
เรียนต่อสุขภาพและการแพทย์ในต่างประเทศ
หลักสูตรสุขภาพและการแพทย์เป็นอีกสาขาหนึ่งที่นักศึกษานานาชาตินิยมเลือกเรียนต่อ เรามาอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรนี้กันค่ะ
สุขภาพและการแพทย์คืออะไร ?
การเรียนด้านสุขภาพและการแพทย์ เป็นสายอาชีพที่ทำงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้อื่น ในขณะที่พวกเขากำลังเจ็บป่วยและอ่อนแอที่สุด ซึ่งถือเป็นงานที่มีเกียรติและน่านับถือเป็นอย่างยิ่ง เพราะคุณได้ช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นในทุกๆวัน โดยการจะทำงานนี้ได้อย่างมีความสุขจะต้องเป็นคนที่มีมนุษยธรรมและเข้าใจชีวิตด้วยค่ะ
เป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่าเราทุกคนต้องป่วยไม่วันใดก็วันหนึ่ง ดังนั้นอาชีพทางสุขภาพและการแพทย์จึงเป็นที่ต้องการของทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา และเนื่องจากคุณมีความรู้ความสามารถติดตัวทำให้คุณสามารถหางานทำที่ไหนบนโลกก็ได้
บางคนมีโอกาสได้มาเรียนรู้การทำงานด้านการแพทย์ในต่างประเทศซึ่งเป็นการแสวงหาความรู้และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ความช่วยเหลือแก่เพื่อนมนุษย์ เช่น "การแพทย์ที่ไร้พรมแดน" เพื่อเป็นการเติมคุณค่าให้กับชีวิตของตัวเองและผู้ป่วยที่คุณรักษาอีกด้วย
ร่างกายของมนุษย์ประกอบไปด้วยอวัยวะต่างๆ กระดูก ซึ่งมีระบบการทำงานที่ซับซ้อน ดังนั้นการทำงานในด้านการแพทย์ จึงต้องมีการแบ่งสาขาเชี่ยวชาญเฉพาะทาง อย่างเช่น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางโรคหัวใจ เป็นต้นโดยคุณสามารถเลือกเรียนวิชาเฉพาะทางได้ตามความสนใจหรือตามประสบการณ์ที่คุณเคยสัมผัส ซึ่งการเลือกเรียนเฉพาะทางก็จะกลายเป็นอาชีพของคุณในอนาคตนั่นเองค่ะ
บางสาขาอย่างเช่น ศัลยแพทยศาสตร์ จะมีรายได้ที่สูงมาก โดยเฉพาะถ้าคุณเปิดคลีนิกเป็นของตนเองหรือได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมในโรงพยาบาล ดังนั้นการที่แพทย์หรือทันตแพทย์มีรายได้สูงถึง 6 หลัก ก่อนเกษียณนั้น ถือเป็นเรื่องปกติของสายอาชีพนี้
บุคลิกแบบไหนถึงเหมาะที่จะเรียนสุขภาพและการแพทย์ ?
ผู้ที่มีความปรารถนาที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของผู้อื่น เป็นคุณสมบัติที่เหมาะกับการเรียนด้านการแพทย์ ในขณะเดียวกันการทำงานกับผู้ป่วยที่กำลังอ่อนแอนั้น จำเป็นต้องมีความอ่อนโยนและมีจิตใจโอบอ้อมอารีย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากการรักษา "โรค" และการรักษา"ผู้ป่วย" มีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยในการรักษาโรคคุณสามารถเปิดตำราเพื่อทำความเข้าใจและเรียนรู้วิธีการรักษาได้ แต่กับคนป่วย ผู้ซึ่งมีความกังวล หวาดกลัวและมีคำถามต่างๆมากมาย คุณต้องใช้ทักษะส่วนตัวในการทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายใจและมั่นใจในการรักษาของคุณได้ด้วยค่ะ
หลักสูตรสุขภาพและการแพทย์ มีเนื้อหาความรู้มากมายที่ต้องทำการศึกษาอย่างละเอียด ดังนั้นถ้าคุณเลือกเรียนหลักสูตรนี้ คุณจะต้องเรียนหนักมากๆ ทั้งทำการบ้าน ชิ้นงาน และการสอบ นอกจากนี้คุณจะได้รักษาผู้ป่วยจริง ซึ่งฝากชีวิตไว้ในมือของคุณแล้ว ดังนั้นคุณจะทำพลาดไม่ได้เป็นอันขาด เพราะนั่นหมายถึงชีวิตของคนหนึ่งคนเลยทีเดียว !
