวิชาปรัชญาในระดับปริญญา ไม่ได้ผลิตบุคลากรเพื่อทำงานด้านปรัชญาโดยเฉพาะเท่านั้น แต่ยังสอนให้นักศึกษาพัฒนาความสามารถในการประมวลผลข้อมูล การคิดอย่างสร้างสรรค์ และสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างน่าเชื่อถือ โดยมีคำอธิบายที่ดีประกอบการให้เหตุผลนั้นๆ
แม้ความรู้ทางด้านปรัชญาจะไม่ได้เป็นทักษะสำหรับวิชาชีพเฉพาะทาง แต่ทักษะการวิจารณ์และทักษะการวิเคราะห์ที่ดี ก็สามารถนำไปพัฒนาและประยุกต์ใช้ได้กับหลายสาขาอาชีพ อย่างเช่น นักกฎหมาย นักวารสารศาสตร์ นักการเงิน นักธุรกิจ อาชีพด้านการสอน และการเรียนด้านศาสนา
วิชาปรัชญาเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นคนสนใจใฝ่รู้ สนุกกับการตั้งคำถาม และชอบท้ายทายความคิดเห็นของคนรอบตัว ระหว่างการเรียนคอร์สนี้คุณจะได้ใช้ประโยชน์จากทฤษฎีทางสังคม และฝึกการใช้โครงสร้างความคิด เพื่อสร้างแบบแผนความคิดของคุณที่มีต่อสิ่งต่างๆ
หากวางแผนจะเรียนปรัชญาในระดับปริญญา สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องสนใจในด้านวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ยุคโบราณ แนวคิดของนักปรัชญาโบราณที่มีอิทธิพลเป็นอันดับต้นๆ ของโลก อย่างเช่น อริสโตเติล (Aristotle) และเพลโต (Plato) มีความสำคัญอย่างมากต่อการวางรากฐานทฤษฎีทางปรัชญาในปัจจุบัน
ผู้เรียนคอร์สนี้จะต้องมีความรับผิดชอบในการเรียนและการพัฒนาตัวเอง แม้วิชาปรัชญาจะใช้เวลาเรียนในห้องค่อนข้างน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสาขาวิชาอื่น แต่ก็ไม่ได้ความว่าวิชานี้เรียนง่าย คุณจะต้องอ่านบทวิจารณ์ และทำวิจัยในหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย โดยใช้เวลานอกห้องเรียน หากอยากประสบความสำเร็จในการเรียนปรัชญา นอกจากจะต้องมีความหลงใหลในเนื้อหาวิชานี้อย่างจริงจังแล้ว ผู้เรียนยังต้องพร้อมทำงานหนัก และมีระบบการจัดการที่ดีอีกด้วย
อาชีพสำหรับผู้จบด้านปรัชญาไม่ได้มีความเฉพาะเจาะจงมากนัก ในประเทศอังกฤษบัณฑิตส่วนใหญ่จะมีรายได้เฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 21,096 ปอนด์ต่อปี (ประมาณ 1,002,000 บาท) บัณฑิตมีทางเลือกในการประกอบอาชีพที่ค่อนข้างหลากหลายมาก ศิษย์เก่าส่วนใหญ่นิยมทำงานเป็นนักวารสารศาสตร์ หรืองานในอุตสาหกรรมธุรกิจและการเงิน โดยใช้ทักษะการวิเคราะห์ที่ได้เรียนมา
นอกจากนี้บัณฑิตจำนวนมาก ยังเรียนต่อในคอร์สที่เฉพาะทางมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น คอร์สกฎหมาย คอร์สการสอน เพื่อผันตัวไปทำงานด้านนั้น หรือทำงานด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ บัณฑิตสามารถนำทักษะที่ได้จากคอร์สนี้ ไปประยุกต์ใช้กับการทำงานได้หลายด้าน ตามความถนัดและความสนใจของตัวเอง
