
เรื่องสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเวลามาเรียนต่อต่างประเทศก็คือเรื่องของการหาที่พักค่ะ ถ้าอยู่เมืองไทยอาจจะยังคลำๆ ทางไปไหว แต่นี่ต้องไปหาที่พักในต่างประเทศ โอ๊ย จะเริ่มยังไงดีล่ะ
หลายๆ คนอาจจะกำลังปวดหัวกับเรื่องนี้อยู่ อะแฮ่ม ไม่ต้องไป google ให้เสียเวลาค่ะ เพราะวันนี้เราจะขอเริ่มซีรี่ย์ที่มีประโยชน์สุดๆ กับวิธีหาที่พักสำหรับนักเรียนในแต่ละประเทศ ที่ขนข้อมูลมาให้แบบละเอียดยิบ คืออ่านแล้วกำเงินไปวางมัดจำได้เลยอะไรแบบนั้น
ฤกษ์งามยามดี ขอเริ่มที่ประเทศสุดฮิตอย่างสหราชอาณาจักรกันก่อนแล้วกันค่ะ
ทำความรู้จักที่พักแบบต่างๆ กันก่อน
- หอพักของมหาวิทยาลัย (หอพักนักศึกษา) - ก็คือหอพักที่บริหารโดยมหาวิทยาลัยที่เราจะเข้าไปเรียนต่อนั่นเองค่ะ หอพักแบบนี้มีทั้งแบบที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเลย หรือไม่ก็อยู่ไม่ห่างจากตัวมหาวิทยาลัยมาก
- ข้อดี - เดินทางสะดวก ปลอดภัย มีทีมดูแลนักศึกษาโดยตรง เลือกได้ทั้งแบบห้องเดี่ยว ห้องรวม ห้องน้ำในตัว ห้องน้ำรวม ส่วนมากต้องใช้ห้องครัวร่วมกัน ดีสุดๆ ที่ราคาไม่แพง และมักไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ข้อเสีย - เข้าอยู่ได้แบบสั้นๆ บางที่อาจจะอยู่ได้ถึงปี แต่ว่าจะต้องมีการย้ายออกอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้นักศึกษาน้องใหม่ได้เข้าพักต่อ และหอพักมักจะมีจำนวนจำกัด ก็เลยอาจจะต้องแก่งแย่งกันหน่อย อีกอย่างก็คืออาจจะเสียงดัง ก็หอนักศึกษาอ่ะเนอะ
- Flat/House share - แชร์แฟลต (คล้ายๆ คอนโด/อพาร์ทเมนท์ค่ะ แต่คนอังกฤษเรียกว่าแฟลต) หรือแชร์บ้าน คือเราจะไปอาศัยอยู่กับคนอื่นประมาณ 2-4 คน โดยต้องใช้ห้องครัวร่วมกัน บางที่ก็ต้องแชร์ห้องน้ำกันด้วย แต่เราจะได้ห้องนอนส่วนตัวค่ะ
- ข้อดี - เลือก location ของบ้านหรือหอพักที่เราชอบได้ตามใจ ได้เจอเพื่อนใหม่ (รูมเมท) อาศัยอยู่แบบระยะยาวได้
- ข้อเสีย - อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าอินเตอร์เนท ค่าน่้ำ ค่าไฟ อาจจะไกลกว่ามหาวิทยาลัยทำให้ต้องเดินทางเยอะขึ้น
- Studio - ห้องพักเดี่ยวแบบมีทุกอย่างในห้องเดียว ทั้งห้องครัว ห้องน้ำ มักจะเป็นแฟลตค่ะ
- ข้อดี - เป็นส่วนตัวมาก ไม่ต้องแชร์อะไรกับใครทั้งสิ้น
- ข้อเสีย - ราคาค่อนข้างสูง
- Homestay - อยู่กับโฮสต์ไปเลยค่ะ
- ข้อดี - ได้อยู่ร่วมกับชาวท้องถิ่น ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเค้า ภาษาเราจะดีขึ้นแบบติดสปีดมากเพราะได้คุยกับโฮสต์บ่อยๆ ที่ชอบมากๆ คือมักจะได้ไปเที่ยวในวันหยุด แถมมีอาหารให้ทานด้วยเด้อ
- ข้อเสีย - ไม่ค่อยเป็นส่วนตัว ราคาอาจจะสูง
Tips: เวลาหาที่พัก เลือกแบบที่เค้าเขียนว่า รวมบิล หรือ bills included จะดีหน่อย เพราะจะรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้แล้ว ไม่ต้องจ่ายหยุมหยิมเพิ่มเติมค่ะ
อยู่ลอนดอนให้คุ้ม สนุก อร่อยแม้ไม่มีเงินถัง : ตอนที่ 3 LOOKING FOR ACCOMMODATION
ค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพสำหรับการเรียนต่ออังกฤษ สหราชอาณาจักร อัพเดตล่าสุด ปี 2020
ค่าเช่าประมาณเท่าไหร่?
อันนี้แล้วแต่แหล่งที่เราเลือกอยู่ค่ะ โดยเฉลี่ยแล้วคือ
- นอกลอนดอน £125 (5,000บ.)/อาทิตย์ หรือ £535 (21,000บ.)/เดือน
- ในลอนดอน £182 (7,200บ.)/อาทิตย์ หรือ £640 (25,000บ.)/เดือน
ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันตามประเภทที่พักด้วยค่ะ อย่างถ้าเป็นแบบสตูดิโอ ก็จะแพงขึ้นมาอีก
เริ่มหาที่พักยังไงดี?