อย่างไรก็ตามคุณต้องมีความสามารถที่จะนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงได้ด้วย ดังนั้นทักษะด้านการปฏิบัติก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกับความรู้ทางทฤษฎี (โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นศัลยแพทย์ หรือ แพทย์สาขาที่ต้องใช้ทักษะการปฏิบัติในการรักษาเป็นหลัก) นอกจากนี้การมีความสามารถในการรับมือกับสภาวะกดดันก็เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการทำงานด้านการแพทย์ต้องรักษาผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน โดยเฉพาะการตัดสินใจภายในเสี้ยววินาทีหรือการบรรเทาอาการเจ็บจากหนักให้เป็นเบา
ผู้ที่ประกอบอาชีพด้านสุขภาพและการแพทย์ต้องทำงานต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง อาจมีการถูกเรียกตัวด่วน ซึ่งคุณต้องทิ้งทุกอย่างในกรณีที่มีผู้ป่วยฉุกเฉินหรือมีการขาดแคลนแพทย์กะทันหัน
ดังนั้นการบริหารจัดการชีวิตส่วนตัวกับหน้าที่การงานอาจจะเป็นเรื่องที่ยากมาก โดยเฉพาะในปีแรกๆที่เริ่มทำงาน ซึ่งนักศึกษาควรคิดพิจารณาให้ดีถึงข้อเท็จจริงข้อนี้ก่อนเลือกเรียนหลักสูตรนี้ค่ะ
หลักเกณฑ์ในการรับนักศึกษาสุขภาพและการแพทย์มีอะไรบ้าง ?
หลักเกณฑ์โดยปกติคือนักศึกษาจะต้องผ่านการเรียนวิชาชีววิทยาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมาก่อนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยที่คุณสมัคร ซึ่งบางสถาบันจะมีการสอบเข้าของหลักสูตรแพทย์โดยเฉพาะ อย่างเช่น BMAT หรือ UKCAT
นักศึกษาควรตรวจสอบกฎเกณฑ์ ข้อกำหนดในการสมัครเข้าเรียนโดยตรงกับทางมหาวิทยาลัย
มีสาขาอะไรให้เลือกเรียนบ้าง ?
- สาขาสุขภาพทางเลือก
- สาขาการให้คำปรึกษา
- สาขาทันตแพทยศาสตร์
- สาขาสุขภาพศึกษา
- สาขาสุขภาพและความปลอดภัย
- สาขาแพทยศาสตร์
- สาขาสูติศาสตร์และการผดุงครรภ์
- สาขาการพยาบาล
- สาขาโภชนาการและสุขภาพ
- สาขาจักษุวิทยา
- สาขาเภสัชวิทยา
- สาขาสรีรวิทยา
- สาขากายภาพบำบัด
- สาขาจิตวิทยา
- สาขาสาธารณสุข
เส้นทางอาชีพในอนาคต
อาชีพก็จะขึ้นอยู่กับสาขาที่คุณเลือกเรียน โดยมีเส้นทางอาชีพดังต่อไปนี้
- แพทย์
- ศัลยแพทย์
- ที่ปรึกษาด้านการแพทย์
- นักกายภาพบำบัด
- พยาบาล
- สูตินารีแพทย์
- นักโภชนาการ
- เภสัชกร
- นักจิตวิทยา
---------------------------------------------
บทความน่าสนใจที่เกี่ยวข้อง