ขั้นตอนเรียนต่อ
เกาหลีใต้: การหางานและอาชีพ

ประสบการณ์เรียนภาษาและทำงานที่เกาหลีใต้ในบริษัทเอเจนซี่ติดต่อศิลปิน

share image

 

จุดเริ่มต้นจากความชื่นชอบนักร้องเกาหลี ทำให้ มีน - ศิโรรัตน์ สมภพสกุล หัดเรียนภาษาเกาหลีด้วยตัวเองมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นเพราะอยากอ่านเนื้อเพลงภาษาเกาหลีได้ จากนั้นเมื่อมาเรียนปริญญาตรีที่สาขาวิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอก็เลือกเรียนวิชาโทภาษาเกาหลีที่คณะอักษรศาสตร์ เพื่อขยายขอบเขตความรู้ด้านภาษาเกาหลีอย่างจริงจังสมกับที่เป็นติ่งระดับคุณภาพ เท่านั้นยังไม่พอ หลังเรียนจบปริญญาตรี มีนยังบินลัดฟ้าไปเรียนภาษาเกาหลีเพิ่มเติมถึงแดนกิมจิและได้ทำงานกับบริษัทเกาหลีเป็นระยะเวลาเจ็ดเดือนอีกด้วย

 

>> รวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนต่อเกาหลีใต้ <<

 

ครั้งแรกที่ไปเรียนภาษาที่เกาหลีใต้เลือกเรียนสถาบันไหน คอร์สอะไร?

พอเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยที่เมืองไทย มีนก็ไปเรียนภาษาที่ Ewha Womans University เป็นคอร์สเรียนภาษาที่อยู่ในมหาวิทยาลัย เราเลือกเรียน intensive program คอร์สนึงประมาณ 3 เดือน เรียนสองคอร์ส รวมแล้วก็ใช้ระยะเวลาเรียนทั้งหมดประมาณหกเดือน เรียนตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เก้าโมงเช้าถึงบ่ายโมง เขาจะสอนทั้งแกรมม่า พูด ฟัง อ่าน เขียน ในคลาสมีนักเรียนประมาณ 12-14 คนแล้วแต่ระดับ หลังจากนั้นก็กลับไทยมาเดือนสองเดือน เจอประกาศรับสมัครงานเลยลองสมัครดูค่ะ

 

:: ขอข้อมูลคอร์สเรียนที่ Ewha Womans University ::

 

 

การหางานในเกาหลีใต้ยากไหม ขั้นตอนการสมัครต้องทำยังไงบ้าง?

งานที่มีนเคยทำคือเห็นประกาศจากเพื่อนของเพื่อนใน Facebook เขาให้ส่งเรซูเม่ไป ไม่ได้มีขั้นตอนอะไรซับซ้อนเลยค่ะ และที่เกาหลีก็มีเว็บสมัครงานออนไลน์เหมือนกับที่ไทยด้วยนะคะ ชื่อว่า Jobkorea 

 

งานแรกในเกาหลีใต้ของเราคืออะไร?

ตอนนั้นทำงานที่บริษัทเอเจนซี่ติดต่อศิลปินเกาหลี ดูแลรับผิดชอบทุกงานที่เกี่ยวกับประเทศไทย เข้าไปก็เป็นตำแหน่งพนักงานทั่วไปค่ะ ทำได้ 3-4 เดือนก็ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าทีม แต่ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรมากขึ้นนะคะ บริษัทค่อนข้างเป็นกันเอง ไม่ได้เป็นบริษัทใหญ่โตอะไรมาก

 

บรรยากาศในการสัมภาษณ์งานเป็นยังไงบ้าง?

ตอนไปสัมภาษณ์ก็แอบเครียด เพราะยังพูดภาษาเกาหลีไม่เก่งมาก แต่บรรยากาศเป็นกันเองมากเลยค่ะ หัวหน้าก็จะพูดคุยถามทั่วไป เรียนภาษาเกาหลีมานานแค่ไหน แล้วถ้าย้ายมาอยู่ที่เกาหลีจะมีปัญหาอะไรไหม มีความรู้ความสนใจเกี่ยวกับ k-pop ไหม แล้วก็ให้เข้าไปคุยกับประธานบริษัทค่ะ แอบเกร็งแต่เขาใจดี เขาเข้าใจว่าเราเป็นคนต่างชาติ พูดเกาหลีไม่คล่องไม่เป็นไร แต่ถ้าฟังเขาพูดรู้เรื่องก็โอเค ค่อยๆ ฝึกกันไปค่ะ

 

คิดว่าอะไรทำให้เขาเลือกเราเข้าทำงาน?

