ขั้นตอนเรียนต่อ
เรียนในต่างประเทศ : การเตรียมตัวและการสมัครเรียน

วีซ่าทำงานหลังเรียนจบ ช่วยให้ฝันการทำงานต่างประเทศเป็นจริงหรือไม่

share image

    วันศุกร์อีกแล้วค่ะ หวังว่าทุกคนยังไหวอยู่เน้ออออ ใครไม่ไหวก็ช้าลงก่อน แล้วค่อยไปต่อ ส่วนใครที่พร้อมก็มาอ่านรายงานนักสืบของมิสค่ะ! สัปดาห์นี้ว่าด้วยเรื่องของวีซ่า ในทีนี้ก็คือ ‘วีซ่าหลังเรียนจบ’ นั่นเอง ใครว่าสิ่งนี้ไม่สำคัญ มิสขอตีปากก่อน เพราะรู้หรือไม่ว่า (รัวกลองงงง) หลายคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก! ไม่เชื่อเรามีโพลมาอีกแล้ว     

 

    ในเฟซบุ๊ก ซึ่งมีคนมาใช้เสียง 28 คน

96% บอกว่าวีซ่าหลังเรียนจบสำคัญต่อการเลือกประเทศไปเรียนต่อ

47% บอกว่าไม่สำคัญ

 

    ส่วนในทวิตเตอร์ มีคนมาโหวต 9 คน

66.7% บอกว่าสำคัญ

33.3% บอกว่าไม่นะ

 

    ซึ่งจะเห็นเลยว่าคะแนนของทั้งสองโชเชียลมีเดียเป็นไปในทางเดียวกันเลย คือสำคัญ! คือคนมากกว่าครึ่งโหวตว่าต้องนำมาพิจารณาในการเลือกประเทศเรียนต่อด้วย เพราะถ้าประเทศไหนไม่มีวีซ่าหลังเรียนจบก็อาจหมายความว่าไม่มีโอกาสได้ ‘ทำงาน’ หรือ ‘ฝึกงาน’ ในประเทศนั้นๆ ต่อนั่นเอง และหลายคนก็รู้สึกว่าถ้าไม่มีก็อาจจะต้องตัดออกจากช้อยส์ไปเพราะรู้สึกไม่คุ้มที่อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนแต่ไม่ได้ลงสนามจริงๆ เอาล่ะ เกริ่นพอกรุบกริบ ไปดูความเห็นชาวเน็ตอื่นๆ กันบ้างว่าเค้ามีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้

 

    เริ่มกระทู้นึงคือ เรียนต่อโทที่อเมริกา จะมีโอกาสได้ทำงานที่นั่นหลังเรียนจบมากแค่ไหน ซึ่ง คุณ dippydoodoo บอกว่ามีแผนจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา “ตอนแรกคิดว่าจะไปต่อฝั่งอเมริกาเพราะคิดว่าหลังเรียนจบมีโอกาสเข้าทำงานได้มากกว่าที่อังกฤษที่โอกาสทำงานแทบเป็น 0”  และเมื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับทำงานในอเมริกา ก็ไม่ได้คิดว่ายากอะไร “แต่พอคุยกับพี่ที่เรียนจบอเมริกามา เค้าก็บอกว่างานหายากมาก ต่อให้คนที่เก่งมากๆยังหาลำบาก”

    

    จขกท. ยังบอกอีกว่า “ถ้าโอกาสแทบเป็น 0 เหมือนกัน จขกท.ก็อาจจะติดสินใจไปเรียนอังกฤษที่ใช้เวลาน้อยกว่าแทนค่ะ”

 

    คุณ NAJ มาตอบว่า “ถ้าเรียนจบแล้ว จะมีโอกาสได้ฝึกงานต่อที่อเมริกาหนึ่งปี เรียกว่า Optional Practical Training (OPT) ซึ่งถ้าจบมาในบางสาขาที่ขาดแคลนก็อาจจะได้ต่ออายุเพิ่มอีก 18 เดือนได้

เวลาถือ OPT อยู่ สามารถทำงานได้ แต่ต้องตรงตามสาขาที่เราเรียนมา เช่นจบเคมีมา จะเอา OPT ไปใช้ทำงานเสิร์ฟตามร้านอาหาร อันนี้ถือว่าผิด

 

ถ้าทำงานดีมากๆ เจ้านายเห็นแวว บางคนก็จะได้รับการว่าจ้างต่อและบริษัททำเรื่องขอวีซ่าทำงานให้ ซึ่งก็จะมี quota ในแต่ละปี ไม่ใช่ว่าบริษัทอยากจะทำแล้วก็ขอได้เลย แต่ละปีมีจำนวนจำกัด นอกจากองค์กรที่ทำอยู่จะได้รับการยกเว้น เช่นทำงานกับมหาวิทยาลัย แบบนี้จะไม่ติดโควต้า

 

