จดเลคเชอร์อย่างไรถึงจะดี
การจดเลคเชอร์ถือว่าส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการเรียน และเป็นเรื่องจำเป็นมากที่คุณจะต้องจดเนื้อหาที่ชัดเจนและถูกต้องเพื่อใช้ในการอ่านสอบต่อไป และในวันนี้ฮอทคอร์ทจะมาบอกถึงวิธีง่ายๆในการจดเลคเชอร์ที่ได้ข้อมูลครบถ้วนและง่ายต่อการใช้งาน
ก่อนเข้าเรียน
1.ทำการบ้านและอ่านหนังสือก่อนเข้าเรียนในทุกวัน เพราะอาจารย์ที่จะมาสอนเลคเชอร์คุณนั้นจะพูดนอกเหนือไปจากเนื้อหาที่คุณเรียน ดังนั้นถ้าคุณไม่อ่านมาก่อน คุณก็จะไม่รู้เนื้อหาคร่าวๆว่าคุณกำลังเรียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร และจะจดเลคเชอร์ในเรื่องที่ไม่สำคัญและไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาลงไปโดยไม่จำเป็น
แต่บางครั้งก็มีอาจารย์บางท่านที่สอนเหมือนกับเนื้อหาในหนังสือ ซึ่งในกรณีนี้คุณก็ควรพิจารณาดูว่าคุณจะอ่านไปก่อนดีหรือไม่ แต่โดยส่วนมากแล้วการอ่านเนื้อหาไปก่อนเลคเชอร์ก็ไม่ได้เป็นเรื่องแย่เสมอไป
2.เข้าไปอ่านหัวข้อในการเลคเชอร์ในแต่ละคาบก่อนเสมอ เพราะอาจารย์ส่วนมากมักจะประกาศหัวข้อในการเลคเชอร์ในแต่ละคาบเอาไว้ และมันเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะรู้ว่าในคาบนั้นอาจารย์จะสอนเกี่ยวกับอะไร เพื่อที่ในระหว่างที่เรียนคุณจะได้สามารถคาดเดาเนื้อหาได้ก่อน และทำความเข้าใจกับมันได้ล่วงหน้า
3.เลือกก่อนว่าคุณจะจดเลคเชอร์ในสมุดใด และเตรียมอุปกรณ์การเรียนให้พร้อม การนำโนตบุคไปเรียนด้วยอาจจะทำให้คุณจดได้เร็วขึ้นถ้าคุณเป็นคนพิมพ์ดีดได้เร็ว อย่างไรก็ตามอย่าลืมพกสมุดกับดินสอไปด้วย รวมถึงกระดาษเปล่าก็จะดีมาก
จำไว้เสมอว่าคุณอาจจะต้องใช้อุปกรณ์ในการจดเลคเชอร์แตกต่างกันไปในแต่ละวิชา เช่น จะเป็นการดีกว่าถ้าคุณจดลงสมุดในวิชาคณิตศาสตร์ แต่ใช้โนตบุคในวิชาประวัติศาสตร์ เป็นต้น
ในระหว่างเรียน
1.พยายามฟังในช่วงต้นของการเลคเชอร์ให้ดี โดยจดหัวข้อในการเลคเชอร์นั้นๆลงไปให้หมด เพื่อที่คุณจะได้ไม่สับสนกับเนื้อหาในภายหลังเมื่อกลับมาอ่าน อีกทั้งการรู้หัวข้อของเนื้อหาก็จะทำให้คุณจดเลคเชอร์ได้เป็นลำดับอย่างถูกต้องและเป็นส่วนๆมากขึ้น
2.จดทุกอย่างให้เป็นหัวข้อๆ เพราะมันจะเป็นการแจกแจงและเข้าใจได้ง่ายกว่าการจดยาวๆ นอกจากนี้ อย่าลืมว่าอาจารย์อาจจะไม่ได้เรียงลำดับความสำคัญของเนื้อหาย่อยๆในแต่ละหัวข้อ คุณจึงควรมีการมาจัดการกับเลคเชอร์ที่จดไว้ในภายหลังการเรียนด้วย เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและเมื่อกลับมาอ่านจะได้ไม่เกิดความสับสน
3.หลีกเลี่ยงการใช้คำฟุ่มเฟือยต่างๆ รวมถึงข้ามคำที่ไม่จำเป็นออกไป และเลือกจดเฉพาะสิ่งที่เป็นเรื่องหลักของประโยคนั้นๆ เช่น ไม่จดคำอย่าง "the" และ "a" เพราะมันไม่จำเป็นและสามารถข้ามมันไปได้ นอกจากนี้ลองสร้างคำย่อสำหรับประโยคต่างๆที่ยาว เพื่อประหยัดเวลาในการจด เช่น IR แทนคำว่า international relations เป็นต้น
ควรจำเอาไว้เสมอว่า จุดประสงค์ของการเลคเชอร์คือเข้าใจในสิ่งที่อาจารย์สอน ไม่ใช่จดในทุกคำพูด
4.พยายามจดเนื้อหาออกมาเป็นลำดับขั้น หรือ เลือกจดประเด็นและกุญแจสำคัญของเนื้อหา โดยการเลือกใช้คำที่แสดงถึงเหตุและผล และลำดับต่างๆ เช่น
There are three reasons why...
First... second... third...
The significance of _____ is...
The impact of ______ is...
From this, we can see...
5.พยายามจดตัวอย่างของเนื้อหาหรือประเด็นที่ยากแก่การเข้าใจลงไปด้วย เพื่อที่เวลาคุณกลับมาทบทวนจะได้ไม่ลืมและง่ายต่อการทำความเข้าใจซ้ำ อีกทั้งใช้วิธีการเขียนไดอะแกรมเกี่ยวกับประเด็นที่สำคัญที่ง่ายต่อการลืม
6.ถ้าในช่วงท้ายของการเลคเชอร์มีการพูดสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาทั้งหมด คุณควรสนใจฟังให้มากที่สุด เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คุณสามารถใช้เช็คดูว่าเลคเชอร์ที่คุณจดนั้นมีประเด็นหรือเนื้อหาหลักครบถ้วนแล้วหรือยัง
7.อย่าลืมที่จะถามคำถามเกี่ยวกับประเด็นที่คุณไม่เข้าใจในช่วงท้ายของการเรียนในคาบนั้น และจดคำตอบของคำถามจากนักเรียนคนอื่นๆไว้ด้วย เพราะมันอาจจะเป็นข้อมูลที่จำเป็นเช่นเดียวกัน
----------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจ