
Times Higher Education นิตยสารการศึกษาชื่อดังจากลอนดอน รายงานผลการจัดอันดับชื่อเสียงของสถาบันอุดมศึกษาทั่วโลกประจำปี 2014 มีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
สรุปสาระสำคัญ:
- California Institute of Technology ครองแชมป์อันดับ 1 ยาวนานเป็นปีที่ 4 โดยมี Harvard University ตามมาเป็นอันดับ 2 และ University of Oxford ตามมาเป็นอันดับ 3
- ใน 200 อันดับแรก มีมหาวิทยาลัยจากสหราชอาณาจักรลดลง 3 แห่ง และใน 400 อันดับแรก มีมหาวิทยาลัยจากสหราชอาณาจักรลดลง 5 แห่ง
- ลอนดอนถือเป็นเมืองการศึกษาที่โดดเด่นมาก เพราะมีมหาวิทยาลัยติด Top 40 ถึง 4 แห่ง
- มหาวิทยาลัยจากเอเชียยังคงไต่อันดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปีที่ผ่านมาใน 200 อันดับแรกมีมหาวิทยาลัยจากเอเชีย 20 แห่ง ส่วนปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 24 แห่ง
- ใน 200 อันดับแรก มีมหาวิทยาลัยใหม่จากเยอรมนีเพิ่มขึ้น 2 แห่ง ทำให้ตอนนี้เยอรมนีมีอันดับแซงเพื่อนบ้านอย่างเนเธอร์แลนด์ไปแล้ว
- ญี่ปุ่นยังคงรักษาแชมป์อันดับ 1 ของเอเชียเอาไว้ได้ แต่ก็มีมหาวิทยาลัยที่สูญเสียอันดับเพิ่มมากขึ้น
- Top 200 ประกอบด้วยมหาวิทยาลัยจาก 28 ประเทศ โดยมี 26 ประเทศที่เคยอยู่ในอันดับเมื่อปีที่ผ่านมา และ 2 ประเทศใหม่ ได้แก่ อิตาลีและรัสเซีย
รายละเอียด:
California Institute of Technology รักษาตำแหน่งมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกไว้ได้ 4 ปีติดต่อกัน ส่วน Harvard University ยังครองอันดับ 2 ไว้อย่างเหนียวแน่น ในขณะที่ University of Oxford ซึ่งเคยเป็นอันดับ 2 ร่วมในปีที่แล้ว ปีนี้ตกลงมาอยู่อันดับ 3 ส่วนอันดับ 4 ยังเป็นของ Stanford University เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ที่น่าสนใจคือ University of Cambridge ได้เลื่อนขึ้น 2 อันดับ มาอยู่อันดับ 5 ในปีนี้
มหาวิทยาลัยอื่นๆ ใน Top 10 ได้แก่ อันดับ 6 The Massachusetts Institute of Technology (ลดลง 1 อันดับ) อันดับ 7 Princeton University (ลดลง 1 อันดับ) อันดับ 8 University of California, Berkeley (คงที่) อันดับ 9 ร่วมกัน Imperial College London และ Yale University ส่วน University of Chicago ที่เคยอยู่อันดับ 9 ในปีที่แล้ว ปีนี้หลุดจาก Top 10 ไปอยู่อันดับที่ 11
Times Higher Education World University rankings เรียกสั้นๆ ว่า THE เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือมากที่สุดในโลก THE ใช้เกณฑ์ในการพิจารณา 13 ด้าน เช่น การถ่ายโอนความรู้, สิ่งแวดล้อมในการเรียน, ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการวิจัย, ภาพรวมในระดับนานาชาติ ทำให้เราเห็นการพัฒนาของมหาวิทยาลัยจากอันดับในแต่ละปี นักเรียนส่วนใหญ่ใช้การจัดอันดับนี้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกสถาบัน
ปี 2014 - 2015 นี้สหรัฐอเมริกายังคงทำผลงานได้ดีอีกเช่นเคย โดยกวาดไปถึง 7 อันดับใน Top 10 และ 15 อันดับใน Top 20 แต่เมื่อมองภาพรวม 200 อันดับแรก กลับมีมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับลดลง จาก 77 แห่งในปีที่แล้ว เหลือ 74 แห่งในปีนี้
ด้านสหราชอาณาจักรซึ่งมีมหาวิทยาลัยติดอันดับโลกมากเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกาก็มีสถิติที่แย่ลงเช่นกัน เพราะมีมหาวิทยาลัย 3 แห่งหลุดโผจาก Top 200 ได้แก่ University of Reading (ปีที่แล้วอยู่อันดับ 194), University of Dundee (ปีที่แล้วอยู่อันดับ 196) และ Newcastle University (ปีที่แล้วอยู่อันดับ 198) แต่ก็ยังมี St George’s, University of London น้องใหม่ที่เพิ่งเข้าโผมาติดอันดับ 196 ในปีนี้ ที่ช่วยดึงสถิติโดยรวมขึ้นมาได้บ้าง รวมแล้วขณะนี้สหราชอาณาจักรมีมหาวิทยาลัยอยู่ใน 200 อันดับแรกทั้งสิ้น 29 แห่ง ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งมี 31 แห่ง
อันดับ 3 ของประเทศที่มีมหาวิทยาลัยติด Top 200 มากที่สุด ได้แก่ เยอรมนี ซึ่งมีมหาวิทยาลัยใหม่เข้าโผเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง รวมเป็น 12 แห่ง ส่วนอันดับ 4 ตามมาติดๆ ด้วยเนเธอร์แลนด์ มีมหาวิทยาลัยหลุดโผ 1 แห่ง ปีนี้จึงเหลือมหาวิทยาลัยใน 200 อันดับแรก 11 แห่ง รองลงมาคือ 8 แห่ง แคนาดากับออสเตรเลีย และ 7 แห่ง สวิสเซอร์แลนด์กับฝรั่งเศส
มาดูฝั่งเอเชียกันบ้าง ปีนี้ภาพรวมค่อนข้างโดดเด่นทีเดียว เพราะมีมหาวิทยาลัยติด Top 200 เพิ่มขึ้นจาก 20 แห่งเป็น 24 แห่ง โดยมี 2 มหาวิทยาลัยอยู่ใน Top 25 ได้แก่ อันดับ 23 University of Tokyo ประเทศญี่ปุ่น และอันดับ 25 National University of Singapore ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังมีมหาวิทยาลัยติด Top 200 รวม 5 แห่ง ซึ่งถือมากที่สุดในเอเชียอีกด้วย รองลงมาคือ 4 แห่ง ฮ่องกงและเกาหลีใต้ ตามมาติดๆ ด้วยมหาอำนาจอย่างจีนติดอันดับ 3 แห่ง ได้แก่ อันดับ 48 Peking University อันดับ 49 Tsinghua University และอันดับ 193 Fudan University
ทั้งนี้มี 11 ประเทศที่มีมหาวิทยาลัยติดอันดับ Top 200 ประเทศละหนึ่งแห่ง ได้แก่
- ออสเตรเลีย อันดับ 182 University of Vienna
- ฟินแลนด์ อันดับ 103 Helsinki University
- อิสราเอล อันดับ 188 Tel Aviv University
- อิตาลี อันดับ 63 Scuola Normale Superiore di Pisa
- นิวซีแลนด์ อันดับ 175 University of Auckland
- นอร์เวย์ อันดับ 186 OsloSouth
- แอฟริกา อันดับ 124 University of Cape Town
- สเปน อันดับ 165 Pompeu Fabra University
- ไอร์แลนด์ อันดับ 138 Trinity College Dublin
- รัสเซีย Russia อันดับ 196 Moscow State University
- ไต้หวัน Taiwan อันดับ 155 National Taiwan University
ส่วนประเทศไทย แม้จะไม่มีมหาวิทยาลัยอยู่ใน 200 อันดับแรก แต่ก็มีมหาวิทยาลัยที่ทำผลงานดีที่สุดคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ติด Top 400 ในการจัดอันดับครั้งนี้
50 อันดับแรก
2014-15 |
2013-14 |
สถาบัน |
ประเทศ |
1 |