แม้ปรัชญาจะไม่ใช่สาขาวิชาที่นิยมเรียนกันอย่างกว้างขวางมากนัก แต่ก็มีหลายมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนทางด้านนี้ ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีเกณฑ์การรับสมัครที่แตกต่างกันออกไป ผู้สมัครระดับปริญญาไม่จำเป็นต้องมีผลการเรียนระดับ A-level ขึ้นไปในวิชาปรัชญา แต่คุณควรมีผลการเรียนระดับ A-level ในวิชามนุษยศาสตร์ อย่างเช่น วรรณกรรมภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ ประวัติศาสตร์ หรือศาสนา เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสนใจในด้านนี้
วิธีการประเมินผลของคอร์สปรัชญาจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้เรียนจะต้องอ่านเอกสารที่ได้รับแจก เขียนความเรียงส่งอย่างสม่ำเสมอทุกอาทิตย์ และยังต้องสอบข้อเขียนเมื่อจบเทอมอีกด้วย หลักสูตรปริญญาตรีส่วนใหญ่จะใช้เวลาเรียน 3 ปี บางมหาวิทยาลัยอาจเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ไปศึกษาที่ต่างประเทศ ในระหว่างปีที่ 2 และปีสุดท้ายของหลักสูตร
ก่อนเริ่มคอร์ส ผู้สมัครที่มาจากประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก จะต้องสอบ IELTS ได้อย่างน้อย 6.0 คะแนนขึ้นไป
เนื่องจากผู้เรียนปรัชญามีทางเลือกในประกอบอาชีพที่หลากหลายมาก ดังนั้น ในการเลือกสถานศึกษานอกจากพิจารณาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยแล้ว คุณยังต้องพิจารณาเครือข่ายที่มหาวิทยาลัยนั้นมีด้วยว่า ตรงกับสายงานที่คุณต้องการทำในอนาคตหรือไม่ บริษัทชั้นนำส่วนใหญ่มักมองหาบุคลากรที่เคยมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน ซึ่งโดยมากแล้วทางมหาวิทยาลัยก็มักเปิดโอกาสให้นักศึกษา ฝึกงานและทำงานในช่วงซัมเมอร์เพื่อหาประสบการณ์ และเพิ่มโอกาสในการได้งานที่ดีในอนาคต
สำหรับสาขาวิชาที่ไม่ได้สอนโดยเน้นการปฏิบัติมากนักอย่างปรัชญา ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยก็ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญ ที่บริษัทจะใช้ประกอบการพิจารณารับคุณเข้าทำงาน Oxford, Cambridge, Durham, St Andrews, Bristol และ Kings College London มหาวิทยาลัยเหล่านี้เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศอังกฤษ ที่ได้รับการจัดอันดับว่ามีหลักสูตรปรัชญาที่ดี หากเกรดของคุณถึงเกณฑ์ คุณควรพิจารณามหาวิทยาลัยเหล่านี้ไว้เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ แต่ถ้าเกรดของคุณไม่ผ่านเกณฑ์ ก็ยังมีมหาวิทยาลัยอีกเป็นจำนวนมากที่มีหลักสูตรปรัชญาที่ดีเช่นกัน
ก่อนตัดสินใจเลือกสถานศึกษา คุณควรศึกษาสถิติและข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยให้ถี่ถ้วน คุณต้องใช้เวลาเรียนอยู่ที่นั่นอย่างน้อย 3 ปี หากเป็นไปได้ควรลองเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศจริงในมหาวิทยาลัย เพื่อหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้ คุณควรเลือกสถานที่เรียนให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพของตัวเองมากที่สุด
สุดท้ายนี้คุณควรคำนึงถึงค่าธรรมเนียมการศึกษา และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วย หากมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ควรมองหามหาวิทยาลัยที่มีทุนสำหรับนักศึกษาขาดแคลนไว้เป็นทางเลือกหนึ่งด้วย