วิธีเตรียมตัวไปเรียนต่อนอกภายใน 1 ปี
เอ๊…ถ้าอยากไปเรียนต่อต่างประเทศปีหน้า เราควรต้องเตรียมตัวช่วงไหนนะ? ตอนนี้มันจะสายไปมั้ยหรือยังไง? แล้วเดือนไหนควรต้องเตรียมอะไรบ้าง? หลาย ๆ คำถามเหล่านี้อาจเป็นคำถามในใจของใครหลาย ๆ คน ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนเราก็อาจจะหาคำตอบได้ยากหน่อย เพราะข้อมูลมันเยอะมากกกก จนต้องเอามาสรุปกันเองแบบงง ๆ (แอดมินเป็นมาก่อนค่า) แต่ไม่ต้องเครียดค่ะ วันนี้ Hotcourses Thailand ขอเสนอตัว มาช่วยจัดตารางเวลาให้ทุกคนที่อยากไปเรียนต่อปีหน้าได้เอาไปใช้กันค่ะ มาเตรียมตัวไปด้วยกันเลย
เตรียมตัวอย่างไรให้ไม่พลาด
อยากเรียนต่อต่างประเทศปีหน้า ต้องเตรียมตัวนานแค่ไหน?
ระยะเวลาเตรียมตัวที่เหมาะสมที่สุดจะใช้เวลาประมาณ 12 – 16 เดือน ก่อนวันเปิดเทอม ส่วนเรื่องการรับเข้าของมากวิทยาลัย แต่ละประเทศมีเงื่อนไขการรับนักเรียนต่างกันควรตรวจเช็คให้ดี การวัดระดับที่ใช้มากที่สุดได้แก่ IELTS, TOEFL, GRE และ GMAT ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการสอบวัดผลแบบอื่น ๆ ที่บางหลักสูตรเค้าอาจจะขอเพิ่มเติมด้วย
สืบความยาก-ง่ายของการสอบ IELTS TOEFL GRE และ GMAT!
แจกเว็บฝึกทำข้อสอบ TOEFL ของฟรีและดีมีอยู่จริง
ควรสมัครเข้าเรียนเทอมไหน?
เราควรดูช่วงเวลาเปิดเทอมของมหาวิทยาลัย เพื่อที่จะได้เริ่มต้นแพลนได้ถูก ในต่างประเทศแบ่งภาคการศึกษาออกเป็น 3 ภาค
-
The Fall Term – ภาคฤดูใบไม้ร่วง เริ่ม กรกฎาคม – ตุลาคม July to October.
-
Spring Term - ภาคฤดูใบไม้ผลิ เริ่ม ธันวาคม – เมษายน December and April.
-
Summer Term – ภาคฤดูร้อน เริ่ม พฤษภาคม – สิงหาคม May and August.
แจกปฏิทินสำหรับวางแผนไปเรียนต่อป.โทต่างประเทศ - ใครจะไปขอให้มาโหลดจ้า
แจก checklist สวย ๆ น่ารัก ๆ สำหรับคนวางแผนจะไปเรียนต่อต่างประเทศจ้า
ช่วงเดือนไหนควรต้องทำอะไร?
ปีนี้
-
ตุลาคม
-
หาข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรและมหาลัยที่เราสนใจ เลือกมาราว ๆ 6 คอร์ส
-
ลิสท์ไว้ว่าแต่ละหลักสูตร แต่ละมหาลัย มีข้อกำหนดในการสมัครเข้าเรียนต่อยังไงบ้าง เช่น ต้องได้เกรดเฉลี่ยเท่าไหร่ ต้องได้ IELTS, TOEFL หรือผลสอบอย่างอื่นเท่าไหร่
-
เตรียมตัวสอบ IELTS, TOEFL, GRE, GMAT หรืออื่น ๆ ตามที่เค้าต้องการ เริ่มท่องศัพท์ อ่านหนังสือ
-
-
พฤศจิกายน
-
เตรียมข้อมูลสำหรับเขียนเรียงความเพื่อสมัครเรียนต่อ (Statement of Purpose: SOP)
-
ทำเรื่องขอจดหมายแนะนำจากอาจารย์หรือหัวหน้างาน (Recommendation letter)
-
ซ้อมทำข้อสอบ IELTS, TOEFL, GRE, GMAT หรืออื่น ๆ โดยจับเวลาและสร้างบรรยากาศให้เหมือนสนามสอบจริง
-
-
ธันวาคม
-
เลือกมหาลัยที่ต้องการสมัคร และเริ่มสมัครขอทุนได้เลย (ถ้าสนใจ)
-
ตะลุยสอบ IELTS, TOEFL, GRE, GMAT หรือข้อสอบอื่น ๆ ที่จำเป็น
-
ขั้นตอนเตรียมตัวไปเรียนต่อออสเตรเลีย อเมริกา อังกฤษ แบบ step-by-step
ปีหน้า
-
มกราคม
-
เขียนเรียงความสมัครเรียนต่อ (Statement of Purpose: SOP) อ่านทวนซ้ำ ๆ หลาย ๆ รอบ เผื่อเวลาลองให้คนอื่นช่วยอ่านด้วยก็ดีนะ
-
เตรียมเอกสารสำหรับสมัครเรียนให้ครบถ้วน เช่น resume, เรียงความ, จดหมายแนะนำ, หลักฐานการศึกษา, หลักฐานการเงิน, ปริญญาบัตร ฯลฯ (อย่าลืมแจ้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทำเอกสารไว้เนิ่น ๆ)
-
จัดการส่งใบสมัครและเอกสารไปยังมหาลัย
-
-
กุมภาพันธ์
-
ตอบกลับคำถามต่าง ๆ จากมหาลัย (ถ้ามี) ซึ่งควรตอบให้เร็วที่สุดทุกครั้ง
-
สมัครกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (ในกรณีที่จำเป็น)
-
-
มีนาคม - เมษายน
-
ได้รับจดหมายตอบรับจากมหาลัย เย้
-
ติดต่อมหาลัยและ Student advisor เพื่อจัดการเรื่องการจองที่พัก การเดินทาง และอื่น ๆ ที่จำเป็น
-
-
พฤษภาคม - กรกฎาคม
-
เตรียมเรื่องเงินให้พร้อม เช่น แลกเงิน เตรียมค่าใช้จ่ายไว้สำหรับเดือนแรก
-
ยื่นสมัครวีซ่า
-
-
สิงหาคม - กันยายน
-
พร้อมเดินทาง บินเลยค่า ขอให้สนุกกับการเรียนนะค้า
-