1 |
California Institute of Technology |
อเมริกา |
2 |
2 |
Harvard University |
อเมริกา |
3 |
2 |
University of Oxford |
สหราชอาณาจักร |
4 |
4 |
Stanford University |
อเมริกา |
5 |
7 |
University of Cambridge |
สหราชอาณาจักร |
6 |
5 |
Massachusetts Institute of Technology |
อเมริกา |
7 |
6 |
Princeton University |
อเมริกา |
8 |
8 |
University of California, Berkeley |
อเมริกา |
9 |
10 |
Imperial College London |
สหราชอาณาจักร |
9 |
11 |
Yale University |
อเมริกา |
11 |
9 |
University of Chicago |
อเมริกา |
12 |
12 |
University of California, Los Angeles |
อเมริกา |
13 |
14 |
Swiss Federal Institute of Technology Zürich |
สวิตเซอร์แลนด์ |
14 |
13 |
Columbia University |
อเมริกา |
15 |
15 |
Johns Hopkins University |
อเมริกา |
16 |
16 |
University of Pennsylvania |
อเมริกา |
17 |
18 |
University of Michigan |
อเมริกา |
18 |
17 |
Duke University |
อเมริกา |
19 |
19 |
Cornell University |
อเมริกา |
20 |
20 |
University of Toronto |
แคนาดา |
21 |
22 |
Northwestern University |
อเมริกา |
22 |
21 |
University College London |
สหราชอาณาจักร |
23 |
23 |
University of Tokyo |
ญี่ปุ่น |
24 |
24 |
Carnegie Mellon University |
อเมริกา |
25 |
26 |
National University of Singapore |
สิงคโปร์ |
26 |
25 |
University of Washington |
อเมริกา |
27 |
28 |
Georgia Institute of Technology |
อเมริกา |
28 |
27 |
University of Texas at Austin |
อเมริกา |
29 |
29 |
University of Illinois - Urbana |
อเมริกา |
29 |
55 |
Ludwig-Maximilians-Universität München |
เยอรมนี |
29 |
30 |
University of Wisconsin Madison |
อเมริกา |
32 |
31 |
University of British Columbia |
แคนาดา |
33 |
34 |
University of Melbourne |
ออสเตรเลีย |
34 |
37 |
École Polytechnique Fédérale de Lausanne |
สวิตเซอร์แลนด์ |
34 |
32 |
London School of Economics and Political Science |
สหราชอาณาจักร |
36 |
39 |
University of Edinburgh |
สหราชอาณาจักร |
37 |
33 |
University of California, Santa Barbara |
อเมริกา |
38 |
40 |
New York University |
อเมริกา |
39 |
35 |
McGill University |
แคนาดา |
40 |
38 |
King's College London |
สหราชอาณาจักร |
41 |
40 |
University of California, San Diego |
อเมริกา |
42 |
42 |
Washington University Saint Louis |
อเมริกา |
43 |
43 |
University of Hong Kong |
ฮ่องกง |
44 |
36 |
Karolinska Institute |
สวีเดน |
45 |
48 |
Australian National University |
ออสเตรเลีย |
46 |
46 |
University of Minnesota |
อเมริกา |
46 |
47 |
University of North Carolina |
อเมริกา |
48 |
45 |
Peking University |
จีน |
49 |
50 |
Tsinghua University |
จีน |
50 |
44 |
Seoul National University |
เกาหลีใต้ |