
เรียนปริญญาเอก (PhD) ในสหราชอาณาจักร
ในขณะที่หลายคนเริ่มต้นทำงานทันทีหลังเรียนจบ แต่ก็มีอีกหลายคนตัดสินใจเรียนต่อไปอีกขั้น ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเรียนในสาขาที่จำเป็นสำหรับต่อยอดทางการงานหรือเรียนเพียงเพราะคุณสนใจในสาขาวิชานั้นๆก็ตาม แต่การเรียนในระดับปริญญาเอกก็เป็นการสร้างประโยชน์ที่คุ้มค่ากับการเพียรพยายาม ในวันนี้ Alejandra บรรณาธิการของ Hotcourses จะมาเล่าให้คุณฟังถึงการเรียนในระดับปริญญาเอก (PhD) ว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ในอนาคต
ในช่วงที่ค่าเล่าเรียนและเงินทุนทางการศึกษากำลังเปลี่ยนแปลง ทำให้คุณควรจะต้องพิจารณาให้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่คุณอยากจะเรียน ก่อนที่จะสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาเอก โดย Ph.D. หรือ Doctor in Philosophy คือการเรียนระดับสูงที่คุณจะต้องผ่านการฝึกฝนและมีประสบการณ์ในการทำวิจัยในหัวข้อที่คุณเชี่ยวชาญ ดังนั้น ทักษะที่คุณต้องมี จะมากกว่าทักษะทั่วไปที่ใช้ในการเรียนระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ซึ่งปกติแล้วการเรียนระดับนี้จะใช้เวลา 3 ปี เพื่อพิสูจน์ความสามารถและความเชี่ยวชาญผ่านงานวิจัย โดยสิ่งที่คุณจะต้องทำได้หรือแสดงออกมาเพื่อทำให้หัวข้องานวิจัยของคุณสมบูรณ์ มีดังนี้
- เชี่ยวชาญในสาขาของคุณ โดยมีความรู้พื้นฐานทั้งทฤษฎีและความเข้าใจที่เกี่ยวข้อง
- เข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับงานวิจัย
- มีความสามารถในการทำวิจัยด้วยตัวเอง
- มีความสามารถในการสื่อสารผลงานวิจัยหรือกล่าวบรรยายไปยังบุคคลทั่วไปได้
ในทางการทำงานแล้ว PhD จะผลักดันให้คุณไปสู่ตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการสอนหรือการวิจัย คุณจะพบว่าผู้สอนและหัวหน้าสาขาของคุณที่มหาวิทยาลัยจะจบ PhD ทั้งสิ้น เพราะมันเป็นสิ่งแสดงถึงการมีความรู้ความสามารถ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อคุณจบ PhD แล้วคุณจะไม่สามารถทำงานในด้านอื่นๆอย่างธุรกิจหรือการค้า ในทางตรงกันข้าม การที่คุณมีความเชี่ยวชาญและมีความกระตือรือร้นในการทำงานวิจัย จะเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพของคุณให้กับนายจ้างที่มองหาผู้ร่วมงานที่มีประสิทธิภาพเสียด้วยซ้ำ
โดยทั่วไปแล้ว PhD จะถูกอธิบายว่าเป็น “ผู้สร้างสรรค์ผลงานความรู้ที่เป็นต้นฉบับ” โดยได้รับการรับรองจากสถาบันการศึกษา แต่อย่างไรก็ตามองค์ความรู้ต้นฉบับที่เกิดขึ้นก็ค่อนข้างมีข้อจำกัด เพราะต้องขึ้นอยู่กับผลงานวิจัยของคนอื่นๆด้วย เพราะผลงานของเราที่ออกมาจะเป็นการรวมทั้งผลงานวิจัยของผู้อื่นและหัวข้อวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ต่างๆเข้าด้วยกัน องค์ความรู้ใหม่ที่แท้จริงจะมาจากทฤษฎีใหม่ที่ต่างออกไปหรือการทดลองในแนวทางอื่น ในระหว่างที่คุณเรียน คุณจะต้องเขียนวิทยานิพนธ์ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนข้อมูลให้กับงานวิจัยของคุณ และเมื่อคุณจบหลักสูตร คุณจะต้องส่งปริญญานิพนธ์ เพื่อสรุปทุกอย่างที่คุณทำและวิจัยอยู่ทั้งหมด
