
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นคือการหาหลักสูตรที่คุณอยากเรียน เมื่อเพื่อน ๆ ตัดสินใจได้แล้วก็ต้องมั่นใจว่าได้เช็คกับสำนักงานระหว่างประเทศของสถาบันเพื่อทำการสมัครให้สมบูรณ์ค่ะ มหาวิทยาลัยในปัจจุบันมีกฎเกณฑ์และข้อบังคับของการสมัครเรียนที่แตกต่างกันออกไปและข้อมูลต่อไปนี้ที่เพื่อน ๆ กำลังจะได้อ่านจึงถึงเป็นไอเดียสำหรับขั้นตอนการสมัครเรียนโดยทั่วไปเท่านั้น คุณควรทำการสมัครโดยตรงกับทางมหาวิทยาลัยหรือหลักสูตรและทำตามข้อกำหนดที่เขาตั้งไว้ด้วยค่ะ
คำถามเกี่ยวกับการสมัครเรียนอะไรบ้างที่คุณควรถามสำนักงานระหว่างประเทศ?
- เรามีสิทธิ์สมัครเรียนในหลักสูตรนี้หรือไม่?
- เราสมัครเรียนหลักสูตรนี้ออนไลน์ได้หรือเปล่า? ถ้าไม่ จะต้องส่งใบสมัครที่ไหน?
- เอกสารอื่น ๆ สำหรับการสมัครเรียนที่จำเป็นต้องใช้มีอะไรบ้างและต้องส่งไปที่ไหน?
- วันสุดท้ายของการสมัครเรียนคือเมื่อไหร่?
สิ่งที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการสมัครเรียน
- พาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ
- หลักฐานแสดงสถานะทางการเงินที่เพียงพอตลอดหลักสูตร
- หลักฐานการเรียนในประเทศช่วงก่อนเข้ามหาวิทยาลัยอย่างน้อย 12 ปี และหลักฐานการเรียนระดับมหาวิทยาลัย (ถ้ามี)
สิ่งที่คุณอาจต้องใช้
- ความสามารถในการพูด อ่านและเขียนภาษาญี่ปุ่น (ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของหลักสูตร แต่เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นก่อนเดินทางไปค่ะ!)
- จดหมายแนะนำ (Recommendation letter) จากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
- จดหมายแนะนำจากมหาวิทยาลัยของคุณในประเทศไทยในกรณีที่วางแผนไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนหรือเรียนหลักสูตรระยะสั้น (1-2 เทอม)
- จดหมายอ้างอิง (Reference letter) จากอาจารย์หรือเมนเทอร์อย่างน้อย 1 ฉบับ
- ผลการสอบเข้าที่ผ่านเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย
การสอบเข้ามหาวิทยาลัย
การสอบเหล่านี้จะจัดขึ้นปีละสองครั้ง โดยทั่วไปคือในเดือนมิถุนายนและพฤศจิกายน นักเรียนญี่ปุ่นทุกคนจะต้องทำการสอบเพื่อเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยเช่นกัน แต่การสอบของเขาจะยากกว่าการสอบที่จัดให้กับนักเรียนต่างชาติมากค่ะ
ต้องมั่นใจว่าได้ตรวจสอบกับมหาวิทยาลัยของคุณก่อนที่จะสมัครแล้ว เพื่อดูว่าคุณจะต้องทำการสอบใด ๆ ก่อนหรือไม่ ถ้าใช่ จะต้องสอบเมื่อไหร่และที่ไหน
เมื่อไหร่จะถึงเวลาสมัครเรียน
กำหนดการสมัครเรียนจะขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย สำหรับการสอบเข้าเรียนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง การสมัครของมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีขึ้นระหว่างเดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนเมษายน แต่ก็อย่าลืมเช็คกำหนดการรับสมัครกับทางออฟฟิศระหว่างประเทศของสถาบันของคุณให้แน่ใจก่อนด้วยนะคะ
TIPS :
นอกจากญี่ปุ่นแล้วก็ยังมีอีกหลายประเทศที่น่าสนใจสำหรับการเรียนต่อ ลองเช็กมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในเอเชียเพื่อวางแผนการสมัครคอร์สเรียนและสมัครทุน มีหลายสถาบันที่กำลังเปิดคอร์สเรียนใหม่ ลองดาวน์โหลดโบรชัวร์เพื่ออ่านรายละเอียดล่าสุด