จริงๆ งานนี้คืองานแรก ไม่เคยทำงานมาก่อน เขาก็รู้ว่าเราไม่มีประสบการณ์ แต่ด้วยเนื้อหางานมันไม่ได้ยาก แค่เข้าใจภาษาเกาหลีเป็นคนกลางสื่อการกันรู้เรื่องก็โอเคแล้วค่ะ เขาอาจจะเห็นว่าเรามีความพยายามและอยากทำจริงๆ บวกกับตอนนั้นเขาก็รีบหาคนด้วย แล้วมีนสมัครเป็นคนแรก เขาก็บอกว่าเลือกแล้วนะ ถ้าเปลี่ยนใจให้บอก เขาจะได้หาคนใหม่

 

หน้าที่ของเราต้องทำอะไรบ้าง?

มีนจะดูแลโปรเจคเกี่ยวกับประเทศไทยทั้งหมด หาลูกค้าเอง ติดต่อไปที่ไทย เสนอจัดงานแฟนมีต คอนเสิร์ต พรีเซ็นเตอร์โฆษณาให้ลูกค้าที่ไทย ถ้าเขาสนใจก็ดีลกันต่อค่ะ เหมือนเป็นคนประสานงานระหว่างไทยกับเกาหลี ทำงานวันจันทร์ถึงศุกร์ งานจะหนักบางช่วงค่ะ โดยเฉพาะช่วงที่ต้องเซ็นสัญญา

 

 

ตลอดระยะเวลาเจ็ดเดือนได้เรียนรู้อะไรจากการทำงานร่วมกับคนเกาหลีบ้าง?

คนเกาหลีเป็นคนใจกว้างกับผู้ร่วมงาน แต่ใจร้อนค่ะ อยากได้อะไรก็จะต้องได้ทันที ต้องทำงานให้เร็ว การที่ต้องประสานงานระหว่างสองประเทศ บางทีด้วยความที่วัฒนธรรมของสองประเทศที่ต่างกัน ทำให้มีนต้องคอยปรับเปลี่ยนคำพูดเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายฟังแล้วไม่รู้สึกแย่

 

ลักษณะการทำงานของคนเกาหลีแตกต่างจากคนไทยมากน้อยแค่ไหน?

ด้วยวัฒนธรรมที่ต่างกัน ลักษณะการทำงานก็ต้องมีสิ่งที่ต่างกันอยู่แล้ว สังคมการทำงานของคนเกาหลีเขาค่อนข้างเคร่งในเรื่องของการพูดกับคนตำแหน่งสูงกว่าค่ะ อย่างเช่นที่ไทย เราอาจจะเรียกหัวหน้าที่สนิทๆ ว่าพี่ได้ แต่ที่เกาหลียังไงก็ต้องเรียกหัวหน้า เรียกตำแหน่ง จะพูดจาสนิทสนมไม่ค่อยได้ค่ะ

 

ความสนุกในงานของเราคืออะไร?

ปกติก็สนใจเรื่องวงการบันเทิงของเกาหลีอยู่แล้ว มาทำงานตรงนี้ก็ตรงกับความสนใจเลยทำงานสนุกมากขึ้นค่ะ

 

นอกจากเราแล้วมีพนักงานจากประเทศอื่นอีกไหม?

มีคนจีนที่คอยดูตลาดจีนค่ะ

 

หลังจากลาออกจากงานแล้ว ตอนนี้ทำอะไรอยู่?

