
เมื่อไม่นานมานี้ทาง Times Higher Education เพิ่งประกาศผลอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกประจำปี 2018 โดยในลิสต์ประกอบไปด้วยมหาวิทยาลัยถึง 1,000 แห่ง โดยในบรรดา 1,000 แห่งนั้นก็มีมหาวิทยาลัยในประเทศที่กำลังพัฒนาด้วยจำนวนหนึ่ง เรามาดูกันดีกว่าว่ามีประเทศอะไรบ้าง และส่วนใหญ่เป็นประเทศอะไรบ้าง
10 อันดับมหาวิทยาลัยประเทศกำลังพัฒนาจัดโดย THE ปี 2018
2018 RANK ประเทศกำลังพัฒนา |
2017 RANK ประเทศกำลังพัฒนา |
2018 ระดับโลก |
มหาวิทยาลัย | ประเทศ |
---|---|---|---|---|
1 | 1 | =27 | Peking University | China |
2 | 2 | 30 | Tsinghua University | China |
3 | 3 | 194 | Lomonosov Moscow State University | Russian Federation |
4 | 6 | 116 | Fudan University | China |
5 | 5 | 132 | University of Science and Technology of China | China |
6 | 9 | =177 | Zhejiang University | China |
7 | 7 | =188 | Shanghai Jiao Tong University | China |
8 | 11 | =169 | Nanjing University | China |
9 | 4 | 171 | University of Cape Town | South Africa |
10 | 10 | =198 | National Taiwan University | Taiwan |
ประเทศจีนกับการสนับสนุนมหาวิทยาลัยระดับท็อป
ดูจากตารางแล้วน่าสนใจมากที่ประเทศส่วนใหญ่เป็นประเทศจีน ที่สำคัญก็อยู่ในระดับที่สูงในระดับโลกด้วยหากไปเทียบกับจำนวนมหาวิทยาลัยในโซนอเมริกาและยุโรป
ในลิสต์ 50 อันดับของอันดับมหาวิทยาลัยในประเทศกำลังพัฒนาจะเห็นประเทศจีนอยู่ประปรายถึง 20 กว่าสถาบันที่มีอันดับสูงขึ้น คุณภาพดีขึ้นทั้งด้านการสอนและการวิจัย แต่ว่าหากดูมหาวิทยาลัยของจีนที่อยู่ด้านล่างลงไปแล้วจะเห็นได้ว่าสถาบันเหล่านั้นตกอันดับลงมาตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยระดับท็อปที่ไต่อันดับขึ้น
เหตุผลที่เป็นแบบนี้เพราะทางรัฐบาลจีนได้การันตีเมื่อปีที่แล้วว่าจะสนับสนุนให้วงการอุดมศึกษาของจีนนั้นเป็น "ระดับโลก" ให้ได้ ซึ่งในขณะที่มันส่งผลดีให้กับมหาวิทยาลัยระดับท็อปทั้งในด้านชื่อเสียง คุณภาพการสอนและงานวิจัยแต่ในเวลาเดียวกันมันก็ส่งผลให้เกิดการสร้างความไม่เท่าเทียมและการสร้างชนชั้นทางการศึกษาตามสถาบันต่างๆ ได้ด้วย
ทาง British Council เองก็มีรายงานว่าวิธีการแบบนี้ในวงการการศึกษาแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งพัฒนามหาวิทยาลัยระดับท็อปแค่จำนวนหยิบมือนั้นอาจจะ "ส่งผลกระทบถึงระบบการแลกเปลี่ยนและทำวิจัยในกลุ่มวงการการศึกษา"
ไม่ว่าจะมหาวิทยาลัยไหนก็ต้องการให้ตัวเองมีอันดับที่ดีเพื่อเป็นเกียรติให้กับสถาบัน ผลดีก็คือนักศึกษาจะได้รับผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการที่ดี การศึกษาที่มีคุณภาพ อุปกรณ์ การสนับสนุนที่มากมาย แต่ในขณะเดียวกันในมุมกว้างแล้วการลงทุนด้วยเงินเม็ดใหญ่ให้กับสถาบันระดับท็อปเพียงอย่างเดียวก็อาจสร้างความเหลื่อมล้ำจนส่งผลเสียในระยะยาวได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องจับตาดูประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ว่าจะมีมาตรการจัดการกับปัญหาเช่นนี้อย่างไรต่อไป
จริงๆ แล้วการเรียนในมหาวิทยาลัยอันดับสูงๆ ก็ถือว่าดีสำหรับคนที่มีกำลังที่จะไปได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้ติดใน 10 อันดับ หรือ 50 อันดับแรกจะเลวร้ายอะไรตราบใดที่ตัวนักศึกษาตั้งใจเรียน ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด :)
เข้าไปดูรวมมหาวิทยาลัยที่ที่ดีที่สุดทั่วโลก 50 อันดับแรกได้จากที่ลิงก์นี้เลย
source: THE Emerging Economies University Rankings 2018: results announced