ถ้าอยากทำงานจริงๆ แนะนำให้เริ่มติดต่อหางานแต่เนิ่นๆตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เข้าหาอาจารย์ที่ปรึกษา เห็นหลายคนแล้วที่ได้งานเพราะอาจารย์ที่ปรึกษาแนะนำให้ ได้งานแล้วต้องทำผลงานอย่างดี รู้จักเข้าหาเจ้านายหาคนที่มีอำนาจตัดสินใจทำเรื่องขอวีซ่าต่อให้ได้

 

การออกวีซ่าทำงานให้ ทางบริษัทต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ ก็เป็นพันเหรียญ รวมค่าทนงทนายอีก ฉะนั้น ถ้าโชว์ให้เค้าเห็นไม่ได้ว่าเราทำเงินให้บริษัทได้มากกว่านั้น มันก็ยากที่เค้าจะอยากเสียเงินและเสียเวลาทำให้

ส่วนใหญ่พวกบริษัทเล็กๆจะไม่ค่อยทำให้ เพราะมันยุ่งยากต้องมีฝ่ายกฎหมายมาทำ ถ้าเป็นบริษัทใหญ่มากๆ ก็อาจจะทำให้ได้ง่ายหน่อย แต่ก็นั่นแหละ อัตราการแข่งขันสูง”

 

    ในกระทู้ ถ้าไปต่อป.โท ที่อังกฤษหรือออสเตรเลีย ถ้าจบแล้วสามารถทำงานต่อเลยได้ไหมครับ ?? คุณจขกท.ถามว่า “ผมกำลังสนใจในการไปเรียนต่อป.โทต่างประเทศ เลยอยากทราบว่าที่อังกฤษและออสเตรเลียที่ไหนที่จบแล้วสามารถขอวีซ่าทำงานเพื่อทำงานในประเทศนั้นต่อได้บ้าง

 

    คุณ สมาชิกหมายเลข 1270417 บอกว่า “ไม่ได้ครับ แต่หลังจบคุณยังจะพอมีเวลาทำงาน ระหว่างนี้แหละ ถ้าได้งาน ทำอะไรให้เข้าตานายจ้าง เขาอาจจะทำ work permit ให้คุณ”

 

    ‘เวลาทำงาน’ ที่หมายถึง ก็คือการใช้ Post-study work visa นั่นเอง ซึ่งก็จะแล้วแต่อีกว่าแต่ละคนใช้วีซ่านี้ได้นานเท่าไหร่ ถ้าเรียนจบในสาขาที่ขาดแคลนหรือเรียนป.เอก ก็อาจจะได้วีซ่ายาวกว่าค่ะ แต่ระยะเวลาขั้นต่ำของวีซ่านี้คือ 2 ปีจ้า

 

    อีกกระทู้ที่ถามกันโต้งๆ เลยว่า ประเทศไหนที่ไปเรียนจบปริญญาเอกแล้วสามารถอยู่ต่อจนขอ PR ได้บ้างครับ  ซึ่งมีคุณ สมาชิกหมายเลข 4693553 มาตอบไว้ว่า     

 

    แคนาดาขอได้ตั้งแต่เรียนจบปีแรกแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องรอ complete degree ไม่ขึ้นกับสาขาด้วย ขอได้หมดค่ะ เรามีเพื่อนเรียนวิศวะที่ Manitoba ฮีเรียนไม่จบเพราะมหาลัยตัดงบวิจัย ตอนนี้ฮีเป็น Canadian ไปแหละ ทำงานบริษัทเดียวกับเรา แต่ฮีอยู่ Head office แต่การเข้าป.เอกแคนาดาคือยากมากกกกกกกกก ยูท็อปเช่น UBC สมัคร 700 รับ 4 คน ขอสำคัญสำหรับการขอพีอาร์คือห้ามติดทุนค่ะ แต่เวลามหาลัยรับเด็กป.เอก ถ้าไม่มีทุนมาคือรับยากมากกกกกกกกกกก เราได้ Potential sup Queen's university ท่านบอกว่า high competitive มากสำหรับทุนเนี่ย ถ้ามีทุนมาเค้ารับเลย ป.เอกที่นี่คือเรียนฟรีเพราะต้องเป็น RA & TA จ่ายให้เดือนละประมาณ $2000 เกรดขั้นต่ำคือ 3.5 ค่ะ เรานี่ give up PhD ไปล่ะ เอาไว้เบื่องานเมื่อไหร่ค่อยลองสมัคร McGill ดู

 

    *โน้ตนิดนึง PR ที่พูดถึงคือ Permanent Resident Visa เอาภาษาง่ายๆ คือวีซ่าที่ทำให้เราอยู่อาศัยประหนึ่งเป็นพลเมืองประเทศนั้นๆ เลยค่ะ ใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมต้องไปเจิม 2 กระทู้นี้นะ มิสสืบมาให้แล้วค่า

 

สืบประสบการณ์จริง เรียนต่อนอก จบแล้วได้อยู่ถาวร (ฉบับคนโสด) @ แคนาดา + @ออสเตรเลีย

 

นอกจากนี้ใครอยากหาข้อมูลวีซ่าหลังเรียนจบ นี่คือลิสต์ที่ซิสต้องอ่านวนไปค่า เพราะมีประโยชน์มาก!