MPhil vs. PhD
คนมักจะสับสนและไม่เข้าใจว่าระหว่าง PhD และ Master's หรือ MPhil (Master of Philosophy) นั้น แตกต่างกันอย่างไรและมุ่งเน้นอะไร โดย MPhil จะมีวิทยฐานะที่ตำกว่า PhD ที่ผู้เรียนจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาขาวิชานั้นๆ และจะเรียนจบภายใน 1-2 ปีสำหรับการเรียนแบบเต็มเวลา นอกจากนี้ถึงแม้ว่าการเรียนในระดับ MPhil จะต้องทำวิจัยเช่นกัน แต่หัวข้อและเนื้อหาจะถูกจำกัดกว่า PhD
วิทยานิพนธ์ต้นฉบับ หรือ original work ในการเรียน PhD นั้นจะเน้นหรือให้ข้อมูลที่ลึกซึ้งกว่า MPhil เพราะการเรียนในระดับปริญญาเอกนั้น นักเรียนจะต้องมีความสามารถในการค้นหาความจริงและความสามารถในการวิเคราะห์และสังเคราะห์ที่สูงและมีศักยภาพ
ข้อดีและข้อเสียของการเรียน PhD
การเรียนในระดับ PhD นั้นจะเต็มไปด้วยความน่าอัศจรรย์ ความสนใจเบื้องลึกของคุณจะได้รับการตอบสนองด้วยการแชร์ความคิดกับผู้อื่นที่มีความคิดและความสนใจเหมือนๆกัน และยังเป็นการท้าทายเป็นอย่างมากเมื่อคุณสามารถทำในสิ่งที่คุณสนใจให้กลายเป็นความจริงได้ผ่านการทำวิจัย อย่างไรก็ตามการเรียนระดับนี้ก็ใช้เงินทุนสูง รวมทั้งเมื่อคุณตัดสินใจเรียนต่อแล้ว คุณก็จะมีโอกาสทางการงานที่ช้าขึ้นอีกด้วย
ถึงแม้ว่าการเรียนระดับบัณฑิตศึกษาจะเป็นข้อดีในการเขียนใบสมัครงาน และเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งคนอื่นๆ แต่เพียงแค่ตัวปริญญาก็ไม่สามารถทำให้คุณได้งานอย่างที่คุณต้องการ เพราะถึงนายจ้างชอบผู้ร่วมงานที่จบการศึกษาระดับสูง แต่คุณก็ต้องสามารถพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นได้ด้วยว่าคุณมีความสามารถจริงตามใบปริญญา เหมือนอย่างเช่นที่ Carl Gilleard, chief executive of the Association of Graduate Recruiters ได้กล่าวไว้ว่า “ถ้านักเรียนบัณฑิตศึกษา เลือกเรียนต่ออย่างมีเหตุผลและสามารถอธิบายได้ว่าสิ่งที่เขาเรียนมีค่าอย่างไรต่อนายจ้าง เขาก็มีคุณค่าพอที่จะเขียนวิทยะฐานะนั้นๆของเขาลงไปในใบ CV ของเขา”
โดยสรุปแล้ว PhD นั้นเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคุณที่ต้องยอมเสียสละเงินทุนในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร คุณควรคิดเสมอก่อนว่า PhD นั้นใช้เวลาในการเรียนและการทำงานที่หนักมาก ดังนั้น เพื่อการใช้เวลาสามปีอย่างมีความสุขในการเรียน คุณควรตัดสินใจให้ดีและแน่ใจว่าเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับคุณ
------------------------------------------------------------
ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติม
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตร PhD
ชีวิตหลังการเรียน PhD