เรียนภาษาเพิ่มเติมอยู่ค่ะ มีนอยากฝึกพูดเยอะๆ ตอนนี้เลยเรียนเป็นสถาบันสอนภาษาที่ไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัย ชื่อว่า Green Korean Language School เรียนเป็นคอร์สปกติเลยค่ะ จะรู้สึกชิลล์กว่าเรียนที่ในมหาวิทยาลัยนิดนึง ซึ่งตอนนี้เรียนคลาสสูงสุดของที่สถาบันอยู่ เลยมีนักเรียนน้อยแค่ 4 คนเอง ข้อดีของการเรียนในสถาบันแบบนี้คือได้พูดเยอะ พวกสถาบันภาษาเขาเน้นพูดมากกว่าของมหาวิทยาลัยหน่อยค่ะ

 

หลักสูตรเขาก็จะสอนแกรมม่า พูดคุยถามตอบจากบทความที่อ่าน และคุยเรื่องทั่วไปด้วยค่ะ หนังสือที่ทางสถาบันใช้เป็นของมหาวิทยาลัยซอกัง คือซอกังเขาจะเน้นเรื่องสอนพูดอยู่แล้วด้วย เรียนวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตั้งแต่สิบโมงถึงบ่ายโมงค่ะ มีการบ้านทุกวันจะเป็นการทำแบบฝึกหัดใน workbook

 

หลังจากเรียนแล้วต้องมีการสอบวัดระดับด้วยไหม?

ภาษาเกาหลีจะมีสอบวัดระดับเรียกว่า TOPIK ค่ะ มี 6 ระดับ มีนเคยสอบเมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้วได้ระดับ 4

 

เพื่อนในคลาสส่วนใหญ่มาจากชาติไหน และส่วนใหญ่เรียนภาษาเกาหลีเพื่อจุดประสงค์อะไร?

ส่วนใหญ่ถ้าเรียนภาษาก็จะเจอแต่เพื่อนชาวต่างชาติค่ะ ส่วนมากจะเป็นจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง คิดว่าน่าจะเรียนเพราะชอบ K-pop บางคนก็จะเรียนต่อที่เกาหลี

 

ความเป็นติ่งเกาหลีให้อะไรกับเราบ้าง?

อย่างแรกเลยคือได้ฝึกภาษาค่ะ การดูคลิปนู่นนี่ทำให้ภาษาเราพัฒนาขึ้น หลังๆ ไม่ค่อยได้ดูที่มีซับไตเติ้ลแล้ว เวลาเราฟังแล้วแปลออกก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองค่ะ ฮ่าๆๆ แล้วก็ได้เพื่อนใหม่เพิ่มด้วย :)

 

อยากให้เล่าสถานการณ์ที่ฟินที่สุดของชีวิตติ่งเกาหลี?

เป็นงาน Fan Meeting งานนึงค่ะ ซึ่งแฟนคลับเข้าได้ประมาณ 150 คน แล้วหลังจบงานก็ให้ถ่ายรูปโพลารอยด์ด้วย เป็นแบบแฟนคลับหนึ่งคนกับเมมเบอร์สองคน T_T ดีใจน้ำตาจะไหลลลลล ได้ถ่ายกับเมมเบอร์ที่ชอบด้วย มีอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านเอามานอนดูได้ตลอดชีวิตค่ะ ฮ่าๆๆ

 

 

อยู่ที่ประเทศเกาหลีมานานแค่ไหนแล้ว ชอบอะไรในประเทศเกาหลีบ้าง?

ตอนนี้อยู่มาปีนึงแล้วค่ะ ชอบความสะดวกสบายในการเดินทางของที่นี่ รถไฟและบัสเข้าถึงได้หลายจุด มีนคิดว่าเกาหลีค่อนข้างเป็นประเทศที่ปลอดภัย กลับบ้านดึกๆ ยังไม่ค่อยน่ากลัวค่ะ แล้วก็ชอบแฟชั่น เครื่องสำอาง นวัตกรรมใหม่ๆ ของที่นี่

 

แล้วมีอะไรที่ไม่ค่อยชอบบ้างไหม? 

อาจุมม่า...(ป้าเกาหลี) ฮ่าๆๆๆ อาจุมม่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งมากกกค่ะ ชอบแซง ชอบดัน ชอบผลัก เจอบ่อยๆแอบหงุดหงิดนะ ฮ่าๆ อีกเรื่องคือคนเกาหลีสูบบุหรี่จัดมากกก

 

>> 3 สาขาวิชาน่าเรียนต่อในเกาหลีใต้ <<

 

มหาวิทยาลัยน่าสนใจในเกาหลีใต้

 

 

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สและสถาบัน

Ewha Womans University