
นักเรียนต่างชาติและ SAT
SAT คือการทดสอบมาตรฐานที่นักเรียนทุกคนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในอเมริกาจำเป็นต้องใช้ โดยเดิมที SAT เป็นตัวย่อมาจากคำว่า Scholastic Aptitude Test แต่หลังจากนั้นมามันก็ถูกย่อมาจากคำว่า Scholastic Assessment Test แต่ในปัจจุบันการสอบ SAT ถูกจัดขึ้นโดย The College Board และถูกจัดให้เป็น Educational Testing Service จึงทำให้ SAT ไม่ได้เป็นคำย่อจากความหมายเดิมอีกต่อไป
การสอบ SAT ได้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นทั่วโลกและได้กลายเป็นมาตรฐานของการทดสอบนักเรียนเพื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
ในวันนี้ฮอทคอร์สจะมาอธิบายให้ฟังถึงการสอบว่ามันเป็นอย่างไรและข้อมูลที่สำคัญต่อนักเรียนต่างชาติมีอะไรบ้าง
พื้นฐาน
การสอบ SAT จะใช้เวลาในการสอบประมาณ 3 ชั่วโมง 40 นาที โดยรวมถึงเวลาพักด้วย ซึ่งการสอบในแต่ละส่วนนั้น สามารถแบ่งออกเป็นสามส่วนหลักๆ ดังนี้
การอ่าน (Reading)
ประกอบไปด้วยส่วนที่ใช้เวลา 20 นาที 1ส่วน และ 25 นาที 2 ส่วน โดยมีคำถามจากบทความ 48 ข้อ และจากการเติมประโยคให้สมบูรณ์อีก 19 ข้อ
คณิตศาสตร์
ประกอบไปด้วยส่วนที่ใช้เวลา 20 นาที 1ส่วน และ 25 นาที 2 ส่วนเช่นกัน โดยมีคำถามแบบกากบาท 44 ข้อ และแสดงวิธีทำอีก 10 ข้อ
การเขียน (Writing)
ประกอบไปด้วยส่วนที่ใช้เวลา 10 นาที 1ส่วน และ 25 นาที 2 ส่วน โดยมีคำถามเกี่ยวกับการปรับปรุงประโยค 25 ข้อ, หาประโยคที่ผิด 18 ข้อ และปรับปรุงย่อหน้าใหม่ 6 ข้อ นอกจากนี้ยังให้ผู้เข้าสอบเขียนเรียงความอีก 1 เรื่อง โดยพวกเขาไม่ได้คาดหวังเรียงความที่สมบูรณ์แบบมากนัก เนื่องจากมีเวลาในการเขียนที่จำกัด ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเขียนร่างก่อน
The College Board ยังมีการเพิ่มบริการทำแบบทดสอบ SAT ฟรี อีกด้วย เพื่อช่วยให้นักเรียนทดสอบดูว่าตนเองนั้นทำคะแนนได้เท่าไหร่ และวิชาไหนที่พวกเขาควรจะอ่านหรือฝึกฝนเพิ่มเติม โดยปกติแล้วราคาสมัครสอบ SAT อยู่ที่ 81 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ และหน่วยจัดสอบประจำท้องที่ก็กระจายอยู่ทั่วโลก
สำหรับการสมัครสอบนั้น นักเรียนจะต้องสมัครกับ The College Board ก่อน เพื่อที่จะได้สามารถตรวจผลคะแนนสอบแบบออนไลน์ได้ แทนที่จะต้องรอผลผ่านทางไปรษณีย์
ในแต่ละปี จะมีการเปิดสอบในหลายช่วงเวลาด้วยกัน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเทศที่นักเรียนสมัครสอบด้วย โดยจุดประสงค์ของการสอบนั้นก็เพื่อทดสอบกระบวนการคิดและการใช้เหตุผลของนักเรียน ว่ามีความพร้อมที่จะเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้วหรือไม่ มหาวิทยาลัยในอเมริกาแต่ละแห่งจะมีการกำหนดระดับผลคะแนนสอบ SAT ที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยมากแล้วในปัจจุบัน คะแนนมาตรฐานจะอยู่ที่ 2400 คะแนน ส่วนคะแนนเฉลี่ยนั้นจะมีเริ่มต้นตั้งแต่ 1500 ขึ้นไป นอกจากนี้มหาวิทยาลัยของอเมริกานั้นค่อนข้างขึ้นชื่อในเรื่องของการรับนักเรียนที่ได้คะแนนไม่ถึงที่ได้วางเอาไว้ ซึ่งมันเป็นการแสดงให้เห็นว่าการได้ผลคะแนน SAT แบบผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ หรือได้ดีกว่าที่มหาวิทยาลัยตั้งไว้ ก็ไม่ได้เป็นการรับประกันว่านักเรียนคนนั้นจะได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
ถึงแม้ว่าการได้ผลคะแนนสอบ SAT สูงจะเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ก็อย่าลืมว่ามหาวิทยาลัยก็ยังมีวิธีการในการคัดเลือกคนเข้าเรียนในอีกหลายรูปแบบ และ SAT ก็เป็นเพียงแค่หนึ่งในวิธีเหล่านั้น โดยวิธีที่มหาวิทยาลัยใช้ในการตัดสินคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนนั้น มีหลายวิธี เช่น เรียงความ, จดหมายรับรอง รวมถึงผลการเรียนที่ผ่านมาด้วย
นักเรียนสามารถสอบ SAT ได้กี่ครั้งก็ได้ตามต้องการ และยังสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะยื่นคะแนนสอบครั้งไหนให้กับมหาวิทยาลัย แต่อย่าลืมว่าการจัดการทดสอบในแต่ละประเทศ ก็จะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน ดังนั้นนักเรียนควรสอบถามรายละเอียดไปยังหน่วยสอบในประเทศของตนให้แน่ใจ
-----------------------------------------------------------------
ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติม
กำหนดเวลาสอบ SAT ในประเทศไทย
เรียนต่ออเมริกา
ระบบการศึกษาของอเมริกา