ถ้านึกถึงการไปเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ แน่นอนว่าไปอังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์คงเป็นประเทศที่นึกถึงเป็นที่แรกๆ แต่รู้มั้ยว่าเดี๋ยวหลายคนเริ่มนิยมไปเรียนภาษาอังกฤษในสิงคโปร์และอินเดียกันเยอะมากขึ้น!

    วันนี้ Hotcourses Thailand จะพาไปเทียบกันช็อตต่อช็อตเลยว่า 2 ประเทศนี้เป็นยังไง ประเทศไหนน่าเรียนภาษามากกว่ากัน?

Weather

Singapore 🇸🇬

    อากาศที่สิงคโปร์เหมือนบ้านเรา (ฮาาา) แต่จะไปคล้ายกับทางภาคใต้มากกว่า โดยมีช่วงหน้าฝนและหน้าร้อน โดยช่วงหน้าร้อนเริ่มประมาณเดือนมีนาคม-สิงหาคม และช่วงหน้าฝนจะเริ่มเดือนกันยายน-ภุมภาพันธ์ แต่ที่สิงคโปร์อาจดีกว่าหน่อยคือต้นไม้เยอะกว่าที่ไทย คือในเมือง (ถ้าเทียบกับกรุงเทพ) ก็คือร่มรื่นกว่า

India 🇮🇳

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าอินเดียเป็นประเทศที่ใหญ่มากกก (ก.ไก่ล้านตัว) คือภูมิประเทศมีทั้งเทือกเขา (หิมาลัย) อยู่ฝั่งด้านบน ด้านล่างก็จรดมหาสมุทรอินเดีย ทิศตะวันออกติดอ่าวเบงกอล ทิศตะวันตกติดทะเลอาหรับ สรุปคือมีหลายสภาพภูมิอากาศนั่นเองจ้า ขึ้นอยู่กับเมืองที่จะไปเรียนแล้วล่ะว่าจะเป็นยังไง

    ขอยกตัวอย่างอากาศเมืองยอดฮิตที่นักเรียนไทยนิยมไปเรียนภาษา อย่าง บังกาลอร์ (Bangalore) แล้วกันนะ ชาวเน็ตหลายคนบอกว่าอากาศดี (ดีกว่ากรุงเทพฯ) ร้อนบ้าง (แต่ไม่เท่าเองไทย) อากาศสบาย ต้นไม้เยอะมากกก

    ส่วนเมืองอื่นๆ ขึ้นอยู่กับที่ตั้งทางภูมิศาสตร์แล้วล่ะ สามารถเสิร์ชในกูเกิ้ลในได้เลย    

Cost of Living

Singapore 🇸🇬

    มาพูดถึงประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ ก่อน เป็นที่รู้กันว่าค่าครองชีพที่สิงคโปร์สูงที่สุดใน Southeast Asia แล้ว ดังนั้นทุกอย่างไม่ถูกแน่นอน แต่เนื่องจากเป็นประเทศที่เล็กมากๆ ทำให้ค่าครองชีพในเกาะไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ (ออกไปชานเมืองอาจถูกกว่าในเมืองใหญ่ๆ)

    ถ้าพูดถึงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษไปเลย ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 36,000 บาทสำหรับการเรียน 4 สัปดาห์ จนถึง 270,000 บาทสำหรับ 36 สัปดาห์จ้า (ราคานี้ยังไม่รวมค่าที่พักนะ) ถ้าพูดถึงค่าครองชีพโดยรวม สำหรับคนคนเดียวแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 800 SGD หรือ 18,000 บาทต่อเดือนจ้ะ นี่ไม่ได้พูดให้กลัวนะ ส่วนใหญ่ถ้าไปเรียนภาษา บางแห่งอาจมีที่พักให้อยู่แล้วและอาจรวมอยู่ในค่าเทอมและค่าธรรมเนียมที่จ่ายไปเลย ดังนั้นควรสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ดีก่อนจ้า

    ส่วนค่าเดินทาง ในสิงคโปร์คือรถสาธารณะเป็นที่ได้ความนิยมมาก ตามมาด้วยรถใต้ดินและแท็กซี่ เจ้ารถไฟใต้ดิน หรือ MRT คือไปได้ทุกที่ อาจต้องเดินต่อนิดหน่อยแต่ไม่ลำบากเกินไป ถ้าออกมาชานเมืองนิดนึงก็เดินได้ โดยตั๋ว MRT เที่ยวเดียวอยู่ที่ประมาณ 1.6 SGD หรือประมาณ 36 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะทางด้วยนะ ถ้าไปไกล หรือต้องไปหลายรอบก็เบิ้ลๆ ไปจ้า

India 🇮🇳

     มาถึงแดนภารตะบ้าง ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าอินเดียมีหลายเมืองใหญ่ เมืองที่นักเรียนไทยชอบไปเรียนภาษาได้แก่ บังกาลอร์ (Bangalore) ปูเน่ (Pune) ดาร์จีลิ่ง (Darjeeling) มุมไบ (Mumbai) เดลี (Delhi) เจนไน (Chennai) โกลกาตา (kolkata) ฯลฯ

    ขอยกตัวอย่างค่าใช้จ่ายในเมืองบังกาลอร์แล้วกัน (เพราะนักเรียนไทยไปเรียนภาษาเยอะมากๆ) โดยค่าเรียน 1 เดือนเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 บาท จนไปถึง 40,000 กว่าบาทสำหรับคอร์ส 3 เดือน ส่วนค่าครองชีพในบังกาลอร์จะอยู่ที่ 27,000 รูปี (ไม่รวมค่าห้องนะ) หรือประมาณ 11,000 บาทจ้า (Tips: ให้เอาเงินอินเดียหาร 2 จะได้เป็นเงินไทยโดยประมาณ)

    สามารถดูค่าใช้จ่ายยิบย่อยในบังกาลอร์ได้ที่นี่ https://www.expatistan.com/cost-of-living/bangalore

    Note: เมืองบังกาลอร์ที่ยกตัวอย่าง เป็นประหนึ่ง Silicon Valley ของอินเดียเลยนะ! แถมชาวเน็ตหลายคนก็คอนเฟิร์มว่าค่าครองชีพถูกกว่ากรุงเทพฯ มากโข ส่วนเมืองที่แพงๆ นั้น อ้างอิงจากรายงานของ Mercer เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดคือมุมไบ รองลงมาคือ นิวเดลี เจนไน บังกาลอร์ และโกลกาตา

    ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการเรียน ค่าครองชีพก็จะแตกต่างกันมากกกกในอินเดีย เรียกว่าหลายราคาเลยแหละเพราะประเทศเค้าใหญ่ด้วย

    ส่วนการเดินทาง ในเมืองใหญ่อย่างบังกาลอร์ เดลี มุมไบ มีรถไฟใต้ดินอยู่แล้ว หรือมีรถไฟ (บนดิน) ด้วย นอกจากนั้นมีบัสด้วย แต่ถ้าไปเมืองไม่แมสหน่อยก็อาจต้องใช้รถไฟ แท็กซี่หรือบัส หรือเดิน

Covid-19 Management

Singapore 🇸🇬

    ยังต้องพูดอีกเหรอ! การจัดการโควิด-19 ของประเทศนี้ คือเรายกให้เป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาค SEA ตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโควิดเลย นายกของสิงคโปร์ก็ออกมาสื่อสารกับคนในประเทศได้ดีมากๆ จนตอนนี้เค้าเริ่มทยอยฉีดวัคซีนกันแล้ว! (ฉีดให้ทั้งคนสิงคโปร์เองและคนต่างชาติเลยเด้อ --- คนไทยอย่างเราก็นั่งมองตาปริบๆ)

    ตอนนี้ผู้ป่วยทั้งหมดในประเทศ มีจำนวน 59,879 คน เพราะตรวจเชิงรุก ตรวจมากเจอมาก แต่มียอดผู้เสียชีวิตคือ 29 คนค่ะ

    การจัดการโควิด-19 ของสิงคโปร์คือบอกอะไรได้หลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของระบบสาธารณสุข ที่มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน สิงคโปร์มียอดหมอต่อจำนวนคนไข้น้อยกว่าประเทศอื่นๆ ด้วย ไหนจะการทำงานของรัฐบาลที่รวดเร็ว รับมือกับปัญหาอย่างมีระบบ

India 🇮🇳

    ส่วนในอินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อ 11 ล้านคน (ตัวเลขอาจดูเยอะ แต่เทียบกับประชากร 1.3 พันล้าน) และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 156,000 คน ถ้าจำกันได้จะมีช่วงนึงที่ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อในอินเดียพุ่งสูงมากก พุ่งปรี๊ดๆ เลย โดย Brookings ได้วิเคราะห์ว่า ในภาพรวมระดับชาติ อินเดียรับมือกับโควิด-19 อย่างกระท่อนกระแท่นพอสมควร เพราะมีการตรวจเชิงรุกต่ำ ระบบสาธารณสุขที่ใกล้พังเต็มที และไม่มี social protection ที่ดี และถ้ามองลงไปในระดับรัฐ คือนโยบายไม่ประสานสอดคล้องกัน

    อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อินเดียเป็นฐานการผลิตวัคซีนในเอเชียด้วย ทำให้ประเทศเริ่มมีความหวังว่าจะเอาชนะโรคนี้ไปได้

English Language Courses

Singapore 🇸🇬

    ที่สิงคโปร์มีสถาบันสอนภาษาหลายแห่งมาก ราคาก็แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นที่  LASALLE College of the Arts, Singapore Management University (SMU), PSB Academy โดยที่นี่มีทุน PSB Academy Merit Scholarship ให้นักเรียนด้วยนะ

India 🇮🇳

    ที่อินเดียก็ไม่น้อยหน้า แต่ละเมืองก็มีหลายสถาบันภาษา เราคงบอกชื่อทั้งหมดไม่ได้แต่แนะนำให้หาข้อมูลให้ดีๆ คอร์สที่อินเดียก็มีหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นคอร์สปูพื้นฐาน คอร์ส IELTS คอร์ส Intensive คอร์สปูพื้นฐานทำงาน ฯลฯ

    ในการเลือกสถาบัน เราแนะนำให้ดูเมืองและชื่อเสียงสถาบันเป็นหลัก เพราะถ้าสองอย่างนี้ดี เราว่าชีวิตการเรียนภาษาคงน่าประทับใจไม่น้อย

เจาะลึก วีซ่าทำงาน 2 ปีหลังเรียนจบในอังกฤษ (Post Study work visa)

อัพเดต Ranking มหาลัยใน UK และทำความเข้าใจกับ Post study-work visa

Infographic มาทำความรู้จักวีซ่าหลังเรียนจบของประเทศต่างๆ กันเถอะ