
กลับมาต่อภาคสองกันกับหัวข้อสุดฮิตอย่างการเขียน Cover Letter ภาษาอังกฤษ เขียนยังไงให้ปัง โดนใจบริษัทจนเค้าอ่านแล้วต้องเสนอตำแหน่งให้เลยรัว ๆ มาดูกันค่ะ
อ่านภาคแรกได้ที่นี่ >> การเขียน Cover Letter ภาษาอังกฤษ (ภาค 1) อธิบายหมดว่า Cover Letter คืออะไร ควรเขียนแบบไหน วิธีเขียนต้องเริ่มยังไง ครบหมดจ้า
1 แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เราเรียนมาเกี่ยวกับงานที่เราอยากทำยังไง
อย่าคิดว่าแค่มีปริญญาก็เป็นจุดขายมากพอ เพราะเราต้องแสดงให้องค์กรเห็นว่าสิ่งที่เราเรียนมามีประโยชน์ยังไงกับตำแหน่งที่เราสมัครและกับตัวบริษัท
ถ้าจบมาตรง ๆ เช่น จบการตลาด อยากทำงานมาร์เก็ตติ้ง อันนี้ก็ง่ายหน่อย
ถ้าจบมาในสาขาที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้อง ก็พยายามวกกลับมาให้ได้ (ตรรกะเชื่อมโยงต้องมา) เช่น จบปรัชญาอยากเป็นนักข่าว ก็อาจจะบอกว่าเรียนปรัชญานั้นได้เรียนรู้เกี่ยวกับจริยธรรมของนักการเมืองและการทำความเข้าใจเรื่องความขัดแย้งซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการวิเคราะห์ข่าว เป็นต้น
2 อย่าพูดอะไรกว้าง ๆ ทั่วๆ ไป แต่ให้ยกตัวอย่างที่เฉพาะเจาะจง
อย่าพูดแค่ว่า "หนูเป็นคนสื่อสารเก่ง" (เขียนแบบนี้สื่อสารเก่งยังไง เอาปากกามาวง!) ต้องระวังค่ะเพราะใครๆ ก็พูดแบบนี้กันทั้งนั้น เราต้องแสดงตัวอย่างที่เฉพาะเจาะจงให้บริษัทเห็นสิว่าเก่งยังไง เช่น เคยมีประสบการณ์พูดโน้มน้าวใจเพื่อระดมทุนให้กับมหาวิทยาลัยและเป็นผู้ที่ระดมทุนได้สูงสุดมาแล้ว หรือว่าได้ไปฝึกงานเกี่ยวกับการบริการลูกค้าและได้รับหน้าที่ไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง (รับบทคนห้ามทัพ 1) พอมีตัวอย่างแบบนี้จะทำให้บริษัทเห็นภาพเราชัดขึ้นมากเลย
3 ถึงแม้จะเป็นงานที่ไม่ได้เงิน แต่ถ้าเกี่ยวข้องก็ขอให้ใส่ลงไป
ถ้าเคยฝึกงาน เคยเป็นอาสาสมัคร หรือทำงานโปรเจคท์ที่ไม่ได้เงิน แต่มันช่วยพัฒนาทักษะบางอย่างให้กับเรา ก็เขียนใส่ไปเลยค่า เช่น การไปออกค่ายชุมชนหรืออาสาสอนหนังสือให้เด็กซึ่งได้พัฒนาการสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่น อันนี้องค์กรอ่านแล้วจะปลื้ม เพราะแสดงให้เห็นว่าเรามีความรับผิดชอบและยังรู้จักทำกิจกรรมด้วย
4 โชว์ให้เค้าเห็นถึงความมุ่งมั่น อยากได้งานนี้จริง ๆ
พยายามใส่รายละเอียดให้เจาะจงกับเนื้อหาของตำแหน่งงานและสิ่งที่เราอยากจะทำ ยกตัวอย่างว่ามันเกี่ยวกับเรายังไงขึ้นมาได้เลยยิ่งดี หรือจะใส่วิสัยทัศน์ที่เรามองเห็นตัวเองในบริษัทนี้ไปก็ดีขึ้นไปอีก
5 ค้นคว้าหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ!
ทำความรู้จักองค์กรที่เราอยากจะสมัครงานซักหน่อยจะได้บอกเขาได้ว่าทำไมเราถึงอยากทำงานที่นั่น ไม่ใช่แค่เพราะ "เป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือ" หรือ "เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง" เช่นถ้าอยากทำงานให้ Lush ซึ่งเป็นแบรนด์ที่โด่งดังเรื่องแคมเปญด้านจริยธรรมในการไม่ทดสอบกับสัตว์ ก็อย่าใส่แค่ว่า "อยากทำงานที่นี่เพราะไม่ทำร้ายสัตว์" แต่ให้ยกตัวอย่างที่ชัดเจนว่า "เพราะแคมเปญ [x] ที่นำคนมาแสดงหน้าร้านให้เห็นว่าสัตว์ที่โดนทดสอบเครื่องสำอางนั้นโดนทำร้ายหนักแค่ไหนมันทัชใจดิฉันมากค่ะ เพราะ [เหตุผลอะไรก็ตามแต่]" ซึ่งมันจะทำให้เค้าเห็นว่าเราอยากทำงานกับเค้าจริงๆ ไม่ใช่บริษัทไหนก็ได้
ขอให้น้องๆ ทุกคนประสบความสำเร็จกับการสมัครงานค่ะ!