ฮัลโหลค่าซิสทุกท่าน วันนี้มิสกลับมาอีกครั้งกับซีรี่ส์ย้ายประเทศถาวร ครั้งที่แล้วมิสพาลัดฟ้าสู่ ‘แคนาดา’ สืบลู่ทางการได้ Permanent Resident Visa ใครที่ยังไม่อ่านเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ สืบประสบการณ์จริง เรียนต่อนอก จบแล้วได้อยู่ถาวร (ฉบับคนโสด)
สัปดาห์นี้มิสขอบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก สู่ประเทศปลายทางซึ่งตั้งอยู่แถบซีกโลกใต้ ประเทศนี้เป็นหมู่เกาะ เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เป็นดินแดนของกีวีซี่เป็นทั้งชื่อนกและชื่อผลไม้ พอเดากันออกแล้วยังคะ? ประเทศที่ว่าก็คือ ‘นิวซีแลนด์’ นั่นเองค่า ประสบการณ์แต่ละคนจะเป็นยังไง ตามรายงานมิสไปดูเลยค่ะ!
ก่อนอื่นมิสขอยกคอมเมนท์ของคุณ กอดcoco ในกระทู้นี้ เพื่อทำความเข้าใจกับซิสอีกครั้งว่าการที่ประเทศเหล่านี้เปิดให้ขอวีซ่า PR เป็นเพราะอะไรกัน
เริ่มต้นด้วยหลักการความต้องการของประเทศที่เปิดโอกาศให้คนย้ายสัญชาติ คือต้องมีความสำคัญให้กับประเทศ (อันนี้ตัดเรื่องสมรสกันไป) ก็คือต้องมีงานทำและงานก็เป็นงานที่ขาดแคลนหรือเป็นประโยชน์ต่อประเทศครับ ดังนั้นก็ควรจะมาดูกันตรงจุดนี้ และงานก็สำคัญอีกอย่างคือถ้าเราทำงานเราก็มีเงิน ดังนั้นโจทย์มันก็มีอยู่แล้วคือ ถ้าจะมาเป็น PR โดยไม่สมรส ก็ต้องมาหางานที่ดีครับ
ดังนั้นถ้าเราชอบสายอาชีพใดๆที่ขาดแคลนแบบนี้ก็สบาย ก็เรียนและหางานทำให้ตรงสายครับ ทำงานมีเงิน พอมีเงินการงานมั่นคงมันก็มีคุณสมบัติได้ PR เองครับ อย่างที่ NZ ก็ลองเรียนเชฟ เรียน hospitality ก็เป็นอาชีพที่ต้องการและเงินดีครับ เดี๋ยวจะยาวรอท่านอื่นมาตอบบ้างครับ
อ่านมาถึงตรงนี้ซิสอาจจะร้องเสียงหลงว่าอ้าวววว จะรู้ได้ยังไงว่าอาชีพของเราอยู่ในรายชื่ออาชีพที่ขาดแคลนรึเปล่า? ไม่ต้องห่วงนะคะ รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ทำเว็บไซต์นี้ไว้ให้เช็คแล้วจ้ะ https://skillshortages.immigration.govt.nz/ พิมพ์ชื่ออาชีพแล้วกดดูตัวเลือกวีซ่าได้เลยจ้ะ
เข้าเรื่องเลย มิสขอยกบทความ นโยบายการอยู่อาศัยในนิวซีแลนด์ โดยคุณชาคริต เทียบเธียรรัตน์มาให้อ่านกัน คุณชาคริตอธิบายได้ชัดเจนมากค่ะ
การขออนุมัติ PR นั้นแบ่งเป็นสองระดับคือการขอโดยใช้ประสบการณ์และความสามารถ (Skill Migrant) และการขอผ่านการลงทุน (Business Investment Category) ซึ่งทั้งสองระบบใช้มาตรฐาน ในการพิจารณาค่อนข้างแตกต่างกัน สำหรับ Skill Migrant นั้นการพิจารณามาจากการเก็บคะแนนโดยผู้สมัครหรือทนายความของผู้สมัครต้องกรอก Expression of Interest (EOI) ซึ่งเป็นการเก็บคะแนน โดยมีจุดมุ่งหมายง่ายๆ คือต้องเก็บคะแนนให้ได้ 160 คะแนนเพื่อให้ได้ PR หรือต้องให้ได้อย่างน้อย 100 คะแนน เพื่อจะได้มีชื่อในการจับฉลากประจำเดือน โดยคนที่ถูกจับขึ้นมาจะได้ PR
โดยจะขอพูดถึง Skill Migrant อย่างชาวเราเท่านั้นนะคะ (จะให้มิสไปลงทุนก็กลัวจะเจ๊งค่ะ) คะแนนที่ว่าจะดูจากคุณสมบัติดังนี้จ้ะ
- อายุ ต้องอายุไม่เกิน 55 ปี ยิ่งอายุเยอะจะยิ่งได้พ้อยท์น้อยค่ะ
- Skill Employment ทำงานอยู่ในนิวซีแลนด์ หรือ ได้รับ job offer แต่ละข้อมี 50 พ้อยท์เท่ากัน เลือกได้ข้อเดียว
- Qualifications จบการศึกษาระดับไหน ถ้าเรียนจบปริญญาตรีหรือโทจะได้ 50 พ้อยท์ ถ้าเรียนจบปริญญาเอกจะได้ 70 พ้อยท์ นอกจากนี้ยังถามอีกด้วยว่าเคยได้รับการศึกษาได้นิวซีแลนด์หรือไม่ โดยดูตามระดับการเรียนและจำนวนปี เช่น ถ้าเรียนปริญญาตรี 2 ปี หรือระดับ Post graduate 1 ปีขึ้นไปจะได้ 10 พ้อยท์ แต่ถ้าเรียน Post graduate 2 ปีขึ้นไปจะได้รับ 15 พ้อยท์
- Work Experience ประสบการณ์ทำงานกี่ปี ยิ่งเยอะ พ้อยท์ยิ่งมาก และจะถามว่าเคยทำงานในนิวซีแลนด์อย่างน้อย 1 ปีหรือไม่ ถ้าเคยจะได้รับ 10 พ้อยท์ นอกจากนี้จะถามว่าเคยทำงานในสาขาที่คลาดแขลนด้วยมั้ยค่ะ ถ้าเคยก็ได้รับพ้อยท์อีก
- Partner มีคู่หมั้นหรือแฟนไม่ โดยคู่หมั้นต้องพูดภาษาอังกฤษได้พอๆ กับเราด้วยนะคะ (เช่นมาจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร หรือมีผลคะแนนภาษาอังกฤษรับรอง) ถ้า Partner เราทำงานอยู่ในนิวซีแลนด์และมีคุณสมบัติด้านการศึกษาเริดๆ ก็จะได้พ้อยท์เพิ่มจ้า
ซิสคนไหนอยากดูว่าระบบพ้อยท์ทำงานยังไงกันแน่ กดเข้าไปตรงนี้เลยค่า จิ้มๆ เลยจ้ะ
และเนื่องจากว่ากระทู้รีวิวมันหายากมว๊ากกกซิส! แต่ไปขุดเจอกระทู้นี้ [CR] กล้าออกจาก Comfort Zone เพื่อไปเรียนภาษาอังกฤษ และได้เวิร์ควีซ่าทำงาน ประเทศนิวซีแลนด์ ของคุณ benleryui มาเลยจะนำมาแชร์ให้ซิสเป็นแนวทางกันค่า คุณจขกท. ได้ลาออกจากงานและไปเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์ ใช้เวลา 6 เดือนในการอัพสกิลภาษาอังกฤษจาก 0 สู่ Intermediate ค่ะ โดยตำแหน่งสุดท้ายคือ Manager ในฟาร์มแห่งหนึ่ง
เมื่อผมมั่นใจเรื่องภาษาอังกฤษในระดับหนึ่งระดับ Intermediate จากนั้นก็หาสมัครงานใรเว็บไซต์ http://trademe.co.nz หรือ http://seek.co.nz สิ่งที่ควรเตรียม
1. ข้อมูลส่วนตัว CV และ cover letter
2. วุฒิการศึกษา
3. ใบรับรองการทำงาน ฉบับภาษาอังกฤษ
หลังจากผมสัมภาษณ์ บริษัทได้ให้เอกสาร Job offer JD และหนังสือสัญญาการจ้างงาน ปกติประเทศนิวซีแลนด์ นายจ้างเค้าจะจ้างบริษัทจัดทำวีซ่า เรามีหน้าที่เตรียมเอกสารให้ครับเช่น วุฒิการศึกษา ใบรับรองการทำงาน ใบรับรองพฤติกรรม ใบขับขี่สำหรับงานที่ต้องขับรถ เอกสารทุกอย่างแปลเป็นภาษาอังกฤษ และตรวจสุขภาพตามข้อกำหนดประเทศนิวซีแลนด์ ระยะเวลาก่อนรอวีซ่าประมาณ 21-30 วัน
การทำงานบริษัทต่างชาติ แน่นอนว่าภาษาเราจะพัฒนาเร็วมากเพราะเราได้ใช้ทุกวัน ทุกเวลา เรื่องรายได้ก็ถือว่าโอเค คิดเป็นเงินไทยก็เกือบแสน แต่ภาษีค่อยข้างโหด 17.5% นอนจากนี้จะได้เรื่องคุณภาพชีวิต รวมถึงถ้ามีโอกาศทำงานวันหยุด หรือเสาร์ อาทิตย์ ก็ได้ค่าแรง 1.5 เท่า ตอนนี้ผมทำงานเข้าเดือนที่ 4 แล้วถือว่าได้ประสบการณ์ชีวิต ครับ
จะเห็นว่าจขกท. ได้รับ offer จากนายจ้างจึงทำให้หลายๆ เรื่องง่ายขึ้นมากค่ะ
และอย่างที่มิสบอกค่ะ หมั่นขยันหาความรู้และเพิ่มพูนทักษะเสมอ สิ่งพวกนี้จะพาเราไปสู่จุดมุ่งหมายเอง! และอย่าลืมว่าข้อมูลวีซ่าเปลี่ยนแปลงเสมอ คอยเช็คประจำจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดนะจ๊ะ
IELTS ไม่ต้องสูงก็เรียนต่อนิวซีแลนด์ได้สบ๊าย
นิวซีแลนด์ปรับวีซ่าหลังเรียนจบ เพิ่มสิทธิการทำงานสำหรับนศต่างชาติ
10 ทุนการศึกษาเด็ดที่นิวซีแลนด์
6 คอร์สที่เรียนจบแล้วมีลุ้นได้อยู่ยาวในแคนาดา