- อันดับแรกเราจะขอแนะนำให้คุยกับ student advisor ในมหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาของเราก่อน เพราะทีมงานเหล่านี้เค้าจะเชี่ยวชาญด้านการหาที่พัก บางทีก็สามารถช่วยเราจองหรือจัดการเอกสารให้เราด้วย คุยกับเจ้าถิ่นก่อนคือดีที่สุดค่ะ
- แต่ถ้าเราอยากลองหาที่พักด้วยตัวเอง เราทำได้ 2 ทางค่ะ คือ
- ติดต่อเอเจ้นท์ให้เค้าเป็นตัวกลาง ช่วยหาบ้าน ช่วยเรื่องสัญญา แพงหน่อยแต่ปลอดภัย ตัวเลือกจะเยอะมาก สัญญาต่างๆทำได้เร็ว เค้าจะมีการเช็คประวัติทั้งของคนเช่า และแลนด์ลอร์ดหรือเจ้าของบ้านด้วยค่ะทำให้เราสบายใจได้เวลาเช่า และถ้ามีปัญหาระหว่างเช่า เช่น น้ำรั่ว ไฟดับ ก็ติดต่อเอเจ้นท์ได้เลย สะดวกมาก (เอเจ้นท์ที่น่าเชื่อถือได้ คือพวกบริษัทใหญ่ๆ เช่น Foxtons, Hamptons)
- หาบ้านพักด้วยตัวเอง เราสามารถใช้เว็บต่างๆ ได้ เช่น StudentPad, Spare room, Mystudenthall ไม่ต้องเสียเงินหรือเสียน้อยกว่าเอเจ้นท์เยอะ แต่เราต้องดูรายละเอียดเอง และจะมีความเสี่ยงมากกว่า แนะนำว่าควรไปเช่ากับเพื่อนที่รู้จักกันค่ะ เอาความปลอดภัยเราเป็นหลักเนอะ
แถบไหนดี แถบไหนที่ต้องเซย์โน
แหล่งที่นิยมสำหรับนักเรียน แบบที่เดินทางสะดวก ปลอดภัย มีร้านครบ เช่น
- ในลอนดอน: Kensington, Putney, Hammersmith, Wimbledon, Greenwich, Kingston,
- นอกลอนดอน: ควรเลือกใกล้ๆ มหาวิทยาลัย ย่านที่มีคนพอสมควร
แหล่งที่ควรเลี่ยง
- ในลอนดอน: Hackney, Croydon, Westminster, Newham, Camden
- นอกลอนดอน ควรเช็คสถิติอาชญากรรมและความอันตรายต่างๆ ก่อนเลือกที่พัก ลองดูได้จากเว็บ Crime Statistic กูเกิ้ลเยอะๆ และอย่าลืมคุยกับ student advisor เชื่อคนท้องถื่นไว้ค่ะ
เวลาเลือกที่พัก ควรดูอะไรบ้าง?
- ความชื้น (damp) มองให้ละเอียดค่ะว่ามีร่องรอยความชื้นรึเปล่า โดยมากพวกนี้จะมาในรูปแบบของเชื้อราดำๆ อี๋ๆ ตามผนังหรือมุมห้องค่ะ บางทีจะได้กลิ่นชื้นๆ ด้วย ถ้าเจอแบบนี้ควรเลี่ยงค่ะ เพราะอันตรายต่อสุขภาพ และยังทำให้เห็นด้วยว่าแลนด์ลอร์ดหรือเจ้าของบ้านไม่ค่อยใส่ใจค่ะ
- น้ำ ไฟ เฟอร์นิเจอร์ อยู่ในสภาพดีหรือเปล่า ใช้ได้รึเปล่า (ลองขอเค้าเปิดน้ำร้อน กดชักโครก อะไรแบบนี้ก็ได้จ้ะ อย่ากลัว) มีอะไรให้เราบ้าง บางที่เป็นแบบบ้านแชร์ แต่ห้องครัวเละมาก อันนี้ขอบายนะจ๊ะ
- Location ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ เลือกที่เดินทางสะดวก มีรถเมล์ เดินถึงสถานีรถไฟ หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้เราติดแหง็กอยู่ที่บ้านอย่างเดียว
- ความปลอดภัย สำรวจด้วยว่าในห้องเรามีล๊อคมั้ย? ประตูหน้าบ้านมีรั้วรอบขอบชิดรึเปล่า?
- ในเว็บ Save the student เค้าทำ checklist ไว้ได้ละเอียดดีมาก เราแวะไปดาวน์โหลดกันได้ตรงนี้ค่ะ
เวลาทำสัญญาเช่า ต้องดูอะไรบ้าง?
- รายละเอียดค่าเช่า ระยะเวลาเช่า วันที่ต้องจ่ายค่าเช่า วิธีจ่ายค่าเช่า
- เช็คว่าค่าเช่ารวมอะไรไปแล้วบ้าง ต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ตเพิ่มรึเปล่า
- Inventory check อันนี้คือเช็คสภาพบ้านและของใช้ต่างๆ ก่อนเราเข้าไปอยู่ค่ะ แนะนำให้ถ่ายรูปไว้ทุกจุด จดรายละเอียดให้ครบ อันไหนมีรอย อันไหนพัง จดให้ละเอียด เค้าจะได้ไม่สามารถโทษเราได้ทีหลังเน้อ
- ถ้าเกิดปัญหาระหว่างเช่าอยู่ ต้องติดต่อใคร บางที่จะให้คุยกับเอเจ้นท์ แต่บางที่ก็ให้คุยกับแลนด์ลอร์ดโดยตรงค่ะ