หากพูดถึงการไปเรียนต่อเมืองนอก หลักสูตรการบริหารธุรกิจอย่าง MBA (Master of Business Administration) มักจะเป็นหลักสูตรที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ดังนั้นวันนี้ทาง Hotcourses จึงอยากนำรายละเอียดของหลักสูตรนี้มาเล่าให้ฟัง
ทำความรู้จัก
MBA เป็นตัวย่อของ Master of Business Administration ซึ่งเปรียบเสมือนพาสปอร์ตสู่ความสำเร็จทางธุรกิจในอนาคตของผู้เรียนเลยก็ว่าได้ หลักสูตร MBA นี้ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่ชอบเรียนรู้ โดยเฉพาะคนที่จะเป็นผู้นำทางธุรกิจการบริหารอย่างการตลาด การเงิน การจัดการทรัพยากรบุคคล หรือนักบัญชี ไม่ว่าผู้เรียนจะมีประสบการณ์ทางด้านไหนก็ตาม หลักสูตร MBA มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มองหาความก้าวหน้าในอาชีพของตัวเอง
โครงสร้างหลักสูตร
ระยะเวลาของหลักสูตรอยู่ที่ 1 - 2 ปี ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยที่เลือกเรียน เนื่องจาก MBA เป็นหลักสูตรที่ได้รับความนิยมมาก ข้อมูลของหลักสูตรจึงหาได้ไม่ยาก ค่าเทอมจะแตกต่างกันไปตามมหาวิทยาลัยตั้งแต่ £5,500 ถึง £68,000 การเลือกมหาวิทยาลัยควรจะเลือกโปรแกรมที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากองค์กรที่ตรวจสอบหลักสูตร MBA เป็นหลัก ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก program MBA Association (AMBA) หรือดูว่าจากการจัดอันดับ Top MBA Universities เป็นข้อมูลก่อนเลือก นอกจากนี้อาจเลือกสถาบันที่ได้รับการรับรองแบบ International นอกเหนือจากการพิจารณาจากค่าเล่าเรียนเพียงอย่างเดียว เทรนด์ของหลักสูตรMBA ในปัจจุบันได้แยกย่อยออกไป หลายมหาวิทยาลัยได้พัฒนาหลักสูตรให้เหมาะสมกับเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนไป อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรMBA ที่เปลี่ยนไปหลังปี 2014
การรับสมัคร
สถาบันส่วนมากจะรับนักศึกษาที่จบในระดับวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัย ที่มีประสบการณ์ทำงานในบริษัท 3 ปีขึ้นไป สถาบันบางแห่งไม่ได้กำหนดว่าจะต้องจบจากมหาวิทยาลัย แต่ผู้สมัครจะต้องแสดงออกถึงความสามารถที่โดดเด่นกว่าคนอื่น โดยเฉพาะการรับมือปัญหาและความท้าทายในที่ทำงาน ดังนั้นประสบการณ์ทำงานถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นงานประจำหรืองานนอกเวลาก็ตาม นอกจากนี้ นักเรียนต่างชาติจะต้องผ่านข้อกำหนดด้านภาษา ซึ่งสถาบันส่วนใหญ่จะกำหนดไว้ที่ IELTS 6.5 หรือ TOEFL 580 ขึ้นไป จึงจะมีสิทธิ์สมัครเรียน
ข้อดีและข้อเสียของหลักสูตร MBA
เพื่อช่วยในการตัดสินใจ เราจึงลองนำข้อดีและข้อเสียของ MBA มาให้อ่านกัน
ข้อดี
- หลักสูตร MBA ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ความเชี่ยวชาญหลายด้านอย่างลึกซึ้ง
- ความรู้เหล่านี้จะช่วยให้ผู้เรียนแข่งขันในตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยให้เรามีโอกาสได้งานที่ดีขึ้น
- สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้ไปปรับใช้กับงานได้หลายสาขา เช่น ความเป็นผู้นำ การบริหารจัดการองค์กร การจัดการเวลา เป็นต้น
- การเข้าร่วมหลักสูตรจะเปิดโอกาสให้เราได้พบคนใหม่ๆ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ซึ่งทำให้เรามี Connection ที่ดีขึ้น
- นอกจากจะช่วยให้หางานได้ง่ายขึ้นแล้ว MBA ยังช่วยให้เรามีทักษะที่เพียงพอต่อการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองอีกด้วย หากเราต้องการ
ข้อเสีย
- ค่าเล่าเรียน MBA ค่อนข้างสูง และไม่มีอะไรยืนยันว่าเราจะสามารถหางานที่ได้ค่าตอบแทนสูงตามที่เราคาดหวังไว้
- การเรียนค่อนข้างหนัก และเวลาเรียนไม่ยืดหยุ่นเท่าหลักสูตรอื่น ดังนั้นผู้เรียนต้องใส่ใจและทุ่มเทกับการเรียนมาก
- เนื้อหายากมาก และหากเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ก็จะทำให้เราจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งลำบาก การเรียนอาจจะทำให้เสียเวลางานได้
แต่ว่าการเรียน MBA ก็ไม่ใช่ทางเลือกเดียวเสมอไป สถาบันหลายแห่งที่เปิดสอน MBA มักจะเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาโทเกี่ยวกับธุรกิจจำนวนมาก เราอาจจะลองดูหลักสูตรที่เฉพาะเจาะจงและเกี่ยวข้องกับอาชีพที่เราสนใจเป็นหลัก เช่น หากสนใจทำงานในบริษัทข้ามชาติและรูปแบบการจัดการองค์กร หลักสูตรปริญญาโทด้านธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business) อาจจะเหมาะสมกว่า
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าอยากเรียน MBA หรือไม่ อาจจะลองถามคนที่เคยเรียนแล้วดู จะได้คำแนะนำดีๆ ที่ช่วยให้เราเข้าใจหลักสูตร MBA มากขึ้น นอกจากนี้อาจจะลองหาข้อมูลจากแผนกให้คำปรึกษาของมหาวิทยาลัย หรืออาจารย์ และเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละหลักสูตรกับความสามารถและความคาดหวังของเราเอง ลองดู blogs และกระทู้ของคนที่เคยเรียน MBA และความคิดเห็นได้ที่นี่ หากยังคงสงสัยว่าจะเลือกอะไร ก็ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ค้นหาหลักสูตรที่เหมาะสมกับเราทั้งเรื่องของเวลาและความพยายาม ที่แน่ๆ การเรียน MBA มีประโยชน์ต่ออนาคตแน่นอน
ข้อมูลเพิ่มเติม
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ลองเข้าร่วมนิทรรศการการเรียนต่อที่จัดขึ้นบ่อยๆ แวะไปดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับงานต่างๆ ได้ที่ เว็บไซต์ของ MBA Association ก็ดีนะ