 

รู้จัก ‘วีซ่านับคะแนน’ แบบใหม่: คำตอบของคนเรียนจบแล้วอยากอยู่ยาวในอังกฤษ

Infographic มาทำความรู้จักวีซ่าหลังเรียนจบของประเทศต่างๆ กันเถอะ

ส่องสนามแข่งวีซ่าทำงานหลังเรียนจบ ประเทศไหนขอยาก ประเทศไหนได้ง่าย มาดูกัน

เจาะลึก วีซ่าทำงาน 2 ปีหลังเรียนจบในอังกฤษ (Post Study work visa)

 

สุดท้าย นี่เป็นประสบการณ์ส่วนหนึ่งของชาวเน็ตเท่านั้นนะ ไม่สามารถใช้เป็นหลักในการตัดสินใจเดี่ยวๆ ได้ ซิสต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยนะ!

 

 

MUST READ

article Img

ไขข้อสงสัย IELTS กับ TOEFL ต่างกันยังไง

ระบบคะแนน ทำความรู้จักระดับคะแนน IELTS กันก่อนล่ะกัน คือเขาจะแบ่งออกเป็นตั้งแต่ระดับ 1-9 สำหรับแต่ละทักษะ สอบเป็นฟัง พูด อ่าน เขียน พอได้คะแนนในแต่ละพาร์ทมาแล้ว เขาก็จะเอามาหารแล้วได้ออกมาเป็น Overall Score เช่นว่าบางที่อาจจะรับเฉพาะคนที่ได้คะแนนรวม 6 ขึ้นไปเท่านั้น ห้ามมีส่วนไหนได้ต่ำกว่า 5 ไรแบบนี้ (แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะบางมหาวิทยาลัยก็มี Presessional Courses ปรับพื้นฐานภาษาสำหรับคนที่คะแนนไม่ถึง)   แนะนำทางลัด

458.3K
article Img

วิธีเตรียมตัวไปเรียนต่อนอกภายใน 1 ปี

วิธีเตรียมตัวไปเรียนต่อนอกภายใน 1 ปี เอ๊…ถ้าอยากไปเรียนต่อต่างประเทศปีหน้า เราควรต้องเตรียมตัวช่วงไหนนะ? ตอนนี้มันจะสายไปมั้ยหรือยังไง? แล้วเดือนไหนควรต้องเตรียมอะไรบ้าง? หลาย ๆ คำถามเหล่านี้อาจเป็นคำถามในใจของใครหลาย ๆ คน ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนเราก็อาจจะหาคำตอบได้ยากหน่อย เพราะข้อมูลมันเยอะมากกกก จนต้องเอามาสรุปกันเองแบบงง ๆ (แอดมินเป็นมาก่อนค่า) แต่ไม่ต้องเครียดค่ะ วันนี้ Hotcourses Thailand ขอเสนอตัว

101.3K
article Img

รวมกลวิธีเตรียมสอบทุกทักษะ IELTS แบบไม่ง้อติวเตอร์

  ฝึกทักษะการฟัง - ดูรายการภาษาอังกฤษ ทักษะการฟังเป็นส่วนแรกที่เราจะต้องเจอในการสอบ IELTS ซึ่งโดยมากแล้วจะมาประมาณ 4 สถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป อาจจะเป็นการกรอกแบบสอบถาม การคุยกันกับเพื่อน เติมแผนที่ลงไปในโปรแกรมทัวร์อะไรเทือกๆ นี้     สิ่งหนึ่งที่เราต้องเตรียมตัวคือการฝึกหูของเราให้รับและคุ้นชินกับสำเนียงบริติช หลายครั้งคนไทยเราส่วนมากจะเจอแต่สำเนียงอเมริกัน จนเราชินกับสำเนียงเขาไปแล้ว

78.5K
article Img

IELTS Writing task 2 มีคำถามแนวไหน และต้องตอบอย่างไร

IELTS Writing task 2 มีคำถามแนวไหน และต้องตอบอย่างไร >>เตรียมตัวสอบ IELTS Speaking หัวข้อคำถาม >>หลักสูตรด้านภาษาอังกฤษ >>หลักสูตรภาษาอังกฤษแบบ EFL   (เรียนเป็นภาษาต่างประเทศ)   หลายๆ คนคงทราบว่าการสอบ IELTS นั้นแบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่การฟัง อ่าน เขียน และพูด ตามลำดับ โดยมีคะแนนเต็ม 9.0 ซึ่งจะนำคะแนนที่เราได้ในแต่ละ part มาเฉลี่ยกัน บทความนี้จะเจาะลึกที่การเขียน task 2

69.1K