การสำรวจในที่นี่หมายถึง การสำรวจที่ดิน เพื่อตรวจวัดความแตกต่างของแต่ละตำแหน่งบนที่ดินนั้นๆ นักสำรวจมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและอนุรักษ์ที่ดิน และเป็นผู้กำหนดตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ
ทุกวันนี้นักสำรวจเป็นที่ต้องการตัวอย่างยิ่ง สำหรับหลายๆ โครงการ อย่างเช่นการวางผังเมือง และการบูรณะสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นอีกหนึ่งอาชีพเฉพาะทางที่น่าสนใจ สำหรับคนลุยๆ ที่ชอบงานออกภาคสนาม
ผู้จบด้านการสำรวจมีทางเลือกมากมายในการประกอบอาชีพ โดยเงินเดือนจะเริ่มต้นที่ 18,000-26,000 ปอนด์ (855,000- 1,235,000 บาท) ต่อปี บัณฑิตส่วนใหญ่นิยมทำงานเป็นที่ปรึกษาในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือเป็นผู้ดูแลการออกแบบและบำรุงรักษาอาคารและโครงสร้าง
อีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจคือ การเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบปริมาณงาน (Quantity Surveyor หรือเรียกย่อๆ ว่า Q.S.) ทำหน้าที่ควบคุมดูแลงานก่อสร้างอาคาร และบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในโปรเจ็คท์นั้นๆ ประมาณการเกี่ยวกับค่าวัสดุและค่าแรงงาน ดูแลเรื่องข้อกำหนดของกฎหมาย ซึ่งจะมีรายได้เริ่มต้นประมาณ 19,000 ปอนด์ (902,500 บาท) ต่อปี
นอกจากนี้ บัณฑิตยังสามารถใช้คุณสมบัติในการสำรวจ ทำงานให้กับองค์กรการกุศลด้านสิ่งแวดล้อม หรือเรียนต่อในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น เพื่อทำงานด้านกฎหมายหรือนักสื่อสารมวลชน
สาขาวิชาการสำรวจเปิดสอนในหลายมหาวิทยาลัย ทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท สำหรับผู้มาจากประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก จะต้องสอบ IELTS ได้อย่างน้อย 6.0-6.5 คะแนนขึ้นไป
หลักสูตรปริญญาตรีจะใช้ระยะเวลาเรียนอย่างน้อย 3 ปี ซึ่งส่วนใหญ่จะขยายเวลาออกไป เนื่องจากต้องการให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติงานจริงในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านอย่างน้อย 3 A-levels หรือเทียบเท่าสำหรับนักเรียนจากประเทศที่ใช้ระบบการศึกษาต่างจากประเทศอังกฤษ และควรมีคุณสมบัติที่แสดงให้เห็นถึงความสนใจในสาขาวิชานี้ ส่วนระดับปริญญาโท ใช้เวลาเรียน 1-4 ปี และผู้สมัครจะต้องแสดงผลการศึกษาอย่างน้อยระดับ 2:1 ขึ้นไป
ในคอร์สนี้ผู้เรียนจะต้องฟังบรรยายในห้อง ควบคู่ไปกับการทำโปรเจ็คท์ค้นคว้าอิสระ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน นักศึกษาปริญญาตรีจะต้องฝึกงานอย่างน้อย 2 ที่ เพื่อทำความเข้าใจระบบการทำงานจริงในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง
สถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัย เป็นปัจจัยหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คุณต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายปี ดังนั้นจึงควรเลือกที่ที่คุณจะมีความสุขทั้งในด้านการเรียนและการเข้าสังคม บางคนอาจจะชอบมหาวิทยาลัยเล็กๆ ในเมืองที่ค่อนข้างสงบ ส่วนบางคนอาจจะอยากอยู่ในเมืองใหญ่ที่คึกคักมากกว่า คุณควรเลือกให้เหมาะกับบุคลิกของตัวเอง
เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่คุณจะต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง และมีคอนเนคชั่นกับบริษัทในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง บริษัทชั้นนำหลายแห่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถานศึกษา ซึ่งนั่นเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการฝึกงานตามที่หลักสูตรกำหนด หรือการหาประสบการณ์ทำงานเพิ่มเติมในระหว่างเรียน รวมถึงการหางานทำในอนาคตเมื่อจบการศึกษาด้วย บริษัทส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะรับพนักงานที่เคยฝึกงานกับองค์กรมาก่อน มากกว่าพนักงานที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความประพฤติและศักยภาพที่คุณแสดงให้พี่ๆ ในบริษัทเห็นระหว่างการฝึกงานด้วย
อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขของการรับสมัครด้วยว่า คุณสมบัติของคุณผ่านเกณฑ์หรือไม่ เพราะคอร์สทางด้านนี้ส่วนใหญ่กำหนดเกณฑ์ไว้ค่อนข้างสูง และที่สำคัญคือเรื่องค่าใช้จ่ายในการศึกษา หากคุณมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ควรมองหามหาวิทยาลัยที่มีทุนสำหรับนักศึกษาขาดแคลนไว้เป็นทางเลือกหนึ